29 พ.ย. 2021 เวลา 04:45 • การเกษตร
ทำปุ๋ยใช้เองง่ายๆ ไม่แพงด้วย
 
ที่จริงความรู้เรื่องปุ๋ยนั้น หาได้ไม่ยากในอินเทอร์เน็ต แต่ผู้เขียนก็ยังต้องการเขียนถึงประสบการณ์ตรงเพื่อผู้อ่านที่รักต้นไม้อาจนำไปใช้ได้บ้าง
 
ผู้เขียนเป็นลูกชาวนาชาวสวน ความรักต้นไม้ ความรักในการปลูกต้นไม้จึงมีอยู่ในสายเลือด
 
ซื้อที่ดินไว้ ๒ แปลง แปลงหนึ่งอยู่ที่บางใหญ่ นนทบุรี มีเนื้อที่ ๒๘๐ ตารางวา ตั้งชื่อว่า “สวนสะสม” ปลูกทุกอย่างที่กินและกินทุกอย่างที่ปลูกครับ ยกเว้นต้นสักปลูกไว้บังลมครับ
ที่มีมากที่สุดก็คือมะม่วง แต่เพราะน้ำท่วมเมื่อปี ๒๕๕๓-๒๕๕๔ ที่มีคำฮิตว่า “เอาอยู่” นั่นแหละครับ ท่วมก่อนใครๆ และน้ำแห้งหลังสุด น้ำท่วม ๓-๔ เดือน ต้นไม้ตายหมดครับไม่มีอะไรเหลือ อ้อ เหลือมะขามหน้าบ้านอยู่ต้นเดียวครับ
 
แต่ไม่ย่อท้อ ต้นไม้ตายไปก็ปลูกใหม่ได้ และตอนนี้ก็ได้กินกล้วยและมะม่วงที่ปลูกใหม่แล้ว ที่ว่าปลูกนั้น ผู้เขียนใช้ปากปลูกครับ เพื่อนที่ “ช่วยกันทำ ช่วยกันกิน” ต่างหากที่ปลูก อิอิอิ
อีกแปลงหนึ่งอยู่คลองสอง อำเภอคลองหลวง ปทุมธานี เนื้อที่ ๒ ไร่ เดิมบริษัทร่วมทุนสร้างสวนมะม่วงเพื่อส่งออก แต่น้ำท่วมใหญ่ทุ่งรังสิต ปีไหนจำไม่ได้แล้ว มะม่วงตายหมด ก็ตั้งใจว่าจะขาย แต่เศรษฐกิจย่ำแย่ ไม่มีใครซื้อ (แพงๆ) จึงปล่อยทิ้งไว้เป็นที่ว่างเปล่า
 
เมื่อราชการกำหนดให้จัดเก็บภาษีที่ดินว่างเปล่า ก็คิดว่าน่าจะนำภาษีที่ต้องเสียซึ่งแพงมากมาทำเป็นสวนเกษตรดีกว่า จึงตัดสินใจปลูกมะม่วงครับ ภายหลังน้องชายนำต้นพยุงมาปลูกให้ด้วย ตอนนี้จึงไม่ทราบว่าจะเรียกว่าเป็นสวนมะม่วงหรือสวนพยุงดี อิอิอิ
ที่ทั้งสองแห่งปลูก “ผักสวนครัว รั้วกินได้” โดยให้เทวดาเลี้ยงไม่ได้หรอกครับ เพราะอยู่ห่างจากบ้าน ๒๕ กม. และ ๕๐ กม. ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ที่อยู่ที่ห้วยขวางก็มีพื้นที่เหลือจากปลูกบ้านนิดหน่อย จึงปลูกมะนาว มะกรูดพริก มะเขือ ตะไคร้ ฯลฯ ไว้กิน
เคยทำน้ำหมักใช้ที่บ้าน แต่ตอนหลังใส่หญ้าลงไปด้วยกลิ่นน้ำหมักจึงรุนแรง โดยเฉพาะแม่บ้านทนกลิ่นไม่ไหวก็เลยเลิกทำ
 
เห็นเพื่อนทำปุ๋ยหมักก็ทำบ้าง สนุกดีครับ ตอนนี้ทำได้ ๕ กระถาง แล้วครับ และเพิ่งใช้ไปเพียง ๑ กระถาง เท่านั้น
 
ท่านผู้อ่านบางท่านคงทราบวิธีการทำปุ๋ยหมักแล้ว ทำได้ง่ายๆ ครับ โดยการรองพื้นกระถางด้วยใบไม้ใบหญ้าแห้ง ตามด้วยเศษอาหาร แล้วทับด้วยขี้วัวแห้ง สุดท้ายใช้ใบไม้ใบหญ้าทับอีกชั้นหนึ่ง แล้วก็ทำเช่นนี้พอๆ กับทำขนมชั้น หมั่นเจาะรูเติมน้ำทุกอาทิตย์เพื่อให้ขี้วัวย่อยสะลายเศษอาหาร เมื่อกระถางหนึ่งเต็มแล้วให้เก็บไว้ ๓ เดือน ก็ได้ปุ๋ยหมักไว้ใช้ครับ ทำแบบนี้วนเวียนกันไป
ปุ๋ยหมักไม่เหม็นหรอกครับ เพียงเศษอาหารซึ่งรวมทั้งผักและเปลือกผลไม้นั้นควรเก็บรวมไว้ในถังเล็กที่มีฝาปิดให้ได้จำนวนพอควรก่อนจึงค่อยนำไปเทใส่ เปลือกทุเรียนหรือเปลือกมังคุดก็ใช้ได้ครับ แต่เปลือกทุเรียนควรสับก่อน ส่วนเปลือกมังคุดควรบิให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อน มิฉะนั้นจะไม่ย่อยสลายครับ
ปุ๋ยหมักนั้น หากเก็บไว้ตามวิธีการข้างต้น จะมีสีดำและละเอียด ใช้ใส่ต้นไม้แล้วทำให้ดินร่วนซุยด้วย ต้นไม้ชอบครับ
 
คราวนี้ไปพบในคลิปกล่าวถึงการใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงรดต้นมะนาวแล้วทำให้มะนาวดก ก็สนใจทำบ้าง ตอนแรกใช้สูตรไข่ไก่ ๓ ฟองผงชูรส ๓ ช้อนแกง กะปิ ๑ ช้อนแกง ตีให้เข้ากันแล้วนำเติมในขวดขนาด ๑.๕ ลิตร ที่เติมน้ำเกือบเต็ม เพียง ๑ ช้อนแกง ต่อขวด
 
น้ำที่ใช้ผู้รู้แนะนำให้ใช้น้ำจากที่ไหนก็ได้ แต่ที่บ้านผู้เขียนไม่มีให้เลือกครับ ใช้น้ำประปาอย่างเดียว ดีหน่อยที่เป็นน้ำประปาจากบ่อพักซึ่งไม่มีคลอรีนแล้วครับ
ทำครั้งแรกทิ้งไว้ตั้งนานเป็นเดือนก็ยังไม่เป็น คือยังไม่เป็นสีแดง สำรวจความผิดพลาด อ้อ เพื่อนแนะนำให้นำน้ำใส่ขวดตากแดดไว้ก่อน ความใจร้อนได้ใช้น้ำอุ่นจากโซล่าร์ เข้าใจว่าน้ำอุ่นคงฆ่าจุลินทรีย์ที่มีอยู่ตายหมดครับ ชมภาพซิครับ
ลองใหม่ครับ คราวนี้เปลี่ยนสูตรผสมใหม่ ใช้ไข่ไก่ ๑ ฟอง ผงชูรส ๑ ช้อนแกง และกะปิ ๑ ช้อนแกง ไม่ถึง ๗ วัน ก็เป็นแล้ว แต่ผู้รู้แนะนำว่าเมื่อเป็นแล้วก็อย่าเพิ่งนำไปใช้ให้เก็บไว้ประมาณ ๑ เดือน จะดีที่สุด
 
อ้อ ลืมไปครับ ต้องหมั่นเขย่าขวดทุกวันด้วยนะครับ และควรวางให้เจอแดดมากที่สุดเท่าที่มากได้ เจอแดดมากๆ ก็เป็นเร็ว ชื่อก็บอกแล้วนี่ครับว่าเป็นจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
 
อยากให้ชมจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงที่ทำสำเร็จ คือเป็นสีแดง รวม ๒ ครั้ง ส่วนภาพสุดท้ายนั้นเป็นการทำครั้งล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาครับ
สำหรับส่วนผสมเมื่อนำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงมาใช้นั้น ผู้รู้แนะนำให้ใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ๓ ช้อนแกง ผสมกับน้ำ ๑๐ ลิตร สำหรับผัก ส่วนต้นไม้นั้นให้เพิ่มส่วนผสมอีก ๑ ช้อนแกง และให้รดสัปดาห์ละครั้งครับ รดได้ทั้งโคนต้นและที่ใบครับ
 
ผู้เขียนเริ่มต้นโดยการรดต้นส้มจี๊ดก่อน เพราะต้นเล็กรดได้ทั้งใบและโคนต้น ก็ไม่ทราบว่าเพราะจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงหรือเปล่า รดได้ไม่กี่วัน ตอนนี้ออกดอกขาวเต็มต้นเลยครับ
ก็คงได้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงนี้ไปใช้รดผัก ต้นไม้และไม้ดอกต่อไป คงได้ผลครับ มิเช่นนั้นคงไม่ทำขายกันเต็มร้านค้าออนไลน์หรอกครับ 
 
จะได้นำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงไปใช้ที่สวนสะสมที่บางใหญ่และที่คลองสองด้วย
 
ท่านที่ชอบปลูกผัก ไม้ดอกและไม้ผลก็ลองทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงใช้ดูนะครับ
 
ทำง่าย ประหยัด และน่าจะได้ผลดีด้วยครับ
 
พุธทรัพย์ มณีศรี
โฆษณา