4 ธ.ค. 2021 เวลา 02:05 • การศึกษา
[[ Real World of Dance ]] EP.1 เลือกที่เรียนเต้นให้ลูกอย่างไร? จำเป็นไหมที่ลูกต้องเรียนเต้น?
พรุ่งนี้ก็เป็นวันพ่อแล้ว แถมยังเป็นช่วงเดือนสุดท้ายของปีอีกด้วย ที่สำคัญกว่านั้นคือ มีการเปิดประเทศและธุรกิจกันอย่างปกติมากขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจต่างๆ จะเริ่มจัดทำโปรโมชั่น หั่นราคา ล้างสต็อกกันสุดๆ เพื่อดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้จ่ายเยอะๆ สถาบันกวดวิชา หรือสอนวิชาเสริมต่างๆ ก็จะมีให้เห็นเช่นกัน หากผู้อ่านได้ลองเดินเข้าไป ตามโซน Education ในห้างใกล้บ้าน จะพบกับมหกรรมบลาๆๆ ดึงสายตาไปหมด ลูกๆของท่านก็อาจจะเกิดอยากเรียนนั่นโน่นนี่บ้าง โดยไม่สนใจเงินในบัญชีที่ท่านมีอยู่ตอนนี้ซักเท่าไหร่ หรือไม่ก็เป็นผู้อ่านซะเองที่อยากให้ลูกได้เรียนนั่นโน่นนี่ ถ้าท่านเป็นคนที่กำลังอาจจะไปเจอเรื่องเหล่านี้ในวันหยุด หรือกำลังพบเจออยู่ อยากให้ลองอ่านและวิเคราะห์ในสิ่งที่ผมกำลังจะบอก เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้อ่านทุกท่าน หวังว่าจะเกิดประโยชน์กับทั้งผู้อ่านและคนที่คุณรัก
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสด้าน การเต้น เริ่มบูมขึ้นมาก ทั้งจากกระแส k-pop รวมถึงการออดิชั่น Idol ในไทยมากมาย จนทำให้สถาบันที่สอนเต้นนั้น มีชื่อเสียงขึ้นมาชั่วค่ำคืน เป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของกำไร และผู้ที่ติดตาม ยิ่งในปีนี้ที่กระแส Tiktok นับว่า มาแรงจริงๆ ลูกๆของผู้อ่าน ก็อาจจะเต้นลง Tiktok มีผู้ติดตามมากมายแล้วก็ได้ เมื่อกระแสมันมาทั้งนี้ ผู้ปกครองหลายๆท่านคงแอบมีความคิดว่า อยากให้ลูกได้เก่งเต้นมากกว่าเดิม เพราะเห็นว่าชอบเต้น หรืออยากให้ลูกเข้าวงการบันเทิง เลยให้ไปเรียนเต้น อีกเหตุผลก็อาจจะเป็นเพราะเด็กๆอ้อนผู้ปกครองเพื่อขอเต้น แต่ไม่ว่าจะเหตุผลไหนก็ตามแต่ การเลือกที่เรียนเต้นนั้น ส่งผลอย่างมากกับลูกของท่าน รวมถึงอนาคตด้วย แต่ค่าใช้จ่ายนั้นไม่ใช่ถูกๆ กับเศรษฐกิจแบบนี้ จะให้ลองดูซักคอร์สอาจจะเสียทั้งเวลาและเงินไปเปล่าประโยชน์ แล้วเราจะเลือกอย่างไรดีให้คุ้มค่าที่สุด?
หมายเหตุ : นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของผม จากประสบการณ์ที่สอนเต้นมา หลากหลายสถาบันและหลากหลายสังคม ไม่ใช่เป็นการเชิญชวนหรือดิสเครดิตใครโดยตรง
เราจะเลือกสถานที่เรียนเต้นอย่างไรดี...
ก่อนอื่นเราจำเป็นต้องรู้จุดมุ่งหมายในการเรียนเต้น หรือการให้ลูกของเราเรียนเต้นก่อน ว่าคืออะไร
- เพื่อให้มีพื้นฐานการเต้น และนำไปต่อยอดในชีวิตได้
- เพื่อเข้าสู่วงการบันเทิง หรือเข้าทำงานในสายการเต้นโดยเฉพาะ
- เพื่อค้นหาความชอบของลูกๆ รวมถึงความถนัด
- เพื่อเปิดประสบการณ์ และความสนุก
เมื่อเราได้จุดมุ่งหมายแล้ว สิ่งต่อมาที่ผู้อ่านต้องเข้าใจคือ สถานที่เรียนเต้นนั้น มีอยู่หลากหลายประเภทด้วยกัน โดยแบ่งได้ดังนี้
1.สถาบันที่สอนเต้น ที่มีโปรแกรมการสอนที่ถูกออกแบบและมีการสอบวัดผล หรือสถาบันสอนเต้นเฉพาะทางต่างๆ >> สถานที่เรียนเต้นแบบนี้ จะทำให้ผู้เรียนได้รู้จักพื้นฐานการเต้นตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อเรียนจบคอร์สก็จะสามารถสอบเพื่อเลื่อนขั้น เรียนในระดับที่สูงขึ้นไป ในส่วนของการสอบ เมื่อสอบผ่าน ผู้เรียนจะได้ใบเซอร์ฯ(certificate) หรือใบรับรองการสอบ ซึ่งใบพวกนี้ จะเพิ่มโอกาสในการทำงานในสายงานการเต้นได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่เรียนมา เช่น โรงเรียนบางกอกแด๊นซ์ / YAMAHA / KPN
2.สตูดิโอสอนเต้น >> สังเกตุง่ายๆ จะมีคลาสให้เลือกมากมาย มีครูหลายท่าน และการเต้นหลายสไตล์ โดยการเรียนจะเป็นการ จ่ายเงินเพื่อซื้อชั่วโมงเรียน หรือจำนวนครั้งในการเข้าเรียน โดยเราสามารถเลือกเรียนคลาสไหน เวลาไหนก็ได้ ตามที่ผู้เรียนต้องการ ส่วนทักษะของผู้เรียนนั้น อาจจะต้องพอมีพื้นฐานมาบ้างเล็กน้อย เพื่อให้สามารถเรียน หรือเต้นได้อย่างสนุก เพราะตัวคลาสถูกออกแบบมาเพื่อคนที่ชอบเต้น หรือชอบความท้าทาย และความสนุก เช่น INNER Studio / Minizize Studio / Dmaniac Studio
3.สถาบันสอนเต้น เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าสู่วงการบันเทิง >> เป็นสถานที่เรียนเต้น ที่ครบเครื่องเรื่องการ ร้อง เล่น เต้น แสดง เสริมทักษะรอบด้านที่จำเป็นสำหรับ คนที่อยากจะเข้าวงการบันเทิง มีคอนเนคชั่นมากมายรองรับ หากผู้เรียนมีความสามารถหรือผลงานที่โดดเด่น เช่น Star Maker (โรงเรียนครูอ้วน) / GMM grammy / วิทยาลัยดนตรีและศิลปะการแสดง (SCA)
 
4.สถาบันสอนเต้นทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นจุดเด่นที่ชัดเจน >> เป็นสถานที่เรียนเต้นที่อาจจะไม่ได้มีชื่อดังมาก หรือเป็นที่รู้จัก มักจะพบเจอในห้างสรรพสินค้า หรือ คอมมูฯมอลล์ โดยคลาสที่สอนก็จะมีทั้งแบบเฉพาะ หรือรวมๆกัน เหมือน สถานที่เรียนเต้น ทั้ง 3 ก่อนหน้า ขึ้นอยู่กับ การตลาด และความสามารถของ ครูผู้สอน โดยราคาก็จะถูกลงมาเช่นกัน
5.ครูสอนเต้น ที่รับงานฟรีแลนซ์ >> ครูหลายท่าน ก็ออกมารับงานสอนนอกสถานที่ หรือเปิดเป็นคลาสส่วนตัว โดยจะใช้ห้องสตูดิโอ หรือห้องซ้อมเต้นที่เขาให้เช่า รวมถึงเรทราคา ก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับข้อตกลง ทั้ง 2 ฝ่าย โดยเราสามารถติดต่อ ครูสอนเหล่านี้ ได้ หลากหลายช่องทาง ตรงจุดนี้จะเป็นจุดที่ช่วยให้เรา ได้เรียนตามที่ผู้เรียนต้องการอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง รวมถึงไม่มีข้อผูกมัดอะไรเข้ามาให้วุ่นวาย (ผมก็รับนงานสอนนะ ขอขายของหน่อย อิอิ)
จะเห็นได้ว่า สถานที่เรียนเต้นนั้น ก็มีการแยกประเภทอย่างชัดเจน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนโดยเฉพาะ ดังนั้น ถ้าเรารู้ 2 สิ่งนี้แล้ว ก็จะเป็นเรื่องง่ายในการมองหาสถานที่เรียนเต้นที่ตอบโจทย์กับผู้อ่าน หรือลูกของท่าน ได้ง่ายขึ้น
นอกจากเรื่องหลักที่ผู้อ่านควรรู้เกี่ยวกับสถานที่เรียนเต้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมาก ที่ผมพอจะแนะนำให้ได้ เมื่อเราได้สถานที่เรียนเต้นที่คิดว่าตอบโจทย์
1. เลือกสถานที่เรียนเต้นที่ มีการให้ลองเทสเรียน เสมอ เพื่อให้ผู้เรียนได้สัมผัสกับบรรยากาศจริงๆ รวมถึงได้รู้จักกับครูผู้สอน หากไม่มีให้เทสเรียน ก็อาจจะขอให้ทางสถาบัน ยินยอมให้เราเข้าไปดูการเรียนการสอน หรือมองผ่านหน้าต่างได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจอีกทีนึง
2. เรียกดูผลงานของสถานที่เรียน หากเป็นสถานที่สำหรับการปั้นเด็ก หรือสอบเด็ก เพื่อประกอบการตัดสินใจ ในแนวทางของสถานที่เรียนเต้น นั้นๆ
3. สอบถามคนรู้จักที่เคยเรียน หรือลองหาข้อมูล รีวิว ฟีดแบค สถานที่เรียนนั้นๆก่อน ตัดสินใจสมัครเรียน
1
4. รับฟังความต้องการ ของลูกท่านด้วย ว่าชอบหรือไม่ชอบ สถานที่เรียนนั้น เพราะ เมื่อถึงเวลา แล้วลูกท่านไม่ชอบ หรือไม่มีความอยากเรียน ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยใดๆ จะกลายเป็นการเสียเวลา และเสียเงินโดยเรียกร้องคืนไม่ได้ (แต่ไม่แนะนำให้เชื่อทั้งหมด หากผู้เรียนมีอายุต่ำกว่า 7 ขวบ เพราะส่วนใหญ่เด็กๆมักจะไม่ค่อยนิ่งในเรื่องความต้องการจริงๆ)
5. อย่ารีบตัดสินใจในวันนั้น เวลานั้นทันที อย่าเสียดายโปรโมชั่น เพราะท่านอาจจะพลาดใช้อารมณ์ในการเลือก โดยไม่ไตร่ตรอง แนะนำให้ออกมาเดินเล่นเพื่อปรับอารมณ์ เปลี่ยนบรรยากาศ หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อน การสมัคร เพื่อประโยชน์สูงสุดของท่าน และเงินที่ท่านกำลังจะเสียไป
นี่ก็เป็นการแนะนำคร่าวๆ สำหรับผู้อ่านที่สนใจอยากจะเลือกสถานที่เรียนดีๆที่ตอบโจทย์กับความต้องการตัวเอง คุ้มกับเงินที่เสียไป และอีกคำถามที่ผมได้จั่วหัวไว้ตั้งแต่เริ่มเลย ว่า จำเป็นไหมที่ลูกต้องเรียนเต้น? ผมจะบอกเอาไว้แบบนี้ครับว่า
หากผู้อ่านยังไม่ค้นพบ จุดมุ่งหมายในการให้ลูกเรียนเต้น เหมือนอย่างที่ผมได้แยกออก ทั้ง 4 หัวข้อ ข้างต้น ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ลูกของท่านจะต้องเรียนเต้นเลย เพราะการเต้นเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ที่ต้องใช้ความพยายาม และการฝึกฝนพอสมควร หากผู้เรียนได้เรียนไป แล้วไม่ได้มีการเรียน หรือฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง สุดท้าย มันก็จะไม่เกิดผลอะไรต่อผู้เรียน เสียทั้งเวลา ทั้งเงินทุน อีกทั้งอาจจะมอง การเต้น หรือตัวลูกของท่านเอง ในมุมมองที่แย่ลงก็ได้ ดังนั้น ขอให้ผู้อ่านที่ได้อ่านสิ่งที่ผมแนะนำ ตั้งแต่ต้นมา จนถึงบรรทัดสุดท้าย พิจารณาให้ถี่ถ้วน ก่อนการตัดสินใจเลือกเรียนเต้นนะครับ
หากใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องเรียนเต้น สามารถถามทิ้งไว้ได้นะครับ จะมาตอบให้ และก็ ผมยังรับงานสอนเต้นนะ สามารถสอบถามข้อมูลได้เช่นกัน ฝากซีรี่ย์ Real World of Dance ที่จะมาบอกเล่า โลกการเต้นในมุมที่ลึก ผ่านมุมมองครูที่สอนเต้นจริงๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านที่อยากรู้จักโลกนี้ให้มากขึ้นนะครับ
โฆษณา