30 พ.ย. 2021 เวลา 05:06 • ไลฟ์สไตล์
"ขวดไวน์ (Wine Bottles)" ในแต่ละสไตล์ มีชื่อเรียกว่าอะไรกันบ้าง ?
โพสก่อนหน้านี้ พวกเราได้ชวนเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับแก้วไวน์ในรูปแบบที่แตกต่างกันไปแล้ว
ถ้างั้นวันนี้ พวกเรา InfoStory ขอพาเพื่อน ๆ มาส่องเรื่องราวของรูปทรงขวดไวน์กันบ้างดีกว่า
1
จะมีรูปทรงไหนที่พอติดตาพวกเรากันบ้างนะ ?
ไปรับชมกันในภาพอินโฟกราฟิกสุดสบายตากันได้เลย !
1
สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากอ่านเพิ่มเติม เชิญทางนี้ได้เลยจ้า
เพื่อน ๆ ทราบไหมว่าขวดไวน์รูปแบบใดที่เป็นที่นิยมใช้มากที่สุดในโลก ?
แน่นอนว่าคำตอบก็คงไม่พ้นขวดไวน์แบบบอร์กโดซ์ (Bordeaux) กับ เบอร์กันดี/บูร์กอญ (Burgundy)
ซึ่งทั้งสองแบบนี้ ก็มาจากแคว้นที่ผลิตไวน์ยุโรป (Old World Wine) ที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศส
เท่าที่พวกเราค้นหามา ก็พบว่า ขวดไวน์แบบเบอร์กันดี น่าจะถูกคิดค้นมาก่อนขวดไวน์แบบบอร์กโดซ์
ซึ่งขวดไวน์แบบเบอร์กันดีถูกค้นพบในช่วงศตวรรษที่ 19
ด้วยรูปทรงแบบขวดไวน์เบอร์กันดี ค่อนข้างมีข้อดีในเรื่องของการผลิตที่ง่าย
ที่ว่าผลิตง่ายนี้ ก็เพราะว่าขวดไวน์รูปแบบนี้ได้ถูกพัฒนาต่อมาจากขวดไวน์ในยุคสมัยก่อน คือรูปร่างโค้งค่อย ๆ ขยายออกมาจากปากขวดไปถึงฐานขวด
ซึ่งในช่วงแรกเลย เขาจะนิยมนำขวดไวน์แบบเบอร์กันดีมาใช้บรรจุไวน์องุ่นสายพันธุ์ Chardonnay และ Pinot Noir เป็นหลัก
burgundy wine bottles
ก่อนที่ต่อมา ผู้ผลิตไวน์ในเมืองบอร์กโดซ์ หนึ่งในแคว้นคู่แข่งไวน์องุ่น ก็เริ่มรู้สึกว่า
เอ้อ ! ขวดไวน์เบอร์กันดีเองเนี่ย รูปทรงสวยงามรวมไปถึงประสิทธิภาพในการเก็บไวน์ก็ดีมาก ๆ
เพียงแต่ว่า... หากเจ้าขวดนี้สามารถพัฒนาให้ผลิตได้ง่ายด้วยรูปทรงที่ไม่ต้องมีรายละเอียดมากและสามารถบรรจุไวน์ได้มากกว่านี้ ก็คงจะดี...
พอมันเป็นแบบนี้เนี่ย ผู้ผลิตไวน์เมืองบอร์กโดซ์ก็ได้มีการคิดค้นขวดไวน์ในรูปแบบเรียบง่าย คือมีความหนาและมีไหล่ขวดที่สูง โดยมากนิยมใช้แก้วที่มีสีเข้มหรือสีเขียวเพื่อกันแสงแดดที่อาจกระทบกับคุณภาพของตัวไวน์แดง
แน่นอนว่าในเรื่องของรูปทรงที่เรียบง่ายแต่กลายเป็นแบบทรงที่นิยมไปทั่วโลก ก็จะเริ่มมีคำถามประมาณว่า ทำไมชาวเมืองบอร์กโดซ์ถึงได้คิดค้นขวดไวน์รูปทรงแบบนี้ มันดียังไงอีกละ ?
คือ เท่าที่พวกเราค้นหามา ก็จะประมาณว่า ขวดไวน์ทรงไหล่สูงปากแคบเนี่ย จะช่วยกรองในเรื่องของตะกอนไวน์ที่ปากขวดได้ดีและทำให้จับถือง่าย
1
แต่อีกหนึ่งเหตุผลที่จะต้องถูกพูดถึงตลอดเลยก็คือ จริง ๆ แล้วชาวบอร์กโดซ์ อาจแค่ต้องการเอาชนะและสร้างชื่อเสียง จึงทำให้ต้องมีการผลิตขวดไวน์ที่มีลักษณะแตกต่างไปจากขวดไวน์แบบเบอร์กันดี ตะหากละ…
(ตรงนี้เราว่าก็คงจะนานาจิตตังกันไปแทนเน้อ)
2
พูดถึงเรื่องราวของขนาดขวดไวน์ ที่จะมีให้เลือกมากมายหลายขนาดมาก อาจจะไม่เหมือนกับเบียร์เนอะ
โดยขวดไวน์ขนาดปกติ (Standard) จะมีความจุอยู่ที่ 75 cl หรือ 750 ml
ว่าแต่ว่า ทำไมขนาดปกติของขวดไวน์ต้องอยู่ที่ 750ml กันละ ?
เรื่องนี้พวกเราก็ไปค้นหาคำตอบพอสังเขปมาให้
ก็คือ ขนาดขวดไวน์ที่ 750 ml นี้ ถูกใช้งานให้เป็นขนาดบรรจุแบบปกติมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 18 แล้วละ (ก่อนขวดไวน์เบอร์กันดีจะถูกคิดค้นมาซะอีกนะ)
ขนาด 750 ml ที่ว่านี้ ก็เกิดมาจากขนาดที่ผู้คนในช่วงนั้น โดยวัดเอาจากปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในมื้ออาหารเย็น โดยเฉลี่ยคือ 6 แก้วต่อมื้อ (เฉลี่ยประมาณแก้วละ 125 ml ก็จะมาได้ที่ปริมาณ 750 ml พอดี)
พอมันเป็นแบบนี้ ช่างทำขวดแก้วหลายคนจึงพยายามผลิตขวดบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ในปริมาณ 750 ml
1
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือ ในช่วงปีค.ศ. 1970-1975 สหรัฐอเมริกาและยุโรปก็ได้ออกกฎหมายเรื่องการบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบขวด ต้องมีการระบุขนาดที่ชัดเจน
เรื่องตรงนี้มันก็จะมีช่องโหว่ในการผลิตขวดไวน์ ซึ่งแน่นอนว่าก็จะเกี่ยวกับเรื่องขนาดของขวดไวน์นี้ละ
จนกระทั่งเกิดความไม่สะดวกในการขนส่งและปัญหาในเรื่องของกฏหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในแต่ละประเทศ
ต่อมาทั้งยุโรปและสหรัฐอเมริกา จึงตกลงที่จะกำหนดไซส์ที่ปกติของขวดไวน์ไว้ที่ 750 ml เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมาในการผลิตและขนส่ง
(เพิ่มเติมจากที่เราหามาคือ ขนาด 750 ml มันเป็นขนาดปกติที่เรียกว่า “fifth of a gallon (⅕)” ซึ่งเป็นระบบมาตราตวงระบบเมตริกของสหรัฐอเมริกาที่นิยมใช้เป็นการกำหนดขนาดของขวด ในช่วงปี 1980)
ก็พอหอมปากหอมคอกันไปกับสาระสบายสมองในวันนี้
ถ้าหยั่งนั้นพวกเราขอตัวกันไปก่อน :):)
โฆษณา