Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BETTERCM
•
ติดตาม
2 ธ.ค. 2021 เวลา 13:11 • สุขภาพ
😎เปลือกตาอักเสบ (Blepharitis)
โดยมากเกิดจากเชื้อ Staphylococcus อาจเป็นรุนแรงหรือเรื้อรังได้
มีสาเหตุนำต่าง ๆ ได้แก่
1. ความเป็นอยู่สกปรกและอนามัยไม่ดี
2. มีโรคหัด อีสุกอีใส เกิดขึ้นก่อน
3. ความระคายเคืองต่าง ๆ เช่น ควันไฟ ควันบุหรี่ ฝุ่นละออง หรือจากเครื่องสำอาง
4. อาจเกิดร่วมกับต่อมไขมันอักเสบ (Seborrheic Dermatitis)
5. อาจพบร่วมกับโรคอื่นๆ เช่น เยื่อตาอักเสบเรื้อรัง สิว เป็นต้น
😻อาการและอาการแสดง
แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดไม่เป็นแผล (Non-ulcerative) และชนิดเป็นแผล (ulcerative blepharitis)
ชนิดไม่เป็นแผล (Non-ulcerative blepharitis หรือ Squamous blepharitis)
1. มีอาการร้อนนัยน์ตา และระคายเคืองที่นัยน์ตา อาจมีอาการเยื่อบุตาอักเสบเรื้อรังร่วมด้วย
2. ขอบของเปลือกตาบวมแดง มีสะเก็ดเล็กๆติดอยู่รอบๆโคนขนตา
ในรายที่รุนแรง ขอบของเปลือกตาจะหนาและแบะออก
3. ขนตาร่วง แต่ส่วนมากงอกขึ้นใหม่ได้
ชนิดเป็นแผล (Ulcerative blepharitis)
1. ขอบของเปลือกตาบวมแดง และมีแผลหนองเล็กๆ (multiple suppurative lesions) ที่แผลมีหนองเหลือง ๆ ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นสะเก็ด
2. ถ้าแกะสะเก็ดออกจะมีแผลเล็กๆ ซึ่งมักมีเลือดออกง่ายอยู่รอบๆ ขนตา
3. ขนตาร่วงและมักจะไม่งอกขึ้นมาใหม่ หรืองอกขึ้นมาแต่มีลักษณะผิดปกติ เช่น คุด (invert) เข้าข้างใน (trichiasis)
4. ในรายที่เป็นเรื้อรัง ขนตาอาจร่วงจนหมด (madarosis) หรือขอบของเปลือกตาหนา (tylosis) หรือขอบของเปลือกตาแบะออก (ectropion)
🏵️การรักษา
1. บำรุงสุขภาพ รักษาอนามัยความสะอาดและให้อาหารมีประโยชน์
2. รักษาตามสาเหตุ เช่น โรคหัด ขี้รังแค หรือเยื่อจมูกอักเสบ
3. ใช้สำลีชุบน้ำยาบอริค 3% เช็ดสะเก็ด หรือหนองที่ติดอยู่รอบๆขนตาออกให้หมด แล้วใช้ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่หยอดหรือป้ายตา
4. ในรายที่เรื้อรัง อาจให้ยาสเตียรอยด์ชนิดหยอดหรือป้าย (local steroid eye drops หรือ ointment) ร่วมกับยาปฏิชีวนะจะได้ผลดีขึ้น เนื่องจากเปลือกตาอาจถูก sensitised ด้วย exotoxin ของเชื้อ Staphylococcus ทำให้ดื้อยาปฏิชีวนะ เมื่อให้ steroids ด้วยจะช่วยไม่ให้เกิด sensitised ขึ้น
5. ในผู้ป่วยที่มีสายตาผิดปกติ (error of refraction) ควรแก้ไขโดยการให้ใช้แว่นสายตาที่เหมาะสม
เปลือกตาอักเสบมักจะรักษาโดยการทำความสะอาดเปลือกตาเป็นประจำ ใช้ยาหยอดตาหรือยาป้ายตาที่มียาปฏิชีวนะ หากสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ผล ก็จะใช้ยาปฏิชีวนะแบบกิน อย่างไรก็ตาม ไม่มีแนวทางว่าควรให้ยาปฏิชีวนะชนิดใด ใช้ขนาดใด หรือรักษานานแค่ไหน การให้ยาปฏิชีวนะชนิดกินสำหรับเปลือกตาอักเสบเรื้อรังอาจช่วยให้อาการดีขึ้น แต่อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์มากขึ้นได้เช่นกัน
💢
https://www.healthcarethai.com/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B2-diseases-of-the-eyelids/
http://excellent.med.cmu.ac.th/meccmu/?p=1964
https://www.cochrane.org/th/CD013697/EYES_kaarraksaaepluuektaaakesberuuerang-epluuektaabwmaelakhan-yaaptichiiwna
เพิ่มเติมเทคนิค #สครัปขอบตา
.
ให้ใช้ cotton bud ฝนปลายให้แบนเป็นพื้นที่หน้าตัด (อันขวา) แล้วค่อยจุ่มโฟม มาสครัปตั้งฉากกับขอบตา จะทำให้เข้าถึงขอบตาได้ดีกว่าการใช้นิ้วถู ไขมันออกได้หมดจดมากขึ้น แนะนำคนไข้ไปแล้วหลายราย ได้ผลดีจริง
.
การดูแลเปลือกตา 3 ขั้นตอนนี้ มีความสำคัญมาก ไม่ใช่การรักษาเสริม แต่เป็นการรักษาหลัก ในโรค #ต่อมไขมันเปลือกตาอุดตัน
.
มีคนไข้หลายท่านหายขาดจากโรคนี้ หยุดการใช้น้ำตาเทียมได้ถาวร แค่เพียงดูแลเปลือกตาตามนี้อย่างเคร่งครัด ทำทุกวันเช้า-เย็น ต่อเนื่อง 3 เดือน บางท่านตั้งใจทำอย่างดีเยี่ยม หายขาดตั้งแต่ 1 เดือนแรกที่ทำ โดยไม่ต้องมาทำที่ รพ. แม้แต่ครั้งเดียว
.
อย่างไรก็ตาม โรคนี้จำเป็นต้องดูแลต่อเนื่อง หลังจากหายแล้ว ให้เว้นระยะห่างการดูแลได้ เช่น เหลืออย่างน้อย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะหากหยุดดูแล มีโอกาสกลับเป็นซ้ำสูง
.
พญ.ศศิ ใหญ่สว่าง MD FICO
▪️ จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านตาแห้ง
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0Zzr5zKGgdRzdaPq5uAxyWxWKHefsQqdaJMnCNJc8bK1aW5A2iu7n4JwujKhtcsBLl&id=100077639925933
🤓ยาหยอดตาที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบัน มีมากมายหลากหลายชนิดและยี่ห้อ ซึ่งแต่ละตัวมีคำแนะนำในการเก็บรักษาแตกต่างกันออกไป
☃️ในกรณีที่เป็นยาหยอดตาชนิดที่ควรเก็บรักษาในตู้เย็น (อุณหภูมิ 4-8 องศาเซลเซียส) เช่น ยาหยอดตาคลอแรมฟินิคอล หรือ ยาตาปฏิชีวนะบางตัว ให้เก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา
☁️ส่วนยาหยอดตาที่ควรเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้อง (ประมาณ 25-30 องศาเซลเซียส) ไม่ควรเก็บในตู้เย็น เว้นแต่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิตให้เก็บได้ เนื่องจากอาจส่งผลให้สภาพของยาเปลี่ยนแปลงได้ เช่น เกิดผลึกหรือตะกอน หรืออาจส่งผลต่อค่าความเป็นกรดด่างของยา ทำให้อายุยาเปลี่ยนไป
สำหรับยาที่ต้องเก็บในตู้เย็น ถ้าเอาไปเก็บที่อุณหภูมิห้องจะทำให้อายุของยาสั้นลงมาก จากที่เก็บได้นาน18เดือนในตู้เย็น จะลดเหลือแค่ 2.5 เดือนเท่านั้น (3)
😎ส่วนยาหยอดตาที่เปิดใช้แล้ว โดยทั่วไปจะมีการเติมสารกันเสียเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งจะมีฤทธิ์เต็มที่ภายใน 1 เดือนหลังจากเปิดใช้งานครั้งแรก จากนั้นก็ค่อยๆเสื่อมประสิทธิภาพลงทีละน้อย ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ยาหยอดตาเกิน 1 เดือนหลังการเปิดใช้ครั้งแรก เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับตา และสามารถเก็บยาหยอดตาไว้ได้ในอุณหภูมิห้อง
💢
1.
https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/qa_full.php?id=3911
2.
http://pca.fda.moph.go.th/public_media_detail.php?id=6&cat=56&content_id=1175
3.
https://www.car.chula.ac.th/display7.php?bib=b1226560
⛔ความเชื่อว่าการเก็บยาไว้ในอุณหภูมิต่ำๆ จะทำให้รักษาความคงตัวของยาได้นานขึ้น หรืออาจเข้าใจว่าจะสามารถยืดวันหมดอายุของยาให้นานขึ้นได้ จึงนิยมนำยาเก็บไว้ในตู้เย็นแทบทุกชนิด นั่นอาจทำให้การคงตัวของยาเสียไปได้ เนื่องจากความชิ้นและอุณหภูมิอาจไม่เหมาะสมกับยาบางชนิด เช่น หากนำยาแขวนตะกอนหรือยาน้ำเชื่อมบางประเภทมาแช่เย็น ก็อาจจะทำให้เกิดการตกตะกอนได้ หรือยาแคปซูลบางชนิดที่มีการเก็บไว้ในตู้เย็นที่มีความชิ้นสูง มักจะทำให้แคปซูลเยิ้มจนติดกันได้
⛔การแช่ยาบางชนิดในตู้เย็น นอกจากอาจจะทำให้เกิดการเสื่อมสลายของตัวยาสำคัญแล้ว ยังทำให้เกิดสารพิษขึ้นได้ด้วย เช่น การแช่ยาเม็ดแอสไพรินในตู้เย็นที่มีความชื้นสูง จะทำให้เกิดการสลายตัวเป็นกรดซาลิไซลิกและกรดอะซิติก ซึ่งจะทำให้ยาไม่มีผลในการต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด รวมทั้งยังทำให้เกิดพิษ
😁ดังนั้น การเก็บยาไว้ในตู้เย็น จึงไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดเสมอไป ควรอ่านฉลากยาหรือรายละเอียดบนกล่องยา เพื่อศึกษาถึงอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษายาอย่างถูกต้องดีกว่า
💢
https://www.matichon.co.th/lifestyle/health-beauty/news_2229176
https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/wp-content/uploads/2019/10/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B2.pdf
POSTED 2021.12.03
UPDATED 2022.11.14
1 บันทึก
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย