30 พ.ย. 2021 เวลา 10:54 • สัตว์เลี้ยง
SUS: รู้ไหมว่า ‘หมาข้างถนน’ คือหมาบ้านที่วิวัฒนาการย้อนไปเป็น ‘หมาป่า’
1
‘หมา’ คือสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์เอามาเลี้ยง และประวัติศาสตร์ของพวกมันกับมนุษย์กว่า 15,000 ปี ก็เลยทำให้มันเป็นสัตว์ที่ถูกมนุษย์ ‘พัฒนาสายพันธุ์’ มาอย่างละเอียดที่สุด และมันไม่มีสัตว์อะไรในโลกอีกแล้วที่มนุษย์พัฒนาจากพื้นฐานพันธุกรรมแบบเดียวกันให้มันเป็นสัตว์ตัวใหญ่น้องๆ เสืออย่างหมาทิเบตันมัสติฟฟ์ หรือหมาตัวเล็กใส่กระเป๋าได้แบบชิวาวา
ทั้งหมดนี้คือฝีมือของมนุษย์ มนุษย์เอาหมาป่ามาคัดเลือกสายพันธุ์และเพาะพันธ์หมาแยกย่อยเป็นร้อยๆ สายพันธุ์ที่หน้าตาไม่เหมือนกันแบบทุกวันนี้
1
แต่ทีนี้ รู้ไหม เขาประเมินว่าในโลกนี้น่าจะมีหมาอยู่สัก 1 พันล้านตัว และมันเป็นหมาที่มนุษย์เลี้ยงเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ กล่าวคือมันมีหมาราวๆ 8 ร้อยล้านตัวในโลกที่เป็น ‘หมาข้างถนน’ ดังนั้นก็พูดได้ว่าหมาส่วนใหญ่ในโลกคือหมาข้างถนน
4
ทีนี้พูดถึงหมาข้างถนน เรานึกถึงอะไร? เราน่าจะนึกถึงหมาขนสั้น ขนาดตัวปานกลาง หูตั้งๆ สีเรียบๆ ถ้าไม่สีน้ำตาลอ่อนก็ลายขาวดำ
เชื่อไหมว่าหมาข้างถนนทั้งโลกหน้าตาแบบนี้หมด ซึ่งเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก เพราะว่าในโลกนี้ แต่ละพื้นที่มันมีการเพาะเลี้ยงหมาสายพันธุ์ต่างๆ ที่ขนาดตัวต่างกัน ลักษณะหูต่างกัน ลักษณะขนต่างกัน ฯลฯ แต่พอพวกมันกลายไปเป็น ‘หมาข้างถนน’ ไปหลายๆ รุ่น หน้าตาของหมาต่างสายพันธุ์นี้กลับ ‘วิวัฒนาการ’ ไปหน้าตาคล้ายคลึงกันหมดไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลกในระดับที่เราอยากเรียกว่า จริงๆ มันมีหมา ‘สายพันธุ์’ หมาข้างถนนจริงๆ
3
เอ แล้วมันยังไง ไปลองดูกัน
แรกเริ่มเดิมทีตั้งแต่ยุคแรกเลยที่มนุษย์เริ่มคัดเลือกสายพันธุ์หมาเพื่อสร้างหมาสายพันธุ์ต่างๆ มนุษย์พัฒนาหมามาเพื่อใช้งาน ดังนั้นก็จะพอบอกได้ว่ามนุษย์ ‘ออกแบบ’ ลักษณะต่างๆ ของหมาพันธุ์ต่างๆ ตาม ‘ประโยชน์ใช้สอย’ เช่น บางสายพันธุ์ที่มนุษย์เพาะมาเพื่อช่วยมนุษย์ล่าสัตว์เล็กๆ แบบต้องช่วยมุดหลุมมุดรูไล่สัตว์ออกมา พวกมันก็จะขาสั้น บางสายพันธุ์ที่เอาไว้ช่วยไปเก็บเหยื่อที่มนุษย์ยิงแล้วตกน้ำ ก็จะมีลักษณะที่มีขนที่กันน้ำ บางสายพันธ์ที่มนุษย์เลี้ยงเอาไว้ให้มันกัดกันเพื่อดูเป็นกีฬามันก็จะมีโครงสร้างกรามอย่างโหดและมีกล้ามทั้งตัว บางสายพันธุ์ที่มนุษย์เลี้ยงเอาไว้วิ่งแข่ง ก็จะขายาว หรือบางสายพันธุ์ที่เลี้ยงเอาไว้เพื่ออยู่บนตักออกงานสังคม ก็จะตัวเล็กผิดปกติแบบที่โตเต็มวัยแล้วก็ยังอุ้มด้วยมือเดียวได้ เป็นต้น
คือร่างกายของหมาถูกมนุษย์พัฒนาไปเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ หรือพูดให้ตรงกว่านั้นก็คือ มนุษย์ได้เปลี่ยน ‘หมาป่า’ เป็น ‘หมาบ้าน’ ในเวอร์ชั่นต่างๆ ที่ต่างกัน แต่ทั้งหมดเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ เพราะสุดท้ายแก่นสารของสิ่งที่เรียกว่าหมาบ้านก็คือ หมาป่าที่วิวัฒนาการมาด้วยน้ำมือมนุษย์ เพื่อให้มันอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ (ซึ่งก็วิวัฒนาการมามากระดับที่ระบบทางเดินอาหารเปลี่ยนเลย เพราะหมานี่มันกินอาหารแบบมนุษย์ได้เกือบหมด คือกินพวกคาร์โบไฮเดรตได้สบายๆ ในขณะที่หมาป่าทำไม่ได้)
3
แล้วอะไรคือการ ‘วิวัฒนาการ’ ไปเป็น ‘หมาข้างถนน’?
คำอธิบายสั้นๆ ก็เพราะมันคือหมาบ้านที่ ‘วิวัฒนาการ’ ย้อนกลับไปเป็นหมาป่า หรือพูดให้ตรงกว่านั้นคือสัตว์คล้ายหมาป่าที่มีลักษณะเป็น ‘สัตว์กินซาก’ มากกว่า ‘นักล่า’ เพราะหมาพวกนี้คือสัตว์ที่ ‘ล่า’ ไม่เป็น แต่พวกมันคอย ‘กินเศษอาหาร’ จากสังคมมนุษย์ และก็ไม่แปลกเลยถ้าแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมันคือกองขยะ
1
หมาข้างถนนต้องทรหด ไม่งั้นมันไม่รอด ขนที่ยาวรุงรังหรือปุกปุยน่ารักก็ต้องเปลี่ยนไปสั้น หูที่เคยตูบลงมาน่ารักก็ต้องตั้งขึ้นเพื่อรับรู้สภาพแวดล้อมได้มากขึ้น ร่างกายที่เคยเล็กจิ๋วหรือใหญ่โตก็เปลี่ยนไปเป็นขนาดกลางปราดเปรียว เพราะนั่นคือขนาดร่างกายที่เหมาะสมที่สุดที่จะวิ่งหนีภัยต่างๆ ได้พร้อมกับที่ไม่ต้องการอาหารมากเกินที่จะหาได้ต่อวัน หรือกระทั่งลักษณะนิสัยที่เป็นมิตรต่อมนุษย์ ก็กลายมาเป็นไม่ไว้วางใจมนุษย์ง่ายๆ
2
ดังนั้นถ้าเราคิดว่า ‘หมาข้างถนน’ หน้าตามันดูไม่ดีเอาซะเลย จริงๆ เราก็ต้องตระหนักเลยว่า ทุกลักษณะที่เราเห็น มันถูกพัฒนามาเพื่อการมีชีวิตรอด หรือให้ตรงกว่านั้นมันคือลักษณะภายนอกที่ช่วยให้มันรอดมาสืบทอดเผ่าพันธุ์และส่งรหัสพันธุกรรมมายังรุ่นต่อไป ดังนิยามของ ‘วิวัฒนาการ’ สไตล์ชาร์ล ดาร์วิน
1
แต่ขนาดวิวัฒนาการมาขนาดนี้ เชื่อไหมว่าพวกมันก็ยังคง ‘เข้าใจ’ มนุษย์ได้ คือมีงานวิจัยมาชี้เลยว่า แม้แต่หมาข้างถนนแท้ๆ ที่เกิดข้างถนนและไม่เคยถูกเลี้ยงโดยมนุษย์มาก่อน มันก็มีความสามารถจะทำความเข้าใจท่าทางของมนุษย์ได้ ‘ตามธรรมชาติ’ และถ้าเอามาฝึก มันก็จะสื่อสารกับมนุษย์ได้เหมือนหมาปกติเลย
4
ทั้งหมดนี้ฟังดูน่าทึ่งมาก แต่ก็นี่แหละสายสัมพันธุ์อันทรงพลังระหว่างหมากับมนุษย์ เพราะไม่ว่ามันจะโตไป วิวัฒนาการไปห่างจากมนุษย์แค่ไหน รากฐานของสายสัมพันธ์กว่า 15,000 ปีก็ยังเอื้อให้สิ่งมีชีวิตทั้ง 2 สายพันธุ์สื่อสารกันได้อยู่ดี
1
อ้างอิง:
Adam Miklosi, The Dog: A Natural History, (Princeton: Princeton University Press, 2018)
National Geographic. Stray dogs have the natural ability to understand human gestures. https://www.nationalgeographic.co.uk/.../stray-dogs-have...
1
#SUS #หมาข้างถนน #pet
#สุนัขข้างทาง
โฆษณา