โดยกฎเหล็กของกลุ่ม B นั่นก็คือ เราจะต้องทำกิจกรรมกลุ่ม A ให้เสร็จเสียก่อน จึงจะเริ่มทำกิจกรรมในกลุ่มนี้ได้
3. “C” - สิ่งที่ทำก็ดี ไม่ทำก็ไม่เป็นอะไร
กิจกรรมในกลุ่ม C นั้น คือกิจกรรมที่หากเราไม่ทำ ก็ไม่ได้เดือดร้อนผู้อื่น และไม่ได้มีผลกระทบกับงานเท่าไรนัก แต่ถ้าทำได้ก็จะเป็นอะไรที่ดีกับตัวเราเอง
ตัวอย่างกิจกรรมของกลุ่ม C เช่น
- โทรศัพท์พูดคุยกับเพื่อน
- โทรศัพท์ไปจองร้านอาหารที่จะไปช่วงสุดสัปดาห์
และเช่นเคยคือ ก่อนที่เราจะเริ่มทำกิจกรรมในกลุ่ม C เราจะต้องทำกิจกรรมกลุ่ม B ให้เรียบร้อยเสียก่อน
4. “D” - สิ่งที่มอบหมายให้คนอื่นทำได้
ซึ่งการจัดกิจกรรมในกลุ่มนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะยิ่งเราสามารถมอบหมายสิ่งที่ไม่จำเป็นให้คนอื่นได้มากเท่าไร เราก็จะยิ่งมีเวลาไปจัดการกลุ่ม A B C ได้มากขึ้นเท่านั้น
ตัวอย่างกิจกรรมของกลุ่ม D เช่น
- สแกนเอกสาร
- ส่งพัสดุ
5. “E” - สิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำ
กลุ่ม E นั้น คือกิจกรรมที่เราสามารถตัดออกหรือยังไม่ต้องทำก็ได้ เพราะอย่าลืมว่า การที่ทำ A B C ให้สำเร็จนั้น เราจะต้องเรียนรู้ที่จะหยุดทำในสิ่งที่ไม่จำเป็นให้ได้เสียก่อน
ตัวอย่างกิจกรรมกลุ่ม E เช่น
- ดูซีรีส์
- เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก
สรุปง่าย ๆ ก็คือ
A B C คือสิ่งที่ต้องทำ เรียงจากมากไปน้อย
D คือสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำเอง และควรมอบหมายให้คนอื่นทำ