30 พ.ย. 2021 เวลา 08:00 • ธุรกิจ
ราคารถยนต์ในเคนยาพุ่งสูงขึ้น หลังจากขึ้นภาษีสรรพสามิตใหม่ (excise tax) ร้อยละ 25-35
ราคารถยนต์พุ่งสูงขึ้นถึงมากกว่า 1 ล้านเคนยาชิลลิ่ง (หรือประมาณ 300,000 บาท) ตามการเรียกเก็บภาษีนำเข้า อัตราใหม่สำหรับยานยนต์ที่มีความจุเครื่องยนต์เกิน 1.5 ลิตร
ภาษีสรรพสามิต ซึ่งเป็นหนึ่งในภาษีที่เรียกเก็บจากการนำเข้ารถยนต์ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีอูฮูรู เค็นยัตตา (Uhuru Kenyatta) ได้ลงนามในกฎหมายขึ้นภาษีสรรพษามิตสำหรับราคาของรถยนต์ใหม่และรถยนต์มือสอง, รถบรรทุกและรถบัสเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 35 ซึ่งมาตรการภาษีที่ว่านี้ส่งผลให้ ภาษีเคนยาเรียกเก็บจากการนำเข้ารถยนต์มีจำนวนมากกว่าร้อยละ 50 ของต้นทุนการค้าปลีกของยานพาหนะโดยแบ่งเป็น ภาษีนำเข้าร้อยละ 25, ภาษีสรรพสามิต (ตอนนี้อยู่ระหว่าง 25 เปอร์เซ็นต์ถึง 35 เปอร์เซ็นต์) และภาษีมูลค่าเพิ่มมูลค่า 16 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
โดยรถยนต์ที่มีขนาดของเครื่องยนต์มากกว่า 1.5 ลิตร จะเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตที่ 25% เมื่อเทียบกับ 20% ก่อนหน้านี้ หากเป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ใช้น้ำมันดีเซลจะจ่ายภาษีสรรพสามิต 35% เมื่อเทียบกับ 30% ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นอัตราเดียวกันกับที่ใช้เรียกเก็บ 35% กับรถยนต์ที่มีขนาดเกินเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร และ 20% สำหรับรถยนต์ขนาดเล็กที่มีขนาดของเครื่องยนต์น้อยกว่า 1.5 ลิตร
อย่างไรก็ดี รัฐบาลเคนยาได้ลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเหลือ 10% เดิมเรียกเก็บที่อัตรา 20% เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดให้มากขึ้น ซึ่งในทางปฎิบัติไม่ส่งผลกระทบต่อภาษีที่รัฐบาลหวังว่าจะได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมีปริมาณการนำเข้าและใช้งานอยู่น้อยมาก
ผู้ค้ารถทั้งรถยนต์ใหม่และรถมือสองกล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงภาษีได้ทำให้ต้นทุนรถยนต์สูงขึ้นถึงระหว่าง 1 หมื่น ถึงมากกว่า 1 ล้านล้านเคนยาชิลลิ่ง (3000-300,000 บาท) ทำให้ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบมากต่อ ราคาของรถยนต์ใหม่มากกว่ารถมือสอง โดยยกตัวอย่าง เช่น ผู้นำเข้า Toyota Premio 1.8 ลิตรซึ่งมีอายุเจ็ดปีและ ใช้น้ำมันจะต้องจ่ายภาษีจำนวน 452, 338 เคนย่าชิลลิ่ง เพิ่มขึ้นจากที่เคยจ่าย 405, 385 เคนยาชิลลิ่ง” นายชาร์ ลมุน โยริ เลขาธิการสมาคมเคนยาออโต้บาซาร์กล่าว
ตัวแทนจำหน่ายกล่าวว่า “การเก็บภาษีรถยนต์หรูหราใหม่และราคาแพง เช่น Range Rover, Porsche Cayenne, Bentley และ Jaguar และรถบรรทุกสำหรับงานหนักเช่น Mercedes Actros, Renault และ Scania จะเห็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ทุกประเภท”
อย่างไรก็ดี รูปแบบภาษีที่แตกต่างที่รัฐบาลพยายามปรับเปลี่ยนนี้มีเป้าหมายเพื่อให้คนรวยจ่ายภาษีมากขึ้นให้กับรัฐบาล แต่แท้จริงแล้ว การที่รัฐบาลออกมาตรการแบบนี้ น่าจะส่งผลต่อตลาดรถยนต์ในภาพรวมมากกว่า โดยเป็นที่คาดการณ์ว่า แม้มาตรการนี้จะส่งผลให้การนำเข้ารถยนต์หรูหราลดลงแต่ขณะเดียวกันอัตราภาษีที่รถยนต์ขนาด เล็กที่สูงขึ้นจะทำให้ความแตกต่างด้านราคาระหว่างกันมีจำนวนที่น้อยลง เพราะภาษีรถยนต์ขนาดเล็กมีอัตรา เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนั่นเอง
โฆษณา