Blockdit Logo (Mobile)
มา try กัน
•
1 ธ.ค. 2021 เวลา 06:16 • อาหาร
วันนี้เราจะพาทุกคนไปลอง กินหรู ระดับมิชลินสตาร์กันค่ะ
Credit: facebook/Blue by Alain Ducasse
ร้าน Blue by Alain Ducasse เป็นร้านอาหารแนว contemporary French fine dining ของเชฟ Alain Ducasse ที่กวาดดาวมิชลินไว้ได้เป็นอันดับต้นๆของโลก และร้านนี้ ยังได้มา 1 ดาวด้วยค่ะ
ร้านตั้งอยู่ที่ Iconsiam ชั้น 1 โซน Iconluxe มีการตกแต่งในโทนสีฟ้าตามชื่อร้านการเดินทาง สามารถมาได้หลายทางมากค่ะ ไม่ว่าจะขับรถ รถไฟฟ้า หรือเรือ และสำหรับใครที่ขับรถมา สามารถจอดที่จอดพิเศษของที่ร้านได้บริเวณ Iconluxe lobby ไม่ต้องวนหาให้เสียเวลาค่ะ
Credit: Blue by Alain Ducasse official website
วันนี้ที่เราลองกัน เป็น 4 course lunch สนนราคาอยู่ที่ 1950++ ต่อคน ไม่รวมเครื่องดื่ม
เมนูอาหารจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆค่ะ สามารถดูได้ที่ website ด้านล่างนี้เลย
ร้านนี้ ต้องจองล่วงหน้านะคะ และถ้าหากคุณเป็นคนไม่ทานเนื้อ หรือแพ้อาหารบางชนิด สามารถ request ตอนที่ทำการจองได้เลยค่ะ แต่ต้องให้เวลาทางร้านเตรียมวัตถุดิบด้วย
เมื่อเรามาถึงร้าน พนักงานจะนำเสนอเครื่องดื่มก่อนค่ะ โดยวันนี้คุณ Alex เป็นคนดูแลเราค่ะ
ภาพโดยผู้เขียน
จากนั้นจะเริ่มเสิร์ฟ Amuse-bouche หรืออาหารเรียกน้ำย่อย
ภาพโดยผู้เขียน
คำแรกเป็นเหมือน cream puff ไส้ชีส มีความกรอบด้านนอก ด้านในเค็มๆมันๆ หอมชีส โดยรวมแล้วชอบค่ะ อร่อยเลย
ภาพโดยผู้เขียน
จากนั้นสามอย่างนี้จะมาพร้อมกันค่ะ โดยพนักงานจะแนะนำให้เราเริ่มจากแครอท parmesan stick และตามด้วยหอยค่ะ
carrot คำนี้มีความแปลกใหม่มากค่ะ รสเหมือน gummy bear แต่ยังมีความกรอบ ให้ความสดชื่นดีค่ะ
parmesan stick เป็นอันที่เราชอบที่สุดคือ มันคือ parmesan breadstick กรุบกรอบ ทา cream cheese และ top ด้วย smoked salmon รสชาติจะเข้มข้น มีกลิ่น smoke ชัดเจน และมีความมันๆนัวๆของ cream cheese
จานนี้น่าจะเป็น sea snail กับซอส garlic mustard mayo ค่ะ ขออภัยแต่จำไม่ได้จริงๆ เนื้อหอยมีความนุ่มแต่หนึบซอสมีกลิ่นกระเทียมและเผ็ดปลายลิ้น จานนี้เฉยๆค่ะ
จากนั้น พนักงานจะเสิร์ฟขนมปังให้เราค่ะ มีสามชนิดคือ sourdough, baguette และ brioche โดยจะมาพร้อมกับเนยฝรั่งเศสรสเค็มที่มีกลิ่นรสเป็นเอกลักษณ์ค่ะ
ภาพโดยผู้เขียน
เราชอบ sourdough ที่สุด เพราะมีความหอม และไม่ออกเปรี้ยวมากค่ะ ส่วนผู้ใหญ่จะชอบ brioche เพราะมีความนุ่ม เคี้ยวง่าย
ขนมปังพวกนี้ เราสามารถ request ได้เรื่อยๆ ตลอดมื้อเลยค่ะ ใครสายแป้งคงได้ฟินกันเลย
จานถัดมา เป็นเมนูพิเศษอีกแล้วค่ะ เนื่องจากปกติจะเป็น Lucullus แต่เราไม่ทานเนื้อกัน เชฟเลยเปลี่ยนเป็นกุ้งสีฟ้า marinate มาในผลไม้พวก citrus เช่น tangerine และ yuzu ด้านล่างสุดเป็น jelly รสส้ม และด้านบนเป็น foam รสส้ม
ภาพโดยผู้เขียน
เมนูนี้ให้ความสดชื่น เนื้อกุ้งมีกลิ่นทะเลที่ชัดเจน ตัดกับเกล็ดส้มรสเปรี้ยวอมหวาน ถือเป็นเมนูเปิดต่อมรับรสที่ดีเลยค่ะ
เมนูถัดมาเป็นเมนูที่เราชอบที่สุดของวันนี้เลยค่ะ เป็นแป้ง tart บางกรอบ ด้านล่างสุดเหมือนเป็น sweet potato มีรสหวานนิดๆ แล้วมี potato emulsion ที่มีกลิ่นที่ชัดเจน และมีความ creamy นัวๆ ด้านบนเป็นหอมที่ slice และทอดจนกรอบ perfect สุดๆเลยค่ะ
ภาพโดยผู้เขียน
จานนี้ก็ชอบมากอีกเช่นกันค่ะ เป็นอันดับสองของวันนี้เลย นั่นคือ vol-au-vent
ภาพโดยผู้เขียน
ด้านนอกเป็นเหมือนถ้วยแป้ง puff pastry ที่กรอบมากๆ ด้านใน ชั้นล่างสุดไล่ขึ้นมาเป็น scallop mousse, hokkaido scallop ทอปด้วย octopus, mussel และเห็ด hen of the wood หรือไมตาเกะ นอกจากนี้ยังมีซอสราด เพิ่มรสชาติได้อย่างดี
มาถึงจานหลักกันค่ะ วันนี้เราเลือกเป็น tomato madai aubergine layers pearled jus
ภาพโดยผู้เขียน
ปลา madai หรือปลากะพงแดงญี่ปุ่น นำมาย่าง skin side down แล้วนำไปอบ เสิร์ฟคู่มะเขือที่ทำเป็นชั้น ราดด้วย jus ซึ่งเป็นซอสใส ต่างจากพวก gravy
เนื้อปลาย่างมาแบบ medium มีความสดและไม่มีความคาวอยู่เลย หนังปลามีความกรอบ รสค่อนข้างอ่อนเลยค่ะ พวกเราเลยไม่อินเท่าไหร่
สุดท้ายมาถึงของหวานค่ะ ขออภัยในความถ่ายไม่ทัน เลยยืมรูปมาอีกทีค่ะ
Credit:facebook Iconsiam
ของหวานวันนี้เราเลือกมาเป็น chocolate ice cream ที่คุณ Alex บอกว่า เค้าผลิตเองสำหรับร้านของ Alain Ducasse เท่านั้น ซึ่งจะโรยด้วยเกลือ และ pink peppercorn ถือว่าได้รสที่แปลกใหม่ ที่เราไม่คิดว่าจะเข้ากันมาก่อน ส่วนผู้ใหญ่สั่งเป็น 3 ways persimmon หรือลูกพลับที่เสิร์ฟมาสามแบบ ทานคู่ Chestnut ice cream แต่ดูเหมือนว่า chocolate ice cream จะ work กว่าค่ะทุกคน
ภาพโดยผู้เขียน
นอกจากขนมหวานที่สั่ง ยังมีขนมชิ้นเล็กๆไว้ให้ปิดท้ายกันอีกค่ะ ซึ่งรสชาติดีค่ะ แต่บอกตรงๆว่าอิ่มมากแล้วค่ะ
มื้อนี้ถือว่าได้ประสบการณ์ ได้รับบริการแบบ exclusive รวมทั้งได้ลองทานอาหารที่แปลกใหม่ ที่มีคุณภาพดีที่สุด ปรุงอย่างพิถีพิถัน ส่วนเรื่องรสชาตินั้น เป็น personal preference ค่ะ
สำหรับราคา ถือว่าสูงทีเดียวค่ะ แต่ถ้าจะไปลองซักครั้งก็ไม่ได้ถือว่าสิ้นเปลืองเกินไปค่ะ อาจจะเลือกไปในโอกาสพิเศษ หรือฉลองวันเกิดก็ได้ค่ะ ถือว่าลองให้รู้ค่ะ ;)
โฆษณา