Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ความเรียงในวันที่นึกได้
•
ติดตาม
25 ธ.ค. 2021 เวลา 08:03 • ไลฟ์สไตล์
ความทรงจำเรื่องความบันเทิงในบ้าน
(ความเรียงนี้มาจากความทรงจำครับ ไม่ได้ตรวจสอบความจริงตามเวลาที่เกิดขึ้นครับ)
สมัยก่อนโน้นนานมาแล้ว แต่ละบ้านก็จะนั่งล้อมวงทำงานกัน บ้างก็ล้อมวงกินอาหารกัน หรือทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันไปอย่างเงียบๆ
แล้วก็จะมีเครื่องมือคลี่คลายความเงียบต่างๆกันไป
ที่ยอดนิยมในสมัยก่อนนั้นก็น่าจะเป็นวิทยุครับ มีกันแทบทุกบ้าน
cr. google
รายการทางวิทยุในยุคนั้นนอกจากจะมีรายการส่งเสียงตามสายภาษาต่างประเทศและข่าวสารต่างๆแล้ว ก็ยังเฟื่องฟูมากด้วยละครวิทยุคลื่นเอเอ็มจากคณะละครต่างๆไม่ว่าจะเป็นนีลิกานนท์หรือเกษทิพย์ที่ชื่อดังสุดๆ หรือว่าจะเป็นรายการเพลงอย่างเช่นจิ๊กโก๋ยามบ่ายโดยคุณนฤชา เพ่งผลที่มักเปิดเพลงสากลหรือวันอาทิตย์ตอนเย็นกับผู้จัดที่เรียกตัวเองว่าปู่ นั่งอ่านจดหมายที่มีผู้ฟังส่งมาพร้อมเปิดเพลงไทยสากลสลับฉาก
สมัยก่อนนั้นโทรทัศน์คือของแพง แต่ไม่นานนักราคาก็ถูกลงพอหาซื้อมาดูกันได้โดยทั่วไป ที่บ้านก็หามาไว้ได้อยู่ซึ่งเป็นไปตามสมัยนิยมที่หลายๆบ้านมีไว้ในครอบครอง ไม่งั้นต้องไปอาศัยดูที่บ้านในละแวกใกล้เคียงกัน เขาเปิดช่องอะไรก็ต้องดูตามเขาไป
โทรทัศน์เราเป็นขาว-ดำ บ้านอื่นเป็นสี
cr. google
บ้านเราเปิดน้อย เน้นดูข่าว หลังๆได้ดูอย่างอื่นบ้างอย่างละครโทรทัศน์ หนังหลอกเด็กพวกไอ้มดแดง หรือว่าจะเป็นการ์ตูนต่างๆ
ช่วงนั้นเป็นรายการแต่ละช่องจะเปิดราวๆ11โมงหรือเที่ยง แล้วปิดชั่วคราวตอน18:30 แล้วเปิดอีกครั้งช่วง2ทุ่ม
เป็นการประหยัดพลังงานครับ ป๋าเปรมท่านออกนโยบายมา เราผู้น้อยก็ปฏิบัติตาม
แล้วบ้านเราก็จะนั่งล้อมวงกินมื้อเย็นช่วง18:30จนติดเป็นนิสัยมาถึงปัจจุบัน
พอละอ่อนน้อยหลายคนเริ่มเรียนประถมก็เป็นขณะเดียวกันที่วิทยุเริ่มลดบทบาทลง โทรทัศน์เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นตามลำดับ แต่เนื่องจากที่บ้านไม่ได้ติดดูโทรทัศน์นักประกอบกับเน้นอ่านหนังสือมากกว่า รายการอะไรต่อมิอะไรก็ไม่ค่อยสนใจ เปิดเจออะไรก็ดูไป
แต่พอโตขึ้น นโยบายประหยัดพลังงานก็เลิกไป รายการโทรทัศน์ต่างๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คราวนี้ความสนใจดูโทรทัศน์มันก็มากขึ้นด้วยตามลำดับ
แน่นอนว่ารายการบันเทิงต่างๆ วาไรตี้ หนังที่ฉายตามโทรทัศน์ หนังชุด หรือจะเรียกว่าซีรี่ย์แบบสมัยนี้ก็มีไม่น้อย
แต่ว่าของไทยไทยเราเองก็ยังยึดหัวหาดไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ที่ติดตาคือละครไทยครับ
ละครไทยที่ตามดูก็พวกช่อง9เป็นหลัก ละครจัดว่าดี เนื้อหาอาจประโลมโลกเมโลดรามาไปหน่อย แต่ก็สนุก ช่วงนั้นยังมีการบอกบทกันอยู่เลยครับ
รองมาก็เป็นช่อง3 อันนี้จำได้ว่ามีวงGreen Appleเป็นตัวเปิด ละครที่คุณภัทราวดี ศรีไตรรัตน์(ขณะนั้น) นำแสดง แล้วก็เริ่มดูข่าวจากช่องนี้ครับ พวกข่าวเทเล็กซ์จากต่างประเทศ
ต่อมาช่อง5 ส่วนใหญ่ครองใจละอ่อนน้อยอย่างผมเพราะการ์ตูนกับไลฟ์แอคชั่นอย่างไอ้มดแดง อ้อ พวกซีรี่ย์เมืองนอกก็ดังนะครับ อย่างขุมทรัพย์ทะเลเหนือ มนุษย์มัจฉา หรือจะละครที่จำได้ก็พวกเมียจำเป็น วิหคเหินฟ้า
ส่วนช่อง7เน้นดูวาไรตี้แบบประตูดวง ขายหัวเราะ ซีรี่ย์จีนพวกมังกรหยกทั้ง2ภาค จิ้งจอกภูเขาหิมะ เหยี่ยวเดือนเก้า
ช่อง11ยังไม่เกิดเลย
cr. pantip
ยุคสมัยเปลี่ยนไป...
ละครวิทยุจากคลื่นเอเอ็มลดความนิยมจากบ้านเราไปตามเวลา กลายเป็นรายการจากคลื่นเอฟเอ็มที่ค่อยๆได้รับความนิยมมากขึ้น
รายการโทรทัศน์ก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน
รายการที่เราเคยดูก็ล้มหายตายจาก เปลี่ยนไปสารพัด
ช่องที่เคยติดตามก็เปลี่ยนไปเรื่อย
ช่อง3 เน้นบันเทิงซีรี่ย์ฝรั่งอย่างKnight Rider, Street Hawk, Stingray กับหนังชุดจีนอย่างที่ดังสุดๆก็เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้,คมเฉือนคม คู่ไปกับละครไทย เน้นนำเข้าคอนเสิร์ตจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นHelen Reddy หรือว่าจะเป็นNeil Sedaka
ช่อง5 ยังครองใจผมเหมือนเดิมด้วยเหตุผลเก่า แต่ว่าเริ่มน้อยลง อ้อ รายการทำอาหาร ทำขนมก็เริ่มดูจากช่องนี้ล่ะครับ แล้วก็รายการวาไรตี้ยอดนิยมต่างๆด้วย ชอบ
กลับกันที่ช่อง7 ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ละครพื้นบ้านนี่เริ่ดมากไม่ว่าจะเป็นแก้วหน้าม้า,นางอุทัยเทวี หรือว่าจะละครผีๆอย่างปอบผีฟ้า,กระสือที่เอาเข้าจริงๆก็น่ากลัวทั้งเพลงและเนื้อเรื่องเลยล่ะครับ ติดตาติดหูมาก
ช่อง9 เน้นดูรายการวิชาการหน่อยๆอย่างไอคิว180 หรือช่วงหลังที่เริ่มมีการ์ตูนตอนทุ่มครึ่งหรือ2ทุ่มครึ่งนี่ล่ะครับอย่างBlue Noah , Star Blazers(หรือเดิมคือเรือรบอวกาศยามาโตะ) ทรีตอนลูกทะเล สนุกดี
ช่อง11ที่เริ่มเปิดตัวก็เน้นไปที่มสธ.แต่ก็มีสารคดีที่น่าสนใจเยอะ รวมทั้งมีซีรี่ย์ฝรั่งอยู่2-3เรื่อง จำได้ว่าน่าจะเป็นMoonlightingนะ
ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้เราเลิกฟังรายการจากวิทยุเอเอ็มแล้วหันมาฟังรายการเพลงและบันเทิงผ่านคลื่นเอฟเอ็มกันมากกว่า
เจ๊เริ่มซื้อหาเทปมาฟังกันในบ้าน ฟังเพลงตามสมัยนิยม ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกวงฮ็อตเปปเปอร์ซิงเกอร์ส วงชาตรี ถ้าเพลงสากลก็เทปผีล่ะครับ
cr. google
โทรทัศน์ก็เริ่มดูมากขึ้น เน้นบันเทิงเข้าว่า นอนดึกแต่ยังไม่กล้าขนาดเที่ยงคืนเพราะป๊าม้าคุมอยู่
จะให้นอนแต่เช้าๆ เรียนตอนบ่ายจะได้ไม่ง่วงไง
แล้ววิดีโอก็มาถึงบ้าน ป๊าเป็นคนเอามาตามสมัยนิยมเช่นกัน
cr. google
ถึงคราวเช่าม้วนกันเป็นล่ำเป็นสัน เลือกเรื่องได้ตามชอบ เน้นหนังชุดจีนเป็นส่วนใหญ่ การ์ตูนกับหนังฝรั่งก็มีประปรายแล้วแต่ว่าร้านเช่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง
สุดท้ายปัจจุบันร้านเช่าม้วนวิดีโอ แผ่นซีดี เลเซอร์ดิสก์ แผ่นดีวีดีก็หมดไป ทุกอย่างกลายเป็นแค่ความทรงจำและของสะสมมากกว่าจะใช้อย่างจริงจังเป็นเรื่องเป็นราว
แต่ก่อนที่พวกวิดีโอจะหายไปมันมีก็มีเคเบิลทีวีขึ้นมาแข่งกับช่องปกติ
cr. google
คราวนี้ทั้งข่าวสารและบันเทิงแบบใหม่ๆที่ไม่เคยเห็นเริ่มมากขึ้น
อ้อ มันจ่ายเงินดูนะครับ ใครมีกำลังก็จ่าย สุดท้ายก็มีธุรกิจเคเบิลเถื่อนขึ้นมาเยอะแยะ
ที่บ้านไม่ติดเพราะไม่เห็นถึงความจำเป็นใดๆ
ผมมาเห็นความสำคัญของมันก็อีตอนพฤษภาทมิฬนี่ล่ะครับ ไม่มีข่าวออกช่องไหนเลยนอกจากCNNของเคเบิล
ตอนนั้นช่องปกติไม่มีข่าวอะไรเลย
อ้อ ความบันเทิงที่นึกได้อีกอย่าง
วิดีโอเกมไงล่ะครับ
cr. google
เรื่องวิดีโอเกมนี่ผมไม่ถนัดแต่น้องชายผมนี่เป็นสาวกตัวยง
มันแอบไปซื้อหามาเล่น เปลี่ยนเกมซื้อขายสารพัด มีตั้งแต่แฟมิคอม เมกาไดรฟ์จนเป็นPS1 แล้วก็เปลี่ยนเป็นพวกเกมบอย PSแบบพกพาอะไรประมาณนั้นครับเรียกไม่ถูกจริงๆ
ป๊าม้าด่าเช้ายันเย็นมันก็ไม่สนใจ เจ๊ด่ามันก็เฉยๆ มีผมกับน้องชายอีกคนช่วยกันดูช่วยกันเล่น
ดูก็เพลินๆ สนุกดี แต่มันก็แล้วแต่เกมนะครับ
ขนาดผมไม่ชอบเล่นเกมยังเล่นเกมบอยกับเกมบนคอมฯเลย เล่นเกมพวกแก้ปัญหาเป็นส่วนใหญ่เพราะเล่นเกมปกติแบบพวกดูมเอยอะไรเอยไม่ได้ เล่นแล้วมีอาการคอหัก หัวหมุนติ้ว ตาลายพานจะเวียนหัวไม่สบายเอาดื้อๆ
แต่ส่วนมากแล้วเกมที่ว่ามาพวกนี้มันเล่นแบบคนเดียวหรือมีเพื่อนเล่นก็ได้ ไม่ใช่เล่นแบบออนไลน์เหมือนตอนนี้ ถ้าติดเกมก็คือติดเกม ไม่ใช่ติดการมีตัวตนในเกม
ว่าแล้วมรดกเรื่องเกมนี้ก็มาถึงหลานผม ลูกน้องชายครับ
ทุกวันนี้ก็เล่นเกมเป็นล่ำเป็นสันเหมือนกัน ต่างกันที่เป็นรูปแบบออนไลน์มากกว่า
แฟนผมก็เล่นครับ พวกแคนดี้ครัช หมุนสปิน อะไรประมาณนี้
ผมหันมาเล่นเกมจับคู่ เกมไพ่ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยเล่นแล้ว
มีแต่ลูกๆที่สนใจอยากเล่น
ให้เล่นบ้างแค่บางครั้งเท่านั้น แป๊บเดียว5นาที10นาที
ไม่ให้เล่นนาน
เดี๋ยวนี้รายการข่าวสารและบันเทิงต่างๆและเกมมีเยอะแยะมากมายเลือกกันได้ตามแต่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นช่องมาตรฐานหรือว่าช่องจ่ายเงินของทั้งไทยทั้งเทศ หรือว่าจะเป็นช่องดาวเทียม หรือผ่านโอเปอร์เรเตอร์ค่ายต่างๆก็ได้เหมือนกัน
จะชมผ่านรูปแบบดั้งเดิมอย่างโทรทัศน์ จะชมรายการหรือเล่นเกมผ่านคอมฯผ่านโน้ตบุคหรือจะเป็นแทปกับมือถือทางเน็ตก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ประการใด
ป๊าม้าเริ่มกลับมาดูละครย้อนหลังกับเขาบ้างช่วงโควิด
เจ๊ออกกำลังด้วยการเปิดยูทูปออกทางโปรเจคเตอร์
แฟนผมนี่เป็นแฟนเหนียวแน่นกับมือถือ ซีรี่ย์และเกมต่างๆทั้งไทยทั้งเทศ
แต่ผมยังชอบที่จะชมผ่านโทรทัศน์แบบเก่ามากกว่าและคู่ไปกับชมและเล่นเกมผ่านมือถือด้วย
ดูบนจอโทรทัศน์นี่มันมีช่วงโฆษณาที่ไว้พักสายตานานอยู่ ไม่เหมือนมือถือที่จดจ่อตลอดแม้ว่าจะหยุดชั่วคราวไว้ได้เหมือนกัน
อย่างว่า มันคนละอย่างกันครับ
ทุกวันนี้ก็ยังมีโทรทัศน์อยู่กับบ้าน เปิดดูแต่น้อย
เครื่องเล่นดีวีดีกับแผ่นก็ยังมีอยู่แต่ไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว
เครื่องเกมก็เก็บไว้ในตู้
ลูกๆเริ่มมาเกาะแกะขอดูทั้งมือถือและโทรทัศน์
อนุญาตบ้างเป็นคราวๆไปพร้อมกำหนดเวลา แต่บางทีก็มีปล่อยผีกันบ้าง
ให้เรียนรู้ว่าโทรทัศน์ไม่ใช่ของพิเศษ เป็นเรื่องปกติ และต้องรู้ว่าสมควรแก่เวลาก็ต้องเลิกดู
ยังมีอย่างอื่นที่น่าสนใจนะลูก
ส่วนมือถือกับคอมฯกลายเป็นเรื่องปกติที่ไม่ปกติ มีไว้ช่วงโควิดเพื่อZoomด้านการเรียนและบันเทิงควบกันไปโดยมีกำหนดเวลาให้เหมือนกัน
เดี๋ยวนี้อะไรต่อมิอะไรมันเปลี่ยนแปลงเข้ามาหาเราเร็วและแรงมากเกินกว่าที่จะคาดคิดได้
ต้องคอยดูกันไปยาวๆเหมือนซีรี่ย์ล่ะครับ
จบเรื่องหนึ่งก็มีอีกเรื่องตามมา
แล้วก็ต้องจับจ้องคอยดูต่อไป
ยุคสมัยมันเปลี่ยนแปลงไปจนหมดแล้วครับ
1 บันทึก
3
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ครอบครัวเรา
1
3
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย