28 พ.ย. 2021 เวลา 13:40 • หนังสือ
คุณคิดว่าตอนนี้ คุณใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ น่าตื่นเต้นอยู่เสมอหรือไม่? หรือเพียงแค่ใช้ชีวิตให้ผ่านไปอีกหนึ่งวันเท่านั้น ถ้าคุณกำลังรู้สึกเบื่อ มาลองวิธีใช้ชีวิตให้น่าตื่นเต้นผ่านการฝึกฝนและพัฒนาตัวเองกันดีกว่าไหม?
3
สรุปหนังสือ 7 Strategies for Wealth and Happiness ตอนที่ 5
กลยุทธ์ที่ 1: ปลดปล่อยอำนาจของเป้าหมาย >> คุณได้รู้จักความหมายของคำสำคัญทั้ง 5 คำ เหตุผลที่เป็นแรงผลักดันให้คนเราตั้งเป้าหมาย วิธีการตั้งเป้าหมายทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมไปถึงการทำให้เป้าหมายต่างๆ ทำงานเพื่อเรากันไปแล้ว
วันนี้แอดก็จะมาเล่าต่อถึง กลยุทธ์ที่ 2 ที่จิม โรห์นบอกว่ามันจะนำพาเราไปสู่ความมั่งคั่งและความสุขได้ นั่นก็คือ “การพัฒนาตัวเองผ่านการแสวงหาความรู้ให้ตัวเรา” นั่นเองค่ะ
1
จิมบอกว่า...หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณชอร์ฟอาจารย์ของเขาสอนเขา ก็คือ “การปลูกฝังคุณค่าของการศึกษา”
คุณชอร์ฟสอนจิมว่า...
“ถ้าเราปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จ จงศึกษาความสำเร็จ ถ้าเราปรารถนาที่จะมีความสุข จงศึกษาความสุข ถ้าต้องการหาเงิน จงศึกษาการได้มาซึ่งความมั่งคั่ง
คนซึ่งบรรลุสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้ทำมันด้วยความบังเอิญ มันเรื่องของการศึกษาเป็นลำดับแรก และการฝึกฝนเป็นลำดับต่อมา”
1
Q: คุณอยากเดาไหมว่ามีคนกี่คนทำความมั่งคั่งให้เป็นการศึกษา?
A: ถูกต้อง น้อยมาก
1
Q: ทำไมชายหญิงเหล่านั้นผู้ซึ่งอยากมีความมั่งคั่งถึงไม่ศึกษามัน ทำไมพวกเขาไม่ทำ?
A: จิมตอบว่า ยังคงเป็นอีกหนึ่งคำถามที่เขาไม่รู้ และจัดคำถามนี้ไว้ใน “เรื่องที่เข้าใจยากของชีวิต”
มีสำนวนหนึ่งจากคัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “ถ้าคุณค้นหา แล้วคุณจะพบ”
ดังนั้น นั่นคือหาทางที่จะค้นพบความรู้ใหม่ซึ่งสร้างความคิดใหม่ๆ จงค้นหาเพื่อที่จะค้นพบบางสิ่งบางอย่าง คุณต้องค้นหาก่อน ต้องการความคิดอันยิ่งใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณหรือ? ยากที่มันจะได้มาจากที่แห่งไหน แต่ถ้าคุณมีความอุตสาหะในการค้นหาความรู้ที่คุณต้องการ ความคิดที่เหมาะสมจะมาสู่เส้นทางของคุณ และมันมักจะมาเมื่อคุณคาดหวังมันน้อยที่สุด
1
จิมบอกว่า มี 2 วิธีที่จะแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตัวเอง เพื่อให้เราใช้ชีวิตได้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นกว่าเดิม
1.การเรียนรู้จากชีวิตของคุณเอง
2.การศึกษาจากชีวิตของคนอื่น
ซึ่งก็คือการทำการใคร่ครวญเหตุการณ์ต่างๆ ของชีวิตด้วยความตั้งใจเรียนรู้จากมัน จิมเรียกกระบวนนี้ว่า “การฟังเทปซ้ำ” ถ้าใครเกิดไม่ทันยุคของเทปคาสเซ็ท ก็ให้นึกภาพของ “การ replay เพลงซ้ำใน youtube” ก็ได้ค่ะ ^^
เหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตของคุณเป็นแหล่งข้อมูลบางอย่างที่ดีที่สุด ดังนั้น จงอย่าเพียงแค่ใช้ชีวิตของคุณให้ผ่านไป เอาบางอย่างออกมาจากชีวิตของคุณ รับรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นรอบๆ ตัวคุณ เพื่อที่คุณจะได้ตอกร่องลงในแผ่นเสียงของวันให้ลึกเข้าไปในจิตสำนึกของคุณ
เขาบอกว่า เราส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้เวลาสำหรับคิดทบทวนสิ่งที่ทำไปแล้วอย่างจริงจังด้วยกำหนดการที่ยุ่งเหยิงของเรา ทำให้เรามักจะละเลยส่วนสำคัญของกฎแห่งความสำเร็จนี้
จิมแนะนำว่า...
เมื่อสิ้นสุดวัน จงใช้เวลาเล็กน้อยทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น คุณได้ไปที่ไหน คุณได้ทำอะไร คุณได้พูดอะไร ใคร่ครวญดูว่าอะไรได้ผล และอะไรไม่ได้ผล อะไรที่คุณต้องการทำซ้ำอีก และอะไรที่คุณต้องการหลีกเลี่ยง พยายามจดจำเหตุการณ์ต่างๆ ให้กระจ่างชัดที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ จดจำสี ขนาด เสียง บทสนทนา ประสบการณ์ที่ได้รับ
“ประสบการณ์ในชีวิตเราคือทรัพย์สินที่มีค่า ขอเพียงแค่คุณรู้วิธีเพิ่มคุณค่าให้กับมัน”
ประสบการณ์สามารถกลายเป็นสินค้า ธนบัตร เงินเหรียญ แหล่งของคุณค่าที่เหลือเชื่อ แต่มันสามารถกลายเป็นสิ่งทั้งหมดเหล่านั้นได้ก็ต่อเมื่อคุณใช้เวลาในการบันทึกประสบการณ์ไว้ ใช้เวลาในการใคร่ครวญมัน แล้วเปลี่ยนมันเป็นบางสิ่งบางอย่างที่มีคุณค่า
เมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ จงใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงสำหรับการคิดทบทวนสิ่งที่ทำไปแล้ว เพื่อที่จะใคร่ครวญเหตุการณ์ใน 7 วันที่ผ่านมา เมื่อสิ้นสุดหนึ่งเดือน จงใช้เวลา 1 วัน และเมื่อสิ้นสุดหนึ่งปี จงใช้เวลา 1 สัปดาห์...เพื่อที่จะทบทวน ใคร่ครวญ และพิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เกิดขึ้นในชีวิตของคุณ
คนที่ลึกซึ้งเรียนรู้วิธีรวบรวมประสบการณ์ในอดีตและใช้มันลงทุนในอนาคต คุณเคยคิดถึงชีวิตด้วยวิธีนี้บ้างไหม? นั่นคือวิธีที่ทำให้มันสามารถกลายเป็นชีวิตที่มีประสิทธิภาพและเป็นชีวิตที่น่าตื่นเต้นอยู่เสมอ
อย่าเพียงแค่มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหนึ่งปี จงรวบรวมประสบการณ์ในหลายปีที่ผ่านมา แล้วนำมันไปลงทุนในปีต่อไปแทน อย่าเพียงแค่มีอีกหนึ่งการสนทนา จงรวบรวมการสนทนาในอดีตของคุณทั้งหมดแล้วนำมันไปลงทุนในการสนทนาครั้งต่อไปของคุณ
ดังนั้นจงเริ่มต้นวินัยใหม่ ค้นหาว่าในโลกนี้อะไรที่ทำแล้วได้ผลและมันทำอย่างไรด้วยการสังเกตชีวิตของคุณ คุณอาจไม่สามารถทำทั้งหมดที่คุณพบ แต่จงแน่ใจว่าคุณพบทั้งหมดที่คุณสามารถทำ
ในการศึกษาชีวิตของคุณ จงแน่ใจว่าได้ศึกษาด้านลบเช่นเดียวกับด้านบวก ศึกษาความล้มเหลวของคุณเช่นเดียวกับความสำเร็จของคุณ สิ่งที่พวกเราเรียกว่าความล้มเหลวจะทำงานให้เราเป็นอย่างดีเมื่อมันสอนบทเรียนที่มีคุณค่าแก่เรา บ่อยครั้งที่มันเป็นครูที่ดีกว่าความสำเร็จของเรา
หนึ่งในวิธีที่เราเรียนรู้ที่จะทำบางสิ่งบางอย่างให้ถูกต้องคือ เรียนรู้ได้จากการทำมันผิดพลาด การทำสิ่งผิดพลาดเป็นหลักสูตรที่มีคุณค่าในชีวิตอย่างหนึ่ง
แต่จิมก็บอกว่าอย่าเรียนหลักสูตรนี้นานเกินไป ถ้าคุณทำบางสิ่งบางอย่างผิดวิธีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่แนะนำให้เรียนต่อไปอีก 10 ปีข้างหน้า แต่คุณสามารถเรียนรู้จากมันได้อย่างรวดเร็ว ก็จะไม่มีวิธีเรียนรู้ใดที่มีประสิทธิภาพมากกว่าที่มาจากประสบการณ์ส่วนตัว
อีกวิธีหนึ่งที่คุณสามารถได้รับความรู้คือ โดยผ่านทางประสบการณ์ของคนอื่น คุณสามารถเรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่นได้เช่นเดียวกันกับการเรียนรู้จากความล้มเหลวของพวกเขา
เรื่องราวจากประสบการณ์ของคนอื่นมี 2 แบบ
1.ตัวอย่าง : จงทำในสิ่งที่คนเหล่านี้ได้ทำมาแล้ว
2.คำเตือน : จงอย่าทำในสิ่งที่คนเหล่านี้ได้ทำมาแล้ว
จิมยังบอกว่า...อีกว่า ถ้าเรื่องของคุณเข้าไปมีส่วนร่วมอยู่ในหนังสือของใครบางคน ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม จงแน่ใจว่ามันถูกใช้เป็นตัวอย่าง ไม่ใช่เป็นคำเตือน
มี 3 วิธีที่ใครคนหนึ่งสามารถเริ่มต้นเรียนรู้จากคนอื่น
1.โดยผ่านการอ่านหนังสือ ฟังพอดแคสต์ หรือเรียนผ่านคอร์สออนไลน์
2. โดยการฟัง เรื่องราวประสบการณ์ของคนอื่น
3. โดยผ่านการตั้งข้อสังเกตของผู้ชนะและผู้แพ้
คุณชอร์ฟอาจารย์ของจิม ได้สอนจิมว่า...ถ้าต้องการมากกว่ารายได้เฉลี่ยของคนทั่วไป “จงเป็นผู้ศึกษาด้วยตนเอง”
คุณชอร์ฟแนะนำหนังสือ 2 เล่มเพื่อที่จะทำให้จิมเริ่มต้น
1.คัมภีร์ไบเบิล
จิมบอกว่าเล่มนี้เขามีอยู่แล้ว มันประกอบไปด้วยส่วนสำคัญ 66 ส่วน และพ่อแม่ของเขาอ่านมันจนจิมคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี
2.Think and Grow Rich
1
เขียนโดยนโปเลียน ฮิล จิมบอกว่าเล่มนี้ถ้าคุณยังไม่เคยอ่าน เขาแนะนำให้วิ่งออกไปซื้อมาหนึ่งเล่มเดี๋ยวนี้เลย เขาบอกว่าเขาอ่านหนังสือเล่มนี้นับครั้งไม่ถ้วน เมื่อมองย้อนกลับไป รายละเอียดในหนังสือเล่มนี้มีคุณค่าต่อเขามาก ซึ่งเขาซื้อมันด้วยเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
จิมบอกว่าเรื่องนี้สอนบทเรียนอันทรงพลังแก่เขาว่า มีความแตกต่างเป็นอย่างมากระหว่างคุณค่าและราคา เวลาจะซื้อของให้ถามว่า “คุณค่ามันคืออะไร” เมื่อเราใช้ชีวิตบนพื้นฐานของคุณค่าแทนราคา ของทุกชนิดก็เริ่มปรากฏให้เห็นคุณค่าที่แท้จริง
หากใครไม่มีเวลาไปซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน ก็สามารถรอติดตามอ่านสรุปของแอดได้นะคะ ถ้าเล่มนี้สรุปจบเมื่อไหร่ รับรองว่าได้อ่านสรุปหนังสือ Think and Grow Rich กันต่อแน่นอนค่ะ ^^
จงจำไว้ว่า : คุณคือสิ่งที่คุณอ่าน
ห้องสมุดหรือการไม่มีห้องสมุดบอกถึงสิ่งที่คนคนหนึ่งกำลังคิด หรือว่าเขาหรือเธอไม่ได้กำลังคิดอะไรทั้งหมดเลย การเลือกหนังสือมาอ่านหรือเลือกพอดแคสต์มาฟังเผยให้เห็นถึงสิ่งที่ครอบงำอยู่ในความคิด ความปรารถนา และคุณค่าของคนคนหนึ่ง
การอ่านเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งสำหรับคนซึ่งต้องการพัฒนา จงเริ่มต้นการอ่าน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จงอ่านหนังสือประเภทที่จะช่วยให้คุณปลดปล่อยศักยภาพภายในตัวของคุณออกมา
หากคุณยุ่ง ไม่มีเวลา ก็สามารถใช้การฟังพอดแคสต์ในการเรียนรู้ระหว่างเวลาที่ไม่ได้ใช้ให้เป็นประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น การฟังพอดแคสต์ขณะขับรถยนต์ วิ่งออกกำลังกาย เป็นต้น การฟังเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะได้มาซึ่งนวัตกรรมทางความคิดและทักษะใหม่ๆ ได้เช่นกัน
การฟัง คือวิธีที่วิเศษในการเรียนรู้ จิมแนะนำว่าจงเลือกคนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ แล้วชวนเขาหรือเธอออกไปเลี้ยงอาหารเย็น ไม่ว่าเรากำลังสุขสบายดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ควรจะลงทุนในการเลี้ยงอาหารคนที่รวยกว่า จากนั้นก็...ฟัง
1
ถ้าคุณได้คนที่ประสบความสำเร็จมาคุยกับคุณประมาณ 2 ชั่วโมง คุณสามารถเรียนรู้กลยุทธ์ และทัศนคติ เพียงพอที่จะเพิ่มพูนรายได้ของคุณ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณ
1
จงสังเกตว่าคนที่ประสบความสำเร็จทำอะไร เพราะว่าความสำเร็จทิ้งแนวความคิดไว้ให้ศีกษา จงสังเกตว่าชายผู้ประสบความสำเร็จจับมือทักทายคนอื่นอย่างไร จงสังเกตว่าหญิงผู้ประสบความสำเร็จถามคำถามอย่างไร คนซึ่งทำสิ่งต่างๆ ได้ดีเป็นเจ้าของนิสัยแห่งความสำเร็จ พวกเขาสร้างรูปแบบพฤติกรรมของผู้ชนะ
1
จิมแนะนำ...ให้เข้าร่วมสัมมนาซึ่งให้ความรู้โดยคนซึ่งประสบความสำเร็จ เพราะว่าเราสามารถสังเกตพวกเขาได้ ทำให้เห็นถึงวิธีการสื่อสาร กิริยาท่าทางโดยไม่ต้องใช้คำพูดได้
ดังนั้น จงเป็นผู้สังเกตที่ดี อย่าพลาดแนวความคิดใดๆ ที่สามารถช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณให้ดีขึ้นได้
เป็นยังไงกันบ้างคะ อ่านมาถึงตรงนี้แอดก็หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อลูกเพจทุกท่านบ้างไม่มากก็น้อย
ในชีวิตประจำวันที่เราต้องเผชิญกับความวุ่นวาย เร่งด่วน งานเยอะจนล้นมือ อย่าลืมหาเวลาพักผ่อนบ้างนะคะ
ช่วงนี้เข้าหน้าหนาวแล้ว ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะไม่น้อยในการหลบหนีจากความวุ่นวายไปพักผ่อนบ้าง ปลีกวิเวิกบนดอยรับลมหนาว และใช้เวลาคิดทบทวนเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตทั้งดีและไม่ดี เรียนรู้จากมัน เพื่อก้าวเดินต่อไปข้างหน้า และหวังว่ามันจะเป็นก้าวที่ดีขึ้นกว่าเดิม น่าตื่นเต้นกว่าเดิมค่ะ
โฆษณา