อย่ากรากกรำตัวเจ้าเพื่อจะได้เป็นคนมั่งมี; จงเลิกความเห็นอันนั้นเสีย. เจ้าจะเพ่งตาของเจ้าอยู่ที่ของอนิจจังหรือ? เพราะทรัพย์สมบัติมีปีก; แน่นอนทีเดียว, มันจะบินหายไปในท้องฟ้าเหมือนนกอินทรี. จงซื้อความจริงไว้และอย่าขายเสียเลย: เออ คือปัญญาแลความสั่งสอนแลคำเข้าใจ.
สุภาษิต 23:4-5, 23 TH1940
คือว่า, “นอนอีกสักหน่อย, หลับอีกสักนิดหนึ่ง, และเอามือกอดอกหลับไปอีกประเดี๋ยวหนึ่ง”:
สุภาษิต 24:33 TH1940
คนเกียจคร้านมักกล่าวว่า, “มีสิงห์โตอยู่กลางทาง, มีสิงห์โตอยู่ที่ถนน”. บานประตูเปิดอยู่กับบานพับฉันใด, คนเกียจคร้านก็พลิกไปมาอยู่กับที่นอนของเขาฉันนั้น. คนเกียจคร้านจุ่มมือลงในชามข้าว: แล้วกว่าจะเปิบเข้าปากอีกก็รู้สึกอ่อนใจ. คนเกียจคร้านเห็นไปว่าตัวมีปัญญายิ่งไปกว่าเจ็ดคนที่อาจตอบปัญหาได้สมเหตุสมผล.
สุภาษิต 26:13-16 TH1940
เราได้เดินผ่านไร่นาของคนเกียจคร้าน, และได้เดินผ่านไร่องุ่นของคนผู้อปัญญา; และนี่แน่ะ, มีต้นหนามขึ้นรกเต็มไป, และพื้นที่นั้นดาดไปด้วยผักขมหนาม, และรั้วกำแพงนั้นก็สลักหักพังลง.
สุภาษิต 24:30-31 TH1940
ฝนที่ตกพรำๆ ตลอดวัน, และผู้หญิงที่บ่นพร่ำเพรื่อ, ทั้งสองอย่างนี้ก็เช่นกัน:
สุภาษิต 27:15 TH1940
เหล็กลับเหล็กให้คมได้ฉันใด, คนเราก็ลับเพื่อนของเราให้เฉียบแหลมขึ้นได้ฉันนั้น.
สุภาษิต 27:17 TH1940