2 ธ.ค. 2021 เวลา 15:19 • หุ้น & เศรษฐกิจ
หนังสือที่เปลี่ยนชีวิต ความคิดและวิธีการเทรดของผม
บทความแรกผมจะขอพูดถึงหนังสือที่เปลี่ยนชีวิตผมไปเลยก็ว่าได้
ผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมามากกว่า 30 เล่ม อ่านจบบ้างไม่จบบ้าง
แต่เมื่อผมได้อ่านหนังสือ Think & Trade Like a Champion ของ Mark Minervini จบ มันทำให้ผมเปลี่ยนทั้งวิธีการคิดและการเทรดที่ทำให้ผมพบเจอกับกำไรที่สม่ำเสมอ โดยที่การลงทุนสะเปะสะปะตลอด 9 ปีของผมเทียบไม่ได้เลย
บทความนี้ผมจะขอสรุปคร่าวๆ ในสิ่งที่ผมได้จากหนังสือเล่มนี้ครับ
1
- ตัวเราเองนั้นต้องเป็นผู้เลือกว่าจะเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้ การเลือกเป็นผู้ชนะทำได้ด้วยการ หาบุคคลต้นแบบ, วางหนทาง, ยอมรับความล้มเหลว, เรียนรู้บทเรียนและปรับปรุง
- กว่า Mark จะประสบความสำเร็จในการเทรด ก็เทรดไร้ทิศทางมากว่า 7 ปี
- แผนการเทรดนั้นต้องมีรูปแบบการตัดสินใจซื้อขายที่ชัดเจน จับต้องได้ มีการจัดการกับความเสี่ยง(จุด Cut Loss), การรักษากำไร(จุด Take Profit), และการกำหนด Position Size ที่ชัดเจน
- การเกิด Lower Low ในการทั้งในรายวันและช่วงระยะเวลานึงนั้นเป็นเรื่องไม่ดีที่ต้องระวัง
- ขณะที่ตลาดปรับตัวขึ้นแต่ปริมาณการซื้อขายน้อย ตลาดปรับตัวลงแต่ปริมาณการซื้อขายมาก คือสัญญาณที่ไม่ดี
- คิดถึงความเสี่ยงก่อนการเทรดทุกครั้ง เช่น หุ้นตัวนี้มี Donwside เท่าไหร่, สินทรัพย์อย่าง Crypto สามารถลงได้ใน 1 วันมากกว่าหุ้น
- การไม่ขาดทุนครั้งใหญ่ นำมาซึ่งชัยชนะครั้งใหญ่
- การเทรดต้องคำนึงถึง Risk/Reward Ratio ก่อนทุกครั้งความแม่นยำเพียง 40% ก็สามารถชนะได้ในการเทรด ถ้าคุณมี Risk:Reward 1:2
- ทนรอไพ่ที่ดีที่สุดให้ได้ การได้ไพ่ AA ในการเล่น Poker ก็ยังมีโอกาสแพ้ เพียงแต่คุณมีโอกาสชนะมากถึง 80%
- จำนวนวันที่ถือหุ้นที่เป็นกำไร ควรมากกว่าการถือหุ้นที่ขาดทุน
- การขายทำกำไรครึ่งหนึ่ง ช่วยให้รู้สึกดีในทางจิตวิทยาได้
- เราไม่ควรทบต้นในทันที เพราะถ้าครั้งถัดไปขาดทุนมากกว่าที่ได้มาพอร์ทจะเกิดความเสียหายมากกว่า
- "คนแพ้ถัวขาลง" Paul Tudor Jones
- ระวังหุ้นถูก เพราะมันถูกได้อีก
- "การทำเงินได้เป็นผลจากการทำตามแผนการเทรดที่ดี การสนใจแต่ผลลัพท์จะชักจูงให้ออกจากกระบวนการเทรดที่ถูกต้อง" ข้อนี้น่าสนใจและเป็นจริงถ้าได้อ่านหนังสือ Atomic Habbits
- เพิ่ม Margin เมื่อมีกำไรเท่านั้น
- ไม่ควรถือหุ้นในสัดส่วนมากเกินไปช่วงประกาศงบ เพราะเป็นสิ่งไม่แน่นอน
- มีวินัย และ เทรดในจังหวะของตัวเอง
- รู้จักการนั่งนิ่งๆ
- "ดวงเอาไว้ใช้ที่เวกัส"
- "ทำการบ้านซะ!!"
- หุ้นที่บีบตัว แกว่งแคบลงคือ Pattern ที่ดี
- หุ้นผู้ชนะต้องทำ New High
- อย่าขายหุ้นนำตลาดเร็วเกินไป
- กระจายหุ้นให้เหมาะสม เพื่อให้พอร์ทโตอย่างต่อเนื่อง
- การทำ New High จากฐานการพักตัวที่ 4-5 อาจจะเป็นจุด Peak ของหุ้น
- เก็บสถิติกำไรและขาดทุนของตัวเองเสมอ เพื่อประเมินว่าเราควรขายหุ้นเมื่อถึงจุดที่กำไรกี่ %
- "ทุกคนขายหุ้นเร็วหรือช้าเกินไปเสมอ" ไม่มีใครซื้อได้ต่ำสุด ขายได้สูงสุด
- การประสบความสำเร็จในการเป็นเทรดเดอร์นั้นไม่เหมือนการถูกหวย ต้องใช้ความขยัน เตรียมพร้อมเพื่อจะได้อยู่ในจุดที่"ถูกที่ ถูกเวลา"
- ผลตอบแทน 40% 2 ครั้ง = 96%
ผลตอบแทน 20% 4 ครั้ง = 107%
ผลตอบแทน 10% 12 ครั้ง = 214%
ในหลายๆสถานการณ์ การหาหุ้นที่ขึ้น 10% ในทุกๆเดือน นั้นง่ายกว่าการหน้าหุ้นที่ขึ้น 40-200%
- กับดักอันตรายของการเทรด
1.อารมณ์
2.ความคิด ที่จำกัดอยู่ในกรอบ
3. อีโก้
จริงๆแล้วเนื้อหามีส่วนที่น่าสนใจอีกมาก
อยากให้ลองไปซื้อมาอ่านกัน
ผู้ที่พึ่งเทรดอาจจะทำความเข้าใจยากหน่อย แต่เชื่อว่ามีประโยชน์แน่นอน
ผมยกให้เป็นหนังสือการลงทุนที่ดีที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมาสำหรับผม
สุดท้ายผมอยากยกตัวอย่างคำพูดที่เคยฟังจากคุณ ก๊อต จิรายุ
"คุณจะให้เด็กถือของที่หนักหรอ มันไม่ใช่ เพราะศักยภาพเค้าไม่เพียงพอ เงินก็เช่นกัน คุณจะรับมือกับเงินที่จะเข้ามาเยอะๆได้ ถ้าคุณมีศักยภาพเพียงพอ"
โฆษณา