กรณีศึกษา “TPBot” สอนเขียนโปรแกรมให้เด็ก 8 ขวบ ด้วยรถของเล่น
ในยุคสมัยหนึ่ง “ภาษาอังกฤษ” ถูกเรียกว่าเป็นภาษาที่สองที่ทุกคนต้องพูดได้
ซึ่งใครฝึกดูหนังฟังเพลงภาษาอังกฤษหรือได้เรียนกับครูต่างชาติตั้งแต่เด็ก ๆ
ก็น่าจะทำให้ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
แต่ในยุคปัจจุบัน ด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดดทางเทคโนโลยี
ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “ภาษาคอมพิวเตอร์” เป็นอีกภาษาที่หลายคนกำลังให้ความสนใจ
แต่ปัญหาก็คือภาษาคอมพิวเตอร์นั้นค่อนข้างยากสำหรับคนทั่วไป
หรือกว่าที่จะเริ่มเรียนรู้ ก็ตอนเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ไอเดียทางธุรกิจอย่าง “TPBot” จึงได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา
เพื่อให้เราได้เริ่มคุ้นเคยกับภาษาคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ยังเล็ก
แล้ว TPBot คืออะไร และมันจะช่วยสอนภาษาคอมพิวเตอร์ได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จริง ๆ แล้ว TPBot ก็เหมือนรถของเล่นเด็กทรงสี่เหลี่ยมติดล้อ
แต่ที่พิเศษก็คือ เมื่อเราเสียบแผงวงจร ที่เรียกว่า “micro:bit” เข้าไป
TPBot ก็จะแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ตัวน้อย ที่พร้อมรับคำสั่งด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ทันที
โดยผู้พัฒนา TPBot มีไอเดียที่ว่า หากเรานำระบบคำสั่งต่าง ๆ ใส่ลงไปในของเล่นเด็ก
เด็กก็น่าจะเริ่มสนใจและเรียนรู้การเขียนโปรแกรมได้ไม่ยาก ซึ่งทางผู้ผลิตบอกว่ารถของเล่นนี้ เหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่ 8 ขวบขึ้นไป
แต่พอเห็นคำว่าเขียนโปรแกรม หลายคนก็อาจจะคิดว่าต้องเป็นเรื่องยาก
เรามาดูกันว่า TPBot ถูกออกแบบมาอย่างไร ?
สำหรับผู้เริ่มต้น เราสามารถป้อนคำสั่งด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ง่าย ๆ ที่ทาง Microsoft ช่วยพัฒนาให้สำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ
สิ่งที่เราต้องทำก็เพียงแค่คลิกลากชุดคำสั่งสำเร็จรูปมาวางต่อกัน ตัวหุ่นยนต์ก็จะรับรู้คำสั่งและสามารถปฏิบัติตามได้ทันที
ในเวลาต่อมา หากเราเริ่มคุ้นเคยกับภาษาและวิธีการให้คำสั่งด้วยภาษาคอมพิวเตอร์มากขึ้น
เราก็สามารถเขียนคำสั่งที่ซับซ้อนได้เอง โดยใช้ภาษา Python หรือ JavaScript ก็ได้
ตัวอย่างคำสั่ง เช่น ให้แสดงข้อความตามที่เราต้องการหรือการสั่งการรถด้วยท่าทาง เช่น การโบกมือ หรือแม้แต่ควบคุมให้เจ้า TPBot วิ่งรักษาระยะห่างจากรถคันอื่น ๆ คล้ายกับการทำงานของระบบ Cruise Control ของรถยนต์ในชีวิตจริง
นอกจากนี้ เรายังสามารถต่อเติมให้ตัวรถมีแขนมีขา แล้วเขียนคำสั่งต่าง ๆ เข้าไป
จะดัดแปลงเป็นรถวิ่งหลบสิ่งกีดขวาง หรือเชื่อมต่อจอยสติกให้รถเตะฟุตบอลก็ยังได้
ทีนี้เรามาดูว่าใครกันที่เป็นต้นไอเดียหุ่นยนต์ของเล่น TPBot สำหรับเด็ก ?
TPBot เป็นหนึ่งในโครงการจากบริษัท Elecfreaks ที่ได้เข้ามาระดมทุนในแพลตฟอร์ม Kickstarter ในปี 2020 หรือเมื่อปีที่แล้ว
โดยเริ่มแรก TPBot ตั้งเป้าระดมทุนไว้เพียง 160,000 บาท
แต่สุดท้ายกลับมีผู้สนใจให้ทุนมากกว่า 100 คน จึงได้ทุนรวมเป็นเงินกว่า 500,000 บาท
Elecfreaks เป็นผู้พัฒนาของเล่นและมีของเล่นเพื่อการศึกษาอีกเกือบ 200 แบบ
เช่น สวิตช์สัญญาณกันขโมย, เซนเซอร์วัดความชื้นในดิน, เซนเซอร์ดักจับฝุ่น PM2.5
หรือแม้แต่ติดตั้งกล้องให้กับตัวรถแล้วผนวกกับคำสั่ง AI ก็มี
นอกจากนี้ บริษัทก็ยังมี “micro:bit WIKI” หรือสารานุกรมไมโครบิต ที่รวบรวมวิธีการเขียนโปรแกรมอย่างละเอียดอีกมากกว่า 400 ฟังก์ชัน เพื่อให้เด็กเข้าไปศึกษาได้เองและสามารถทำตาม
นอกจากนั้นยังมีบล็อกเอาไว้เป็นพื้นที่ศึกษาไอเดียแปลกใหม่ให้เด็ก ๆ ต่อยอดจินตนาการและอวดผลงานระหว่างกันอีกด้วย
ซึ่งนอกจากบริษัทจะขายให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองแล้ว ครูจากโรงเรียนและสถาบันการศึกษามากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ก็ได้นำผลิตภัณฑ์ของ Elecfreaks ไปใช้ประกอบการเรียนการสอน
หากเรามาดูตลาดของเล่นเพื่อการศึกษา ปัจจุบันจะมีมูลค่ามากถึง 600,000 ล้านบาท
และคาดการณ์ว่า จะเติบโตขึ้นปีละ 8.1% จนมีมูลค่าสูงถึง 1,000,000 ล้านบาทในปี 2026
โดยกลุ่ม STEM ย่อมาจาก Science, Technology, Engineering และ Mathematics จะมีสัดส่วนในการเติบโตมากที่สุด สำหรับผู้นำตลาดของเล่นในปัจจุบัน ก็คือ LEGO จากประเทศเดนมาร์ก และ Bandai Namco จากประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
สำหรับ TPBot เอง แม้อาจจะไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ที่มีกลไกที่ซับซ้อนอะไรมากมาย แต่ด้วยความธรรมดาและเรียบง่ายนี่แหละ ที่จะทำให้เด็กรักในการเขียนโปรแกรมและใช้ภาษาคอมพิวเตอร์ได้อย่างคล่องแคล่ว
ถึงตรงนี้เราสามารถสรุปได้ว่า TPBot เป็นอีกไอเดียสตาร์ตอัปที่น่าสนใจ เพราะหากเราลองจินตนาการดูว่าในอนาคต หากทุกอย่างเชื่อมต่อกันด้วยอินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยียังคงเติบโตด้วยอัตราเร่ง
“ภาษาคอมพิวเตอร์” ก็น่าจะกลายมาเป็นอีกหนึ่งในภาษาสามัญในชีวิตประจำวันของเราได้ไม่ต่างอะไรไปจากภาษาอังกฤษในทุกวันนี้..
References
- ●
- ●
- ●
- 22
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
