1 ธ.ค. 2021 เวลา 14:04 • สัตว์เลี้ยง
10 อาหารที่แมวห้ามกิน เจ้าของควรรู้ก่อนเป็นอันตราย
หลายๆ คนที่เลี้ยงแมวและดูแลเรื่องอาหารการกินของน้อง คงทราบดีแล้วว่าอาหารโปรดของเจ้านายเราคืออะไร (อาจเป็นอาหารแมวแบบเม็ด แบบเปียก หรือขนมแมวเลียสารพัดยี่ห้อในท้องตลาด) แต่ทาสแมวมือใหม่หลายคนอาจยังไม่รู้ และคาดไม่ถึงว่า อาหารที่คนเรากินเป็นปกติในชีวิตประจำวันหลายอย่างจะเป็น อาหารที่แมวห้ามกิน โดยเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายกับสัตว์เลี้ยงของเราค่ะ
เพื่อเป็นการไม่ประมาท และเตือนภัยสำหรับเจ้าของที่อาจเผลอให้น้องกินของอันตรายโดยไม่ตั้งใจได้ วันนี้เราจึงได้รวบรวมของกินใกล้ตัว 10 อย่างที่ห้ามแมวกินโดยเด็ดขาด ไม่งั้นอาจเป็นอันตรายได้ตั้งแต่เจ็บป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ลองมาดูกันนะคะว่ามีอะไรบ้างที่เป็น อาหารต้องห้ามของน้องแมว ค่ะ
1. ยาพาราเซตามอล
พาราเซตามอลหรือยาแก้ปวดของเรา แม้ว่าจะเป็นยาสามัญประจำบ้านที่เรามักจะกินเวลาปวดหัว เป็นไข้ แต่ว่ายานี้เป็นอันตรายที่สุดสำหรับแมว ถ้าแมวป่วยหรือเป็นไข้ ห้ามให้แมวกินยาพาราโดยเด็ดขาด เป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยนะคะ เพราะพิษของยาพาราเซตามอลที่มีต่อแมว จะทำให้เกิดความผิดปกติในระบบเลือด เป็นพิษต่อเม็ดเลือดแดง ทำให้การขนส่งออกซิเจนลดลง ส่งผลให้เนื้อเยื่อขาดอ๊อกซิเจนได้ หากแมวกินยาพาราเซตามอลเช้าไป แมวจะอาเจียน น้ำลายไหลยืด หอบ เหงือกสีคล้ำ ใบหน้าและเท้าบวม หากได้รับในปริมาณไม่มากสัตว์แพทย์ยังสามารถช่วยทันได้ แต่ถ้าได้รับยาพาราเซตามอลในปริมาณมากจะทำให้เสียชีวิตภายใน 24-48 ชั่วโมงเลยค่ะ
2. หัวหอม กระเทียม
หัวหอมและกระเทียม ทั้งแบบดิบและแบบที่สุกแล้ว ก็เป็นอันตรายสำหรับแมวเหมือนกัน เพราะจะทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตก และส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจาง นอกจากนั้นยังทำให้กระเพาะอาหารมีปัญหาอีกด้วย
3. องุ่น และลูกเกด
ทั้งองุ่นเขียวและองุ่นแดง ผลไม้ลูกเล็กๆที่เรากินนี้ ถ้าแมวกินเข้าไป อาจทำให้เกิดภาวะคลื่นไส้ อาเจียน อย่างรุนแรง และทำให้เกิดอันตรายจากภาวะไตวายเฉียบพลันได้
4. เหล้า-เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นเหล้า,เบียร์หรือไวน์ ขนาดคนตัวโตๆอย่างเราๆ ดื่มเข้าไปแล้วยังออกอาการมึนๆ เลย เพราะแอลกอฮอล์จะเข้าไปทำลายระบบการทำงานของสมองและตับ แล้วนับประสาอะไรกับสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างเจ้าหมียว ถ้าเผลอกินเข้าไปแล้วจะอันตรายมากๆ เลยค่ะ รวมถึงอาหารอื่นๆ ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมด้วยนะคะ
5. ชา กาแฟ เครื่องดื่มคาเฟอีน
ชา,กาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลังอื่นๆ ที่มีสารคาเฟอีน คาเฟอีน ถ้าได้รับเข้าไปจะทำให้ อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ หัวใจเต้นแรง ซุกซนผิดปกติ กล้ามเนื้อกระตุกสั่นเกร็ง อาเจียน และอาจหัวใจวายได้
6. ช็อกโกแลต
ช็อกโกแลต ขนมที่เป็นของโปรดของใครหลายๆคน แต่กับแมวนั้น ช็อคโกแลตเป็นอันตรายต่อแมวอย่างยิ่ง เพราะในช็อคโกแลตมีสาร ธีโอโบรมีน(Theobromine) สารตัวนี้จะออกฤทธิ์คล้ายกับคาเฟอีน ถือว่าเป็นสารพิษกับทั้งแมวและหมา เพราะพวกเค้าไม่มีเอนไซม์ในการย่อยและทำลายสารตัวนี้ สารธีโอโบรมีนจะมีมากในดาร์กช็อคโกแลต ถ้าได้รับเข้าไปจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ หัวใจเต้นแรง กล้ามเนื้อกระตุก ใจสั่น อาเจียน ท้องเสีย ลมชัก และอาจถึงขั้นเสียชีวิตเลย
7. ลูกอมและหมากฝรั่ง
ลูกอมหรือหมากฝรั่งที่มี สารไซลิทอล ถ้าแมวทานเข้าไปจะไปกระตุ้นการผลิตอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดลดลงอย่างรวดเร็วจนถึงระดับที่อันตราย อาจหมดสติ หรือชักได้ นอกจากนั้น อาจทำให้อาเจียน, เกิดเลือดออกในกระเพาะอาหาร, ลำไส้หรือช่องท้อง และตับวายได้
8. ไข่ดิบ เนื้อหรือปลาดิบ
ในอาหารดิบ อาจมีการปนเปื้อนของ เชื้อแบคทีเรีย Salmonella หรือ E.coli ทำให้แมวมีอาการท้องเสียและอาเจียนได้ และพบว่าในไข่ขาวดิบนั้นมี สารอะวิดิน (Avidin) เป็นโปรตีนที่จะไปลดการดูดซึมไบโอติน จะทำให้แมวมีปัญหาผิวหนัง ขนร่วง และขนหยาบไม่สวยอีกด้วย ทางที่ดีควรให้อาหารที่ปรุงสุกจะดีกว่านะคะ
9. นมวัว
นมวัว เป็นอีกอย่างที่ไม่ควรให้น้องแมวกิน เพราะว่า แมวไม่มีเอนไซม์สำหรับย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมวัว (เช่นเดียวกับบางคนที่แพ้นมวัวเพราะไม่มีเอนไซม์สำหรับย่อยนั่นเอง) ถ้าแมวกินนมวัวแล้วอาจมีอาการท้องเสีย หรืออาเจียนได้ ถ้าจำเป็นต้องให้นมแมว ควรให้เป็นนมแพะ หรือนมสำเร็จรูปสำหรับแมวโดยเฉพาะจะดีกว่าค่ะ
10. ถั่วแมคคาเดเมีย
ถั่วแมคคาเดเมีย อาจจะอร่อย และมีประโยชน์ต่อคนอย่างเรา แต่กับแมวนั้นห้ามให้กินโดยเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะในถั่วแมคคาเดเมียนั้น มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้มีอาการเจ็บปวด เมื่อย เป็นไข้ อาเจียน ซึม กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรืออัมพาตขาหลัง และอาจตายได้
นอกเหนือจาก 10 อาหารที่แมวห้ามกิน ที่ได้บอกไปแล้วนั้น ยังมีภัยใกล้ตัวอีกเรื่องที่ควรระวังและหลีกเลี่ยง นั่นคือ การให้สุนัขหรือแมวกินกระดูกไก่หรือก้างปลา ที่แม้จะดูเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ที่จริงแล้วก็อาจเป็นอันตรายกับน้องได้ เพราะกระดูกที่แตกหรือก้างปลาจะมีความแหลมคม อาจติดคอ ทิ่มกระเพาะหรือลำไส้จนเป็นแผลได้เลยนะคะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้พวกเราระมัดระวังเรื่องอาหารการกิน และดูแลสุขภาพให้น้องเหมียวอยู่กับเราไปได้นานๆ เลยค่ะ ยังไงก็ฝากช่วยกันแชร์ส่งต่อความรู้นี้ไปให้ทาสแมวโดยทั่วกันด้วยนะคะ
โฆษณา