29 พ.ย. 2021 เวลา 04:51 • กีฬา
เสียแต้มไม่เท่าเสียอารมณ์ที่แสตมฟอร์ด บริดจ์
ตอนที่ผมพิมพ์บทความนี้อยู่เป็นเวลา 02.33น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 หากจะถามถึงสาเหตุว่าเพราะอะไรผมถึงนอนดึกขนาดนี้คำตอบก็คืออารมณ์ยังค้างกับฟุตบอลที่พึ่งจบไปไม่หายบางทีผมก็ถามตัวเองว่าจะมาทรมานดูบอลให้มันทุกข์ไปทำไมก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
เชลซี 1:1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมตช์นี้เป็นแมตช์ที่ผมสบถคำหยาบระหว่างดูไปเยอะมากเพราะอะไรก็ดูติดขัดไปหมด เชลซีวันนี้ขาดตัวหลักหลายตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น กองเต้ ชีเวล เมาท์ ที่ยังไม่ฟิตเต็มร้อย แต่การแทนที่ด้วย ชีค ในตำแหน่งกองกลางและอลอนโซ่ในตำแหน่งแบคซ้ายก็ไม่น่าจะทำให้คุณภาพลดลงมามากนัก
ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาในแผนตั้งรับและรอสวนกลับตามที่ผมคาดไว้ก่อนเกมส์และเป็นสิ่งที่ผมกังวลมากที่สุดในการเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟังผ่านๆอาจจะคิดว่าก็แผนเดิมเพราะในยุคการคุมทีมของโซลชามักจะใช้แผนนี้ในการแข่งขัน
แต่การคุมทีมของคาร์ริคนั้นมันต่างออกไปจากโซลชาในนัดนี้ต้องชมการวางแผนของคาร์ริคที่ทำได้ดีกว่าโซลชานั่นก็คือแม้แผนการเล่นจะเน้นตั้งรับและสวนกลับเหมือนกันแต่ในวันนี้ผู้เล่นแต่ละคนของยูไนเต็ดมี”หน้าที่”ชัดเจนว่าใครทำอะไร
เริ่มเกมส์ต่างฝ่ายต่างเล่นเกมส์ที่ตนเองถนัด เชลซีครองบอลบุก ยูไนเต็ดตั้งรับอย่างมีวินัยและยังมีการเพรซซิ่งไม่ให้เชลซีตั้งเกมได้ถนัด
เวลาของการแข่งขันผ่านไปมากเท่าไหร่อารมณ์หงุดหงิดของผมก็มากขึ้นเท่านั้นจริงอยู่ที่เชลซีครองบอลบุกอยู่ฝ่ายเดียวบางคนก็อาจจะพูดได้ว่าไม่เห็นต้องหงุดหงิดขนาดนั้นรูปเกมส์ก็ดีกว่า
จริงอยู่ที่รูปเกมส์ดีกว่าทุกอย่างดีกว่าแต่อย่าลืมนะครับว่าฟุตบอลใช้การนับคะแนนจากการทำประตูตัดสินผลแพ้ชนะ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเล่นดีแค่ไหน ครองบอลเยอะแค่ไหน ฟุตบอลนับประตูใช้คะแนนครับ
ผมจะชอบมีการรับรู้แปลกๆอาจเพราะการที่คลุกคลีกับฟุตบอลมาหลายปีทำให้ผมรู้สึกว่าบางครั้งเวลาดูบอล วิเคราะห์จากการเล่นที่เห็นตรงหน้าผมมักจะมี “Sense” หยั่งรู้นิดหน่อย ว่าหากรูปเกมยังเป็นแบบนี้อาจจะทำให้เกิดอะไรตามมา
ซึ่งจากรูปเกมในครึ่งแรกที่เชลซีบุกมีโอกาสยิงหลายครั้งแต่ไปทิ้งโอกาส จบสกอร์ได้ไม่คมพอ หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปเผลอๆอาจจะแพ้ยูไนเต็ดก็เป็นได้จากลูกสวนกลับที่พวกเขารอคอย
หลังจากนั้นเริ่มครึ่งหลังไม่กี่นาที Sense ของผมก็ไม่พลาด เชลซีพลาดท่าจากความผิดพลาดของจอจิญโญ่ไปเล่นยากจนโดย ซานโช ฉกบอลไปยิงแบบง่ายๆ ประตูที่เสียนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผมหัวร้อนและหงุดหงิดมากที่สุดเพราะมันมาจากสิ่งที่ผมเกลียดมากๆไม่ใช่แค่ในกีฬาแต่รวมถึงชีวิตประจำวันด้วย
สิ่งที่ผมเกลียดมากๆนั่นก็คือความ “ประมาท” จังหวะที่เสียนั้นปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าเป็นการประมาทคู่ต่อสู้เกินไปมากๆซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในการแข่งขันระดับสูงที่ทุกจังหวะ ทุกนาทีในสนามส่งผลถึงแพ้ชนะได้
ต่อมาเชลซีก็ต้องโหมบุกอย่างเลี่ยงไม่ได้จนมาได้ลูกตีเสมอจากจุดโทษถือเป็นลูกแก้ตัวของจอจิญโญ่หลังจากนั้นเชลซีมีโอกาสหลายต่อหลายครั้งแต่ทำไม่ได้
ยอมรับว่าวันนี้เราต่ำกว่ามาตรฐานจริงๆ
วันนี้อารมณ์หงุดหงิดคงมาจากสิ่งที่เกิดในสนามโดยเฉพาะที่กล่าวไปข้างต้นความประมาททำให้ทีมต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้และนักเตะหลายๆคนกำลังรับมือกับมันได้ไม่ดีนัก
วันนี้ผมอยากให้ทีมแพ้ไปเลยด้วยซ้ำเพราะผมรู้สึกว่านักเตะบางคนยังมี Mindset ที่ไม่ดี ลองสังเกตจากภาษากายและการเล่นในสนามดูครับ ขอเถอะครับ Mindset ที่คิดว่ากูเก่งแล้วมามั่นใจเกินเหตุไม่ควรจะมีกับผู้เล่นที่ต้องการขนะ
ต่อให้วันนี้แพ้แต่ถ้าทีมสู้อย่างเต็มที่ใช้โอกาสทำประตูที่มีให้คุ้มค่าที่สุดแล้วมันไม่ชนะจริงๆผมก็ว่าอะไรเลย แต่วันนี้ที่ผมผิดหวัง หัวร้อน หงุดหงิดไม่ใช่เพราะทำได้แค่เสมอหากเป็นเพราะการเล่นของทีมที่มันต่ำกว่ามาตรฐานมากๆต่อให้วันนี้ชนะแต่เล่นแบบนี้ผมก็คงหงุดหงิดอยู่ดี
สุดท้ายเกมจบไปแล้วผมก็ต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นหากรับไม่ได้ในทีมที่เล่นไม่ดี เราคงดีใจได้ไม่เต็มที่เมื่อวันที่ชนะ
การเชียร์บอลมันก็เป็นแบบนี้เองมีราคาต้องจ่ายหากอยากสมหวังก็ต้องมีผิดหวัง...
โฆษณา