30 พ.ย. 2021 เวลา 03:46 • ประวัติศาสตร์
• จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ คืออะไร?
3
สำหรับคนที่ชื่นชอบในประวัติศาสตร์หลาย ๆ คน จะน่าจะเคยรู้จักหรือคุ้นชื่อของ 'จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์' (Holy Roman Empire) ที่ดำรงอยู่ในดินแดนเยอรมัน ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 10 จนถึงปี 1806 อย่างแน่นอน
แต่นี้ก็ได้ให้เกิดคำถามอันน่าสงสัยสำหรับใครอีกหลาย ๆ คนเช่นกัน โดยเฉพาะชื่อของจักรวรรดิแห่งนี้ ที่ว่าทำไมถึงต้องใช้คำว่าโรมัน แล้วมีอะไรเกี่ยวข้องกับจักรวรรดิโรมัน (Roman Empire) อันเกรียงไกรในยุคโบราณไหม แล้วทำไมต้องมีคำว่าศักดิ์สิทธิ์ด้วย?
ดังนั้นในบทความนี้ แอดมินจึงขออธิบายเรื่องราวของจักรวรรดิแห่งนี้ในแบบคร่าว ๆ กันครับ
ธงจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
โดยก่อนอื่น เราจะต้องรู้จักกับอาณาจักรแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อว่า 'อาณาจักรแฟรงก์' (Frankish Kingdom) กันก่อน
อาณาจักรแฟรงก์ เป็นอาณาจักรของชาวแฟรงก์ (Frank) ซึ่งเป็นหนึ่งในพวกอนารยชนที่เคยรุกรานจักรวรรดิโรมันตะวันตก (Western Roman Empire) มาก่อน จนในปี 476 เมื่อจักรวรรดิโรมันตะวันตกที่มีศูนย์กลางอยู่ในกรุงโรมได้ล่มสลายลง พวกอนารยชนหลายเผ่าจึงได้สร้างอาณาจักรเป็นของตนเอง อยู่บนบริเวณที่เคยเป็นของจักรวรรดิโรมันตะวันตกมาก่อน
สำหรับชาวแฟรงก์ พวกเขาก็ได้สร้างอาณาจักรของตนในปี 481 ในบริเวณตอนเหนือของฝรั่งเศส และตะวันตกของเยอรมนี โดยมีโคลวิสที่ 1 (Clovis I) เป็นกษัตริย์องค์แรก
1
เวลาผ่านไป อาณาจักรแฟรงก์ก็ขยายอำนาจของตนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งในศตวรรษที่ 8 อาณาจักรแฟรงก์ได้มีกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่นามว่า ชาร์เลอมาญ (Charlemagne) อันเป็นยุคสมัยที่เกรียงไกรที่สุดของชาวแฟรงก์ พวกเขาสามารถพิชิตดินแดนและยึดครองดินแดนเกือบทั่วทั้งยุโรป
1
โดยหนึ่งในวีรกรรมสำคัญของชาร์เลอมาญ ก็คือการทำศึกกับพวกลอมบาร์ด (Lombard) ที่เข้ารุกรานศาสนจักรโรมันคาทอลิกที่ตั้งอยู่ในกรุงโรม
ชาร์เลอมาญสามารถเอาชนะพวกลอมบาร์ดได้สำเร็จ และด้วยวีรกรรมอันกล้าหาญนี้เอง ทำให้พระสันตะปาปาลีโอที่ 3 (Pope Leo III) ประมุขแห่งศาสนจักรฯ มองเห็นว่าชาร์เลอมาญเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค
ดังนั้นในปี 800 พระสันตะปาปาลีโอที่ 3 จึงทำพิธีสวมมงกุฎสถาปนาให้ชาร์เลอมาญเป็น 'จักรพรรดิโรมัน' (Roman Emperor) เพื่อแสดงให้เห็นว่า ชาร์เชอมาญเป็นผู้สืบทอดความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิโรมันตะวันตกในอดีต เรียกได้ว่าชาร์เลอมาญกลายเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจที่สุดของยุโรปในช่วงเวลานั้น
1
ชาร์เลอมาญได้รับการสวมมงกุฎเป็นจักรพรรดิแห่งโรมัน
แต่ต่อมาในปี 843 ภายหลังการตายของชาร์เลอมาญ อาณาจักรแฟรงก์อันยิ่งใหญ่ก็ได้แตกแยกออกเป็น 3 ส่วนคือ แฟรงก์ตะวันตก (West Frank) ที่ต่อมาพัฒนากลายเป็นฝรั่งเศส แฟรงก์ตอนกลาง (Middle Frank) ที่ภายหลังได้ล่มสลายไป และสุดท้ายคือ แฟรงก์ตะวันออก (East Frank) ที่ต่อมาจะพัฒนาเป็นกลายเป็นจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์หรือเยอรมนีนั่นเอง
อาณาจักรแฟรงก์ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือแฟรงก์ตะวันตก (สีแดง - ต่อมาคือฝรั่งเศส) แฟรงก์ตอนกลาง (สีเหลือง) และแฟรงก์ตะวันออก (สีฟ้า - ต่อมาคือจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์หรือเยอรมนี)
โดยตำแหน่งจักรพรรดิโรมันที่สืบทอดจากชาร์เลอมาญนั้น ก็ได้ถูกสืบทอดสลับไปมา ระหว่างกษัตริย์ของแฟรงก์ตะวันตก แฟรงก์ตอนกลาง และแฟรงก์ตะวันออก
จนกระทั่งในปี 962 ออทโทที่ 1 หรือออทโทมหาราช (Otto I ,Otto The Great) กษัตริย์แห่งแฟรงก์ตะวันออก ได้รับการสถาปนาเป็นจักรพรรดิโรมัน ซึ่งการเป็นจักรพรรดิของออทโทที่ 1 ถือเป็นจุดกำเนิดของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
ขออธิบายเสริมว่า นับแต่สมัยของออทโทมหาราชเป็นต้นมา ชื่อของจักรวรรดิรวมไปถึงตำแหน่งจักรพรรดินี้ จะใช้คำว่า 'โรมัน' เฉย ๆ ยังไม่มีการใช้คำว่า 'ศักดิ์สิทธิ์' (Holy) แต่อย่างใด ดังนั้นตั้งแต่ปี 962 จักรวรรดิแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า 'จักรวรรดิโรมัน' และมีประมุขคือ 'จักรพรรดิโรมัน'
จนกระทั่งในช่วงศตวรรษที่ 12 สมัยของจักรพรรดิเฟรเดอริกที่ 1 บาร์บารอสซ่า (Frederick I Barbarossa) จึงมีการเพิ่มคำว่า 'ศักดิ์สิทธิ์' เข้าไป กลายเป็น 'จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์' และ 'จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์'
ส่วนที่ว่าทำไมถึงต้องมีคำว่า ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยนั้น ก็เป็นเพราะการสถาปนาเป็นจักรพรรดิ จะต้องได้รับการสวมมงกุฎโดยพระสันตะปาปาเสมอ (แต่ช่วงหลังจักรพรรดิบางองค์ ก็ไม่ได้ผ่านการสวมมงกุฎโดยพระสันตะปาปา) ประกอบกับความเกี่ยวข้องอันใกล้ชิดกับศาสนจักรโรมันคาทอลิกและอิทธิพลของศาสนา จักรวรรดิแห่งนี้จึงถูกมองว่า มีความศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง
2
วอลแตร์ (Voltaire) นักปรัชญาชื่อดังชาวฝรั่งเศส เคยกล่าวไว้ว่า "จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์แท้จริงแล้ว ไม่ศักดิ์สิทธิ์ , ไม่ใช่โรมัน และไม่ใช่จักรวรรดิ" (The Holy Roman Empire was neither Holy ,nor Roman ,nor an Empire)
นั่นก็เพราะชื่อของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพียงแค่การใช้ชื่อโรมัน เพื่ออ้างว่าตนคือผู้สืบทอดอำนาจของจักรวรรดิโรมันในอดีต และอ้างความศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากความสัมพันธ์กับทางศาสนจักรเท่านั้น
และที่สำคัญจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แท้จริงแล้วเป็นเพียงการรวมตัวกันของบรรดาอาณาจักรและนครรัฐต่าง ๆ ของชาวเยอรมันหลายร้อยแห่งเข้าด้วยกันอย่างหลวม ๆ เท่านั้น จึงถือว่าไม่ได้เป็นจักรวรรดิที่อยู่กันเป็นหนึ่งเดียวอย่างแท้จริง
แผนที่ของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จะเห็นว่าภายในจักรวรรดิ ประกอบด้วยรัฐจำนวนมาก ที่อยู่รวมกันอย่างหลวม ๆ
ดังนั้นเราจึงสรุปได้ว่า จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แท้จริงแล้วไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับจักรวรรดิโรมัน เป็นเพียงแค่การอ้างชื่อเท่านั้น
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา