29 พ.ย. 2021 เวลา 14:42 • การศึกษา
(นี่เป็นโพสที่บันทึกไว้เมื่อไม่นานมานี้ ในการทำงานครบ 1 ปี จึงขอมาแชร์ไว้ ณ ที่นี้ เผื่อเป็นประโยชน์กับใครบ้าง)
จะว่าไปแล้ว วันนี้ (3 พ.ย. 64) ก็เป็นวันแรกที่ทำงานในฐานะการเป็นอาจารย์อย่างเป็นทางการ (นับจากวันที่เซ็นสัญญา 3 พ.ย. 63) เอาเป็นว่าขอบันทึกไว้หน่อยแล้วกันว่าปีแรกกับงานที่ฝันไว้ มันมีอะไรพอจับต้องได้และเป็นที่ประจักษ์ (และไม่ประจักษ์) บ้าง
1. ในสาขารัฐศาสตร์: เริ่มจากการที่บุกเบิกสาขารัฐศาสตร์ตั้งแต่แรก ไมว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ การรับสมัครนักศึกษา การสัมภาษณ์นักศึกษา การทำงานทะเบียนของสาขา ตลอดจน (ร่วม) จัดระเบียบและวางโครงสร้างสาขาให้เข้ารูปเข้ารอย จนเมื่อเปิดสอนอย่างจริงจังในภาคเรียนที่ 1/2564 มีนักศึกษาทั้งภาคปกติและภาคพิเศษพอสมควร ซึ่งหากมองจากการที่ว่าสาขาเริ่มมาจากศูนย์ กระทั่งวันนี้ กล่าวได้ว่าน่าพอใจพอสมควร
1
2. ในฐานะอาจารย์ผู้สอน: เริ่มจากการสอนนอกสาขา (แต่ก็พอไปได้ เนื่องจากเป็นรายวิชาซึ่งเกี่ยวกับการจัดการเชิงกลยุทธ์) เมื่อพอมีนักศึกษาในสาขา ก็เริ่มจากการสอนปูพื้นฐานให้นักศึกษาตลอดเวลาเกือบ 3 เดือน เพื่อให้ผู้เรียนมีพื้นฐานของศาสตร์รัฐศาสตร์ รวมถึงพอให้เห็นวิถีของอาจารย์แต่ละท่านในสาขา กระทั่งเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 ประเดิมด้วย (1) วิชาการเมืองการปกครองไทย (2) วิชาจริยธรรมและธรรมาภิบาลทางการเมือง (3) วิชาหลักสิทธิมนุษยชน (4) วิชากฎหมายธุรกิจและกฎหมายที่เกี่ยวกับโลจีสติกส์ และ (5) วิชาของ GE นันทนาการเพื่อคุณภาพชีวิต ทั้งนี้ สอนทั้งภาค จ.-ศ. และ ส.-อา.
3. งานบริการวิชาการ: (1) บรรยายรายวิชาความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ ให้สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานหนองบัวลำภู (2) บรรยายความรู้คู่ชุมชนว่าด้วยเศรษฐกิจพอเพียงและบัญชีครัวเรือน (3) ร่วม โครงการ U2T ฯลฯ
4. ในฐานะการเป็นผู้ประเมินบทความ (Reviewer): ได้เป็นผู้ประเมินบทความของวารสารในฐานข้อมูล TCI ฐาน 1 จำนวน 2 บทความ (วารสารการเมืองการปกครอง วิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม)
5. ในฐานะอาจารย์พิเศษ: ได้เป็นอาจารย์พิเศษสอนในชุดวิชาสัมมนาการบริหารการปกครองท้องที่ (จังหวัดมุกดาหาร) ภาคเรียนที่ 2/2563 ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
6. บทวิจารณ์หนังสือ (Book Review): Classic Drucker ในวารสารการเมืองการปกครอง (Volume.10, Issue.3)
7. บทความวิจัย: 14 ปีของการศึกษารัฐประศาสนศาสตร์ในอีสาน ว่าด้วยนโยบายสาธารณะ
8. งานประชุมวิชาการระดับชาติ (Conference): (1) กระแสของการศึกษารัฐประศาสนศาสตร์ในอีสาน: พ.ศ. 2547-2560 (ใน การประชุมวิชาการวิจัยและนวัตกรรมสร้างสรรค์ ครั้งที่ 7 CRCI 2021) และ (2) สถานภาพองค์ความรู้ของรัฐประศาสนศาสตร์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน 2547 (ได้รับรางวัลการนำเสนอผลงานวิจัยแบบบรรยาย ระดับดี กลุ่มศิลปะ สังคม และวัฒนธรรม ในการประชุมวิชาการระดับชาติ มอบ. วิจัย ครั้ที่ 15)
9. งานวิจัย: กำลังจะร่วมงานกับสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
10.รางวัล: สิงห์เข็มทอง สาขาผู้บริหารดีเด่น (ด้านการส่งเสริมพัฒนาการศึกษาและวิชาการ) ให้ไว้ ณ วันอังคารที่ 17 สิงหาคม 2564
11. และบางส่วนไม่ขอกล่าวถึง ไม่ว่าจะเนื่องจากจำไม่ค่อยได้ หรือไม่อยากกล่าวถึงก็ตาม
เหล่านี้ ก็พอกล่าวได้ว่า "ค่อนข้างน่าพอใจ" (หากไม่ดูจากคะแนนการประเมิน ซึ่งค่อนข้างมีปัญหา) สำหรับการเป็นอาจารย์ในปีแรก แต่จะว่าไปแล้ว ในหลายๆ อย่าง แม้ตัวผม (และแม่ของผม) เองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้รับเกียรติเหล่านั้นเร็วขนาดนี้ เช่น การได้รับรางวัล การเป็น Reviewer ให้กับวารสาร หรือการสอนในฐานะอาจารย์พิเศษ หรือการจะได้ร่วมงานกับอาจารย์ที่ผมเคารพมากๆ ทั้งนี้ ผมขอขอบพระคุณผู้ที่มีส่วนในการให้เกียรติเหล่านั้น มา ณ ที่นี้ด้วย
นั่นแหละครับ แม้ปีแรกของการเป็นอาจารย์ ผมจะไม่ได้สร้างงานวิชาการมากเท่าที่ควร (น้อยกว่าที่ตั้งใจไว้มากๆ) ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความ หรือการทำวิจัย ซึ่งก่อนจะมาเป็นอาจารย์วาดฝันไว้ว่า "วันแรกที่ได้เป็นอาจารย์ ผมจะเริ่มเขียนงานตั้งแต่วันนั้น" แต่ก็นั่นแหละ ด้วยบริบทและภาระหน้าที่ที่ไม่ได้มีแค่งานในเชิงวิชาการอย่างเดียว จึงทำให้ปีแรกยังไม่มีผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันพอสมควร
แต่ก็อีกนั่นแหละ ผมก็ดีใจอยู่นะ ที่มันพอจะมีอะไรให้ได้กล่าวถึงอยู่บ้าง กล่าวคือ ผมอาจไม่มีโอกาสให้เรียรรู้ถึง "การเป็นครู" เลย ถ้าหากผมไม่ได้สัมผัสกับนักศึกษาที่ใกล้ชิดเท่าที่ควร ได้เห็นถึงเงื่อนไข ความจำเป็นของแต่ละคน เห็นถึงโอกาสในชีวิตของแต่ละคน เห็นถึงสิ่งที่บรรดานักศึกษาต้องแบกรับ ไม่ว่าจะเป็นความคาดหวังจากคนรอบข้าง จากภาระที่ต้องรับผิดชอบ จากแรงกดดันเพื่อเป้าหมายในชีวิต หรือจากสังคมที่ใหญ่กว่าที่พวกเขาต้องเผชิญ ผมอาจไม่เห็นและไม่ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้เลย หากการเริ่มฐานะอาจารย์ของผมไม่ใช่ที่นี่
ความมุ่งหวังตั้งใจในเบื้องแรกสำเร็จลุล่วงไปแล้ว นั่นคือ การทำงานอยู่บ้านในฐานะอาจารย์และการได้อยู่กับครอบครัว แต่ก็ขอบันทึกไว้หน่อยว่า หลังๆ มานี้ที่ผมได้ขับรถเทียวไปทำงานแทบจะทุกวัน (แต่ขอย้อนกลับไปนิดหนึ่ง เพราะโพสก่อนหน้านี้ที่ผมบอกว่าจะไม่รบกวนทางบ้านในการออกรถของผม สุดท้ายแล้วก็ต้องรบกวนอยู่ดี นั่นคือ ตาผมเป็นคนออกรถให้) ดังนั้น ยายอ้วนจึงได้ห่อข้าวให้ทุกวัน ตาบั่วโทรหาทุกวันเมื่อถึงเวลา 17.30 น. หากยังไม่ถึงบ้าน หลังๆ มานี้ แม่ก็เริ่มได้รีดผ้าให้ เพราะค่อนข้างไม่มีเวลา พลอยให้น้องได้กินหมู่กะทะน้อยลง ส่วนแฟนก็แทบไม่ได้คุยกันเลย อีกทั้งเหมือนจะเริ่มมีสัญญาณบางอย่างเตือนมาแล้วว่า ผมต้องเดินหน้าต่อไปไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อ หรือในความก้าวหน้า ซึ่งผมจะไม่ลืมความทรงจำที่ดีเหล่านี้
นอกจากนี้ หากจะเขียนแค่ความรู้สึกของตัวเองเพียวๆ กล่าวได้ว่า ผมค่อนข้างดีใจและพอใจกับผลงานที่ผ่านมาในปีแรกนี้ แม้บางอย่างมันจะไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่ก็นะ โลกมันก็เป็นอย่างนี้ ในบางครั้ง บทเรียนราคาแพงก็มากับความเรียบง่ายที่ทุกๆ สังคมต้องเจอ ซึ่งผมก็ขอขอบคุณสำหรับบทเรียนเหล่านั้น มันก็มีบ้างแหละครับที่ผมอาจเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่มีใครบอกนิว่าโลกนี้มันยุติธรรม (แต่ก็ไม่รู้นะ เพราะบางอย่างมันก็ยุติธรรมเสมอ)
ในท้ายที่สุด เมื่อผมมีคำนำหน้าว่า ศ.ดร. หรือมีแค่คำว่า ดร. หรือยังเป็นแค่ อ. เมื่อผมกลับมาย้อนดูปีแรกของผมในฐานะอาจารย์ ผมก็ขอฝากถึงศุภกานต์ในวันนั้นหน่อยนะว่า
(1) นายเริ่มจากศูนย์ (ทั้งศูนย์ที่เป็นศูนย์ตัวเลขหรือที่เป็นศูนย์การศึกษา) จริงๆ นะ ดังนั้น อย่าลืมสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตนายในปีแรก ไม่ว่าจะเป็นทุกข์หรือสุข ไม่ว่าจะประสงค์ดีหรือประสงค์ร้าย
(2) นายอย่าลืมผู้ที่มีพระคุณต่อนาย รวมถึงผู้ที่ทำให้นายมีบทเรียนไม่ว่าจะบทเรียนในด้านที่น่าจดจำหรือไม่น่าจดจำ
(3) นายอย่าลืมสายตาที่หัวเราะเยาะใส่นาย เพื่อที่นายจะไม่ต้องไม่ทำสิ่งเหล่านั้นกับคนอื่นๆ ต่อไป
(4) นายต้องให้โอกาสและเห็นถึงศักยภาพ รวมถึงนายต้องมีความศรัทธาในผู้คน
(5) ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายยังมีบ้านให้กลับ มีตา ยาย แม่ น้อง และแฟน ที่คอยนายอยู่
(6) ขอให้นายมีความสุขกับการเล่นกับหมา (อ้างอิงถึงแมงบ่ง) หรือเล่นกับแมว (อ้างอิงถึงแมวหลง แหลง และแมวๆ 3 สีดำ และแม่) เหมือนเดิม หรือมีความสุขกับสิ่งที่เรียบง่ายเหมือนเดิมนะ
และ (7) นายอย่าลืมว่าสิ่งที่นายทำ มันมีผลตามมาเสมอ ไม่ว่าจะร้ายหรือดี มันย่อมมีผลตามมาเสมอ หรือโลกนี้มันยุติธรรมเสมอนั่นแหละ (แม้มันจะไม่เกิดขึ้นง่ายๆ ก็ตาม)
3 พ.ย. 64 (ครบรอบ 1 ปีในฐานะอาจารย์)
ศุภกานต์ โสภาพร
ปล. ภาพโต๊ะทำงานโต๊ะแรกในฐานะอาจารย์
โฆษณา