#ศักดิ์ศรีบนเวทีมวย
โดย มิสมาต้า
ก่อนอื่นเราต้องทวงถามกันก่อนว่าบนเวทีมวยไทยระดับมาตรฐาน คำว่าศักดิ์ศรีนั้นอยู่ที่ไหน
อยู่ที่หัวใจนักมวย
อยู่ที่หน้าตาหัวหน้าค่าย
อยู่ที่การแก้ทางของพี่เลี้ยง
อยู่ที่ราคาหน้าเสื่อ
อยู่ที่เสียงโห่จากเซียน
หรือ อยู่ที่ดุลยพินิจของกรรมการ
ผู้เขียนเองไม่ได้เป็นคอหมัดมวยพันธุ์แท้ โดยเฉพาะกีฬาชกมวยไทย แต่ก็เคยชมจากคลิปย้อนหลังของคู่ที่มีเหตุการณ์สำคัญอยู่บ้าง
จึงพอจะคุ้นเคยกับกฎกติกา และประโยคที่เสียดใจอย่างคำว่า "ไล่ลงจากเวที เพราะชกไม่สมศักดิ์ศรี" อยู่บ้างเล็กๆ น้อยๆ
แล้วก็พอจะทราบว่าในบางครั้งบางหนของการถูกไล่ลง เคยมีเรื่องของการล้มมวยเข้ามาเกี่ยวข้องบ้างในบางคราว
แต่กับมวยคู่ประวัติศาสตร์ที่ไม่น่าจะมีใครอยากจำ เกิดขึ้นที่เวทีลุมพินี ในศึกท่อน้ำไทยทีเคโอ ระหว่าง ราชเดช ทีเอ็นมวยไทย กับ พรพรหม ช.ห้าพยัคฆ์ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
เมื่อกรรมการบนเวทีอดรนทนไม่ไหว จึงจัดการตะเพิดนักชกลงจากเวทีด้วยข้อหาไม่ยอมชกกัน ซึ่งถ้าเป็นการให้ลงเพียงคนเดียวแบบปกติก็คงไม่มีอะไรน่าจดจำ
แต่หนนี้กรรมการตัดสินใจให้นักมวยทั้งสองมุมลงจากเวทีไปในยกที่ห้า เพราะว่าสับมือเตือนก็แล้ว หักคะแนนก็แล้ว นักชกทั้งสองมุมกลับไม่มีความพยายามที่จะนำก๊อกสุดท้ายออกมาใช้ แต่กลับนำการเต้นตึ้งๆ ตะลึ้ดตึ๊ดชึ่งฆ่าเวลาเพราะมั่นใจในคะแนนของตัวเอง
จนทำให้กรรมการสับมือ ขอไมค์ แล้วให้ลงจากเวทีทั้งคู่ จนเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการมวยไทยไปในที่สุด
โดยมีการชี้แจงมาจากทางลุมพินีในเวลาต่อมาว่านี่ไม่ใช่การไล่ลง แต่ใช้คำว่าให้ลงจากเวที แล้วให้ถือว่าไม่มีการชกเกิดขึ้น ซึ่งก็สร้างความงุนงงให้กับคอมวยหลายท่านอยู่พอสมควร
แต่คู่นี้ยังไม่ปรากฏกลิ่นของการล้มมวย มีเพียงแค่ความรู้สึกของกรรมการ พ.อ.พงษ์พันธ์ รัตนสุนทร ที่ใช้ดุลยพินิจยุติการชกของคู่นี้ลงในยกสุดท้าย ในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งนาที
::
หลังจากนั้นก็มีการชกของอีกหนึ่งคู่ที่น่าสนใจ แต่เป็นที่เวทีมวยรังสิต เมื่อมีการไล่นักชกลงจากเวทีเนื่องจากกรรมการมองว่าชกไม่สมศักดิ์ศรี ทั้งที่เปิดราคามาเป็นต่อก่อนชก แต่พอเตะต่อยกันไปมากลับเพลี้ยงพล้ำ จนเซียนมวยข้างตัวเองโห่ว่าล้มมวยๆ สุดท้ายจึงถูกกรรมการไล่ลงจากเวที
แฟนมวยหลายคนจึงเกิดความไม่พอใจเพราะเห็นว่ามวยมันสู้กันไม่ได้ ไม่ใช่ไม่ยอมสู้เพราะรับงานมา
ส่วนอีกหนึ่งคู่ก็มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจ เมื่อนักมวยฝ่ายหนึ่งจัดหนักใส่คู่ชกในยกที่สี่ต่อเนื่องมาถึงกลางยกห้า ฝ่ายแพ้รับสภาพแล้วแถมแรงก็หมดยันก๊อกสำรอง ส่วนผู้ชนะก็โบกมือบอกเพื่อนว่าพี่อย่าเข้ามานะ ผมไม่อยากทำพี่แล้ว จากนั้นทั้งคู่จึงงึกๆ งักๆ รอให้เวลาหมด
กรรมการบนเวทีไม่รู้สึกสนุกด้วยจึงสับมือให้เดินใส่กันต่อ ถ้าไม่เดินจะไล่ลงจากเวที ฝ่ายที่หน้าเสื่อเป็นต่อจึงกลั้นใจเดินใส่เพื่อนอีกหนึ่งชุดเพื่อทำให้กรรมการพึงพอใจ หลังจากหมดยก เจ้ารุ่นน้องต้องรีบลงไปกราบเท้าขอขมารุ่นพี่ที่แทบคลานลงจากเวทีไป
คู่นี้ก็เกิดดราม่าว่ากรรมการไม่ใส่ใจสภาพของนักมวย แทนที่ว่าถ้าเห็นว่าสู้ไม่ได้แล้วก็น่าจะจับแพ้ทีเคโอไปเลย มวยมันใส่กันเต็มที่ขนาดนั้นพอมันรู้ว่าสู้กันไม่ได้ หรือแรงหมด นักมวยมันล้วนเป็นพี่เป็นน้องกันมันไม่เอากันให้ตายคาเวทีหรอก
อีกฝ่ายก็บอกว่าทีสองยกแรกที่ไม่ชกกันหนัก ยกที่ห้าก็ต้องคืนกำไรให้ผู้ชมสิ
ผู้เขียนพอมีข้อมูลมาว่านอกจากค่าตัวของนักมวยจะมีการ บวก-ลบ 20% ตามผลชนะ-แพ้แล้ว การถูกน็อคยังส่งผลต่อระยะเวลาที่จะได้ขึ้นชกครั้งต่อไปอีกด้วย การแพ้คะแนนจะพักชกสั้นกว่าแพ้น็อค ซึ่งก็ส่งผลต่อรายได้ของค่ายมวยด้วยเช่นกัน
เมื่อเดินทางมาถึงบรรทัดนี้แล้ว ก็เข้าใจนักมวยทั้งสองมุม พอๆ กับที่เข้าใจกรรมการบนเวที
เพราะตราบใดที่การพนันยังอยู่ในวงการนี้ นักมวยบางคนก็เห็นแก่เงินก้อนใหญ่ด้วยเหตุผลที่ต่างกันไป กลิ่นของการล้มมวยมันจึงหอมหวนชวนให้คิดทุกฝ่าย
กรรมการบนเวทีบางครั้งก็ตามทัน บางครั้งก็ตามไม่ทัน แล้วก็ต้องมีบ้างที่บางครั้งท่านอาจจะต้องใช้มาตรการกันไว้ดีกว่าแก้จนไม่ถูกใจฝ่ายทุกฝ่ายนั่นเอง
แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้น การซื่อสัตย์ต่ออาชีพ การเอื้อเฟื้อต่อผู้ด้อยกว่า การมีน้ำใจนักกีฬา ย่อมต้องเป็นสิ่งที่ต้องรักษาให้มั่นคง
#PlayNowThailand #khelnow #football
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
