3 ธ.ค. 2021 เวลา 16:46 • สุขภาพ
***ยาเม็ดรักษาโควิดของไฟเซอร์(และเมิร์ค)ที่จะสำคัญเกินกว่าผู้คนจะคาดคิด***
คือคำกล่าวของศาสตราจารย์แพทย์ด้านโรคติดต่อของมหาลัยชื่อดังด้านแพทย์ในอเมริกา (UCSF)
สวัสดีทุกท่าน คิดถึงเสมอนะคะ วันนี้แอดมินมาสรุปข้อมูลจากสื่อหลักต่างชาติมาเล่าให้ฟัง หลักๆอธิบายโดย ศ.ดร. โมนิก้า กานธี (ม. แคลิฟอร์เนีย ซานฟรานฯ) และแหล่งอื่นๆ รอยเตอร์, นิวยอร์คไทมส์
หลายท่านคงทราบดีว่าโรคเอดส์หรือ HIV ในอดีตนั้นรุนแรงมากๆแต่ต่อมาเมื่อมียาต้านไวรัสที่ดีที่สุด โรคนั้นก็แทบจะควบคุมได้อยู่หมัดเสมอมา โดยยานั้นทำหน้าที่บล๊อค(ขัดขวาง)เอนไซม์ที่ไวรัสต้องใช้ในการเพิ่มจำนวนมันอย่างรวดเร็วและทำให้คนติดเชื้อป่วย ...ผู้ที่ติด HIV ก็ไม่ถึงกับตายกันอีกต่อไป
ด้วยวิธีเดียวกันที่ยืมมาที่พัฒนามาปีครึ่ง ไฟเซอร์และเมิร์คกำลังผลิตยาเม็ดต้านโควิดออกมาจำนวนมากต้นปีหน้า โดยไฟเซอร์นั้นได้ผลถึง 90% ที่จะไม่ทำให้ผู้ติดเชื้อโควิดต้องป่วยถึงกับเข้านอนโรงพยาบาลหรือตาย และของเมิร์คนั้นได้ผลราว 50% ซึ่ง อย. สหรัฐอเมริกาและอังกฤษเพิ่งให้เมิร์คผ่าน และคาดว่าของไฟเซอร์ก็จะผ่านเช่นกัน
มีหลายประเด็นที่ต้องกล่าวถึง ขอแบ่งเป็นข้อๆ
1. ยาเม็ดทั้ง 2 บริษัท ไทยจับจองไว้แล้ว อย่างเมิร์คเบื้องต้น 2 แสนชุด
 
2. ไม่สำคัญ(ต่อยาเม็ด)ว่าโควิดจะกลายพันธุ์เป็นโอไมครอนหรืออื่นๆ เพราะการกลายพันธุ์นั้นเกิดที่หนามโปรตีนเป็นกระบวนการหลักๆ แต่ยาเม็ดมุ่งที่สกัดเอนไซม์อย่างเดียว จึงควรได้ผลดีในระยะยาวด้วย
3. ไฟเซอร์ประกาศว่าจะให้ประเทศยากจน 95 ชาติ(คิดว่าไม่มีไทย ไม่แน่ใจ) ผลิตยาตัวเดียวกันเองขายเองแบบราคาถูกสุดแต่ไม่แปะยี่ห้อ (ยา generic) ซึ่งนับเป็นประชากร 53% ของโลก แต่ก็โดนต่อว่าว่าไม่รวมชาติใหญ่ๆที่ระบาดหนักเช่นบราซิล เม็กซิโก คิวบา หรือจีนที่มีกำลังผลิตเต็มที่ .. ส่วนเมิร์คก็เช่นเดียวกัน ใน 105 ชาติ
4. ยานี้กินเองที่บ้านได้ โดยทั่วไปแล้วคล้ายกับยารักษาไวรัส HIV ที่ปฏิวัติโรคเอดส์มาแล้ว ..โดยยาโควิดนี้ กินวันละ 6 เม็ด เป็นเวลา 5 วัน แต่ต้องกินภายใน 5 วันหลังแสดงอาการแรกเริ่ม สนนราคาชุดละ 530 ดอลล่า (18,000 บาท) แต่ไฟเซอร์ก็กล่าวว่าจะคิดราคาประเทศยากจนถูกกว่าชาติร่ำรวย
5. ข้อมูลคร่าวๆของการทดลองประสิทธิภาพยาเม็ดไฟเซอร์ จากผู้ป่วยติดโควิดที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมาก่อน 1219 คน และมีอาการแรกเริ่มน้อยถึงปานกลาง โดยต้องมีปัจจัยเสี่ยงอย่างน้อยหนึ่ง เช่น โรคอ้วน หรือสูงอายุ ... แบ่งเป็น 2 กลุ่มสุ่ม กลุ่มรับยาเม็ดไฟเซอร์จริงและรับยาหลอก ..กลุ่มยาจริงมีแค่ 0.8% ที่ป่วยเข้า รพ.และไม่มีใครเสียชีวิต ส่วนกลุ่มยาหลอกมี 7% ที่เข้า รพ. และตาย 7 คน นั่นคือต้องรับยาภายใน 3 วันหลังมีอาการโควิด
พอเปลี่ยนเป็นรับยาภายใน 5 วัน ตัวเลขก็เท่าๆเดิม ยาจริงไม่มีคนตาย ยาหลอกตาย 10 คน ... เมื่อคำนวณแล้วจึงได้ว่ายาไฟเซอร์ใช้ป้องกันป่วยหนักได้ 90% ผลข้างเคียงคือมี 20% คลื่นไส้/ท้องเสีย
6. คาดการณ์ว่ายาเม็ดไฟเซอร์นี้จะมีใช้แพร่หลายต้นปีหน้า ..พอยาจำกัดการแพร่ระบาดจำนวนไวรัสแล้ว ความน่าจะเป็นที่มีการกลายพันธุ์ต่อๆอีกก็จะลดลง
7. ปี 2022 นี้คงจะเป็นปีแห่งเกมส์เปลี่ยน (game changer) ที่เราอาจถือไพ่เหนือกว่าไวรัส ควบคู่กับวัคซีน ศ.ดร. โมนิก้า กานธี กล่าว ... นอกจากผลด้านแพทย์แล้ว ผลทางจิตวิทยานั้นใหญ่นัก เพราะจะช่วยลดความหวาดกลัว ผ่อนคลายสังคมและเศรษฐกิจ
8. ไฟเซอร์จะผลิตยาปีหน้าอย่างน้อย 80 ล้านชุด ในชื่อ Paxlovid ..และเมิร์คผลิตอย่างน้อย 30 ล้านชุด
แน่นอนว่าที่สำคัญสุดก็คือฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร แต่ถ้ายาเม็ดเข้าถึงผู้ติดเชื้อได้ว่องไว จะช่วยชีวิตคน และลดโหลดของโรงพยาบาลลง ...โดยเฉพาะชาติยากจนต่างๆที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอีกมาก จนเป็นจุดต้นตอของสายพันธุ์ใหม่ๆอย่างโอไมครอนได้
ในขณะที่ยาเม็ดจะไม่ช่วยให้ป้องกันการติดเชื้อ แต่ก็สามารถช่วยต่อสู้กับสายพันธุ์ใหม่ๆได้ดี ขณะที่วัคซีนอาจต้องใช้เวลาในการดีไซน์เพิ่มเพื่อต่อสู้กับไวรัสกลายพันธุ์
เขียน/แปลโดย
ไพลิน ฉัตรอนันทเวช
โฆษณา