29 พ.ย. 2021 เวลา 14:47 • การตลาด
อีกมุมมองทางการตลาดที่ต่างออกไป ในการมองข่าวการแพร่ระบาดของ Omicron ที่ดูน่ากังวลมาก
ที่มา Twitter
ถ้าพิมรี่พายทำกล่องสุมกล่องละ 1 แสนเหรียญขายทั่วโลกได้ เชื่อว่าแทบจะหาที่เก็บเงินไม่ได้แน่นอน และอาจจะเป็นข่าวที่สามารถกลบเรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) ที่อาจจทำให้ผู้นทั่วโลกเปลี่ยนโฟกัสความกังวลขากเชื้อโควิดได้สักช่วงเวลาหนึ่ง
แต่ทว่าความจริงไม่ใช่เช่นนั้น การกระพือข่าวของการแพร่บาดของเชื้อกลายพันธุ์ตัวนี้ ได้สร้างความแตกตื่นและหวาดกลัวให้คนจำนวนมาก ผู้นำหลายประเทศถึงกลับมาออกประกาศด้วยตัวเองในการห้ามคนที่เดินทางมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยงสูงในแอฟริกาเข้าประเทศ
ข่าวแต่ละข่าวที่ออกมาก็แสดงความกังวลและหวดกลัวเป็นอย่างมากให้ผู้อ่านหรือผู้ชมข่าวนั้น และก็ยังออกข่าวในรูปแบบนี้ขยายวงออกไป นอกจากนี้ยังมีการออกข่าวจากผู้ผลิตวัคซีนหลายราย ที่ออกมาแถลงว่าพร้อมปรับวัคซีนให้รองรับสายพันธุ์โอไมครอน
ในมุมของนักการตลาดคนหนึ่งก็อดคิดไม่ได้ว่า เรื่องนี้เป็นกลยุทธ์การตลาดหรือไม่ เพราะการตลาดที่ทำให้ผู้คนสามารถควักเงินออกจาก Wallet (ทันสมัยนิดนึง) ได้แบบไม่ต้องคิดว่าต้องจ่ายเท่าไร นั่นคือการทำตลาดบนความกลัว
1
ยิ่งเป็นการตลาดบนความกลัวตายแล้ว ยิ่งทำให้ผู้คนไม่ต้องคิดมากเลยที่จะจ่ายเงินออกไป แต่อย่าเข้าใจผิดว่ามีเพียงการตลาดบนความกลัวตายที่ทำให้ผู้คนจ่ายเงินได้เร็วเท่านั้น ยังมีการตลาดบนความกลัวในรูปแบบอื่นที่ผู้คนยอมจ่ายเงินจำนวนมากโดยไม่ต้องคิดเหมือนกัน เพียงแต่จำนวนกลุ่มเป้าหมายจะเฉพาะเจาะจง
ที่มา  ichi.pro ความกลัวหรือความหวัง คุณโฆษณาเพื่อช่วยชีวิตอย่างไร?
การตลาดบนความกลัวดูไม่ดีกลัวไม่เป็นที่รัก ก็สามารถทำให้เงินจำนวนมหาศาลเคลื่อนที่ไปสู่กระเป๋าของผู้ประกอบการอย่างรวดเร็วได้ ยกตัวอย่างเช่น กลัวไม่มีกระเป๋าหลุยถือไปเข้ากลุ่มเพื่อน หรือกลัวว่าเรียนไม่สู้เพื่อน ก็ต้องหาที่กวดวิชาหรือจ้างครูมาสอนพิเศษ เป็นต้น
“ยุคใหม่ฯ” เองก็อดไม่ได้ที่จะมองในมุมนี้ เพราะหลายๆเหตุการณ์ณ์ที่ผ่านมันทำให้น่าสงสัย การลงทุนในการสร้างโรงงานผลิตวัคซีนไม่ได้ใช้เงินน้อยๆ เพราะต้องการวิจัยพัฒนาการทดลองที่ใช้เงินจำนวนมหาศาล หากยอดขายจะลดลงในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพราะผู้คนมีภูมิคุ้นกันถ้วนหน้าแล้ว มองไม่ออกว่าเขาจะสร้างโรงงานไปเพื่ออะไร หากไม่ใช่การแสวงหาผลกำไร (ที่มาก ๆๆๆๆๆๆ)
หากจะลองย้อนไปดูบทความย้อนหลังของ “ยุคใหม่ฯ” เคยระบุว่ายังไงไวรัสก็ต้องกลายพันธุ์ตลอดอยู่แล้ว ด้วยธรรมชาติของมันเอง แต่อีกเรื่องคือการกลาบพันธุ์ทุกครั้ง ดูเหมือนว่าจะมีผู้ได้ประโยชน์แบบเสือนอนกินอยู่
จึงเป็นไปได้ว่าการกลายพันธุ์และการแพร่ระบาดในครั้งนี้ จะถูกโหมและกระพือข่าวให้ดูน่ากลัวเกินจริง (ไปไหม?) หรือว่ายุคใหม่ฯจะมองโลกในแง่ร้ายเกินไปหรือปล่าวนะ
ล่าสุดมีการนำเสนอข่าวว่าเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอน ที่มีการเปิดเผยจาก พญ. แองเจลีก คุตเซีย (Dr. Angelique Coetzee) ประธานสมาคมแพทย์แห่งแอฟริกา ว่า จากการสังเกตอาการของคนใช้ที่เข้ามารักษาที่คลินิกของเธอ ในกรุงพริตอเรีย เมืองหลวงของประเทศแอฟริกาใต้
Dr. Angelique Coetzee sounded the alarm on the Omicron variant of the coronavirus in South Africa. SAMA
ที่แม้ว่าผลตรวจจะออกมาเป็นบวก แต่กลับไม่พบอาการเหมือนสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ ที่ไม่ได้สูญเสียการรับรสและกลิ่น อาการรุนแรงอื่นๆก็ไม่ค่อยปรากฏ เช่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลียติดต่อกันหลายวัน อาการครั่นเนื้อครั่นตัว
ถ้าเราใช้สติในการติดตามข่าวหรือหากใครที่นับถือพุทธ ก็สามารถใช้หลักาลามสูตในการพิจารณาความเชื่อก็น่าจะดีนะครับ เพื่อไม่ให้ต้องตกเป็นเหยื่อการตลาดของใคร
แต่การกลายพันธุ์แบบนี้ตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นและอีกครั้งที่แอฟริกา กลับพบว่าเชื้อมีความรุนแรงลดลง
ฤ ว่าชาวโลกจะกลับมาใช้ชีวิตในแบบปกติได้เร็วขึ้น
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
สนใจลงทุนธุรกิจใรธุรกิจด้านสุขภาพ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสูงสุดของโลกของการผลิต Essential Oil ที่สามารถแก้ไขปัญหาไมเกรน แพ้อาการ นอนไม่หลับ กล้ามเนื้ออักเสบเฉียบพลัน กระชับสัดส่วน เป็นต้น
ติอต่อได้ที่ http://doterra.myvoffice.com/foryourbeloved/
โฆษณา