🔥 เราต่างเคยเป็นคนเฮงซวยในชีวิต
ของใครบางคนทั้งนั้น ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว!
บนโลกนี้มีคนหลายสไตล์ หลายแบบ มีทั้งแบบที่คนรักและแบบที่คนเกลียด ทั้งที่ทุกคนรู้ดีว่าเป็นแบบไหนที่คนชอบ หรือเอาง่ายๆ คนนิสัยแบบไหนที่ตัวคุณเองก็ชอบเขา
แต่มันแปลกตรงที่ว่า ทั้งที่คุณรู้ว่าคุณชอบแบบไหนแต่บางครั้งคุณกลับทำตรงกันข้าม จนเราอาจกลายเป็นคนนิสัยแย่ๆ ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว!
อย่างเช่น คุณอาจชอบคนใจกว้างและมีเหตุผล แต่คุณกลับเป็นคนใจแคบแทนซะงั้น ทำทุกอย่างด้วยความระแวงกลัวคนอื่นจะมาเอาเปรียบ ละเอียดยิบในทุกๆ เรื่องจนรุงรังไปหมด แต่กลับอยากให้คนอื่นใจดี ใจกว้างกับตัวเอง
พอทำเข้าบ่อยๆ หลายๆ ครั้งที่คนรอบข้างเริ่มเบื่อหน่าย ไม่อยากเจอและสุดท้าย ก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพบปะพูดคุยด้วยมันไปซะเลย ประมาณว่า ยิ่งเจอยิ่งเปลืองตัวเสียอารมณ์
มันก็ไม่น่าแปลกใจหรอก ใครจะชอบฟังคนพร่ำพรรณาว่า ตัวเองดีวิเศษวิโสยังไง โก้หรูดูดี ฉลาดหลักแหลมขนาดไหน ง่ายๆ คนอื่นโง่หมดแหล่ะ เพราะตัวเองฉลาดอยู่คนเดียว ทั้งที่จริงมันอาจตรงกันข้ามก็ได้นะ มันออกแนวรู้จักทุกคนดีไปหมด ยกเว้นรื่องของตัวเอง!
เอาละๆ พอก่อน เอาว่าถ้าไม่อยากโดนรังเกียจ โดนเมิน หรือแม้แต่เดินหนี ลองเช็คดู 5 ข้อนี้ มีสไตล์ไหนคุ้นๆ กับตัวคุณ หรือคนใกล้ชิดบ้างไหม เผื่อจะสะกิดกัน ช่วยกันปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนิสัย เอาความไม่น่ารักพวกนี้ออกไปบ้าง มาคะ จะเล่าให้ฟัง
1. ทุกคนผิดหมด ฉันถูกคนเดียว
อันนี้เป็นตัวอย่างนิสัยสุดคลาสสิคของพวกหลงตัวเอง พวกมีตรรกะเอียงกระเท่เร่ ชอบเห็นคนรอบข้างเป็นลูกน้อง ลูกไล่ก็ไม่ปาน
จะชอบบังคับให้ทุกคนฟังและทำตาม มีความคิดเสนอแนะตลอดเวลา และก็ทุกเรื่องจริงๆ ทั้งที่บางทีไม่มีใครถาม หรือขอความคิดเห็นเสียหน่อย 'ต้องทำอย่างนี้สิ ทำไมไม่ทำแบบนี้ ตัองอย่างงั้นนะถึงจะใช่' อะไรแนวๆ นี้เสมอๆ
ขอกระซิบบอกเลย คุณกำลังทำพลาดอย่างมหันต์ ตอนนี้ทุกคนกำลังรู้สึกอึดอีด และก็รู้สึกแย่ที่มีคุณอยู่ใกล้ๆ มันน่าชังนะคนแบบนี้ ลดได้ลดเถอะ เลิกได้เลยยิ่งดี ไม่มีใครชอบให้ใครมาสั่ง มาบอกให้ทำอะไรต่อมิอะไรหรอก
อย่าเป็นมลภาวะทางเสียงให้คนอื่นเลย พวก Self-center มันเป็นเรื่องที่ต้องหลีกเลี่ยงเป็นที่สุด คนเห็นแก่ตัว รักแต่ตัวเองมากไปมันไม่ดี ต้องใจเขาใจเราถึงจะถูกนะ ว่าไหม
2. รู้จักทุกคนดีไปหมด ยกเว้นตัวเอง
อันนี้นี่ ส่วนมากจะมาคู่กันกับข้อแรก คนกลุ่มนี้ จะชอบพูดถึงคนโน้นคนนี้อยู่บ่อยๆ ถึงขนาดตั้งวงนินทาคนอื่นแบบเอิกเกริกเลยก็มี ชนิดที่ว่าคนในวงสนทนาเสียวสันหลังเลย ถ้าไม่เข้ากลุ่มคงโดนวิจารณ์ยับแน่ๆ เลย
และจะหนักขึ้นไปอีกเลเวลหนึ่งเมื่อถึงคราวดูข่าว หรือฟังข่าวอะไรขึ้นมาซักอย่าง ชนิดว่ารู้ดีหรือไม่ดี แต่สามารถวิจารณ์มันได้ทุกเรื่อง เก่งซะเหลือเกิน เรื่องราวประมาณนี้แหล่ะ
อันนี้แนะนำว่า คนที่คนอื่นชอบคือ คนที่พูดดีพูดพอเหมาะ และก็พูดเมื่อถึงเวลาพูด เรื่องไม่ดีของคนอื่นพูดให้น้อย เรื่องดีของตนยิ่งไม่ต้องพูดเยินยอตัวเองให้มากความ
การวิภาควิจารณ์เรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อย ทั้งที่รู้จริงหรือไม่จริงบ้าง มันไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีอะไรเลย หนำซ้ำคนจะมองว่าคุณเป็นขาเม้าท์ไปเสียเปล่าๆ
ถ้ามีเวลาว่าง เอาเวลาไปศึกษาหาความรู้ หรือเอาเวลาไปหาเงินเพิ่มน่าจะเวิร์คกว่า อย่าเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องเสียดายเวลาเปล่าๆ
3. ชอบเหวี่ยงวีนแบบไร้เหตุผล
เอะอะอะไรคนก็คิดว่าคนเหวี่ยงวีนเก่งเป็นวัยทองทั้งนั้น เดี๋ยวนะ.. เข้าใจผิดแล้วละ อาการนี้มันมีได้ทุกวัย จะมากจะน้อยมันอยู่ที่นิสัยคนต่างหาก
อาการโมโหโกรธามันทุกเรื่อง ขับรถไปด่าไป เขาแซงนิดแซงหน่อยต้องปาดคืนทันที ใครบีบแตรใส่มีห้าวกลับทันที ใครมองหน้าก็พร้อมบวกเหมือนกัน
ลองตั้งสติก่อนจะดีกว่า แบบว่าเย็นได้เย็นเถอะ ไม่มีใครมีสองชีวิตนะ หมดแล้วหมดเลย พ่อแม่จะอยู่ยังไง ลูกเมียจะไปยังไงต่อ อย่าลืมมองมุมนี้ด้วย
สติมีไว้ประคองชีวิต อย่าให้มันหล่นหายระหว่างที่กำลังดำเนินชีวิต สติสามารถปกปักษ์รักษาเราจากเรื่องชวนปวดหัวต่างๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยละ
4. ไม่คิดก่อนพูด
ลองคิดดูสักนิด การที่มีปัญหาในชีวิตตั้งแต่โตมานี่ มีกี่ครั้งที่มีเรื่องมีราวเกิดการขัดแย้ง โต้เถียงกัน หรือทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง โดยเฉพาะแค่การพูดที่ทำให้ผิดใจกัน มันมีเยอะแต่ไหนนะ
ก็เพราะคนส่วนมากมองการสื่อสารว่า เป็นแค่การพูด จริงๆ การสื่อสารเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจมากกว่าแค่สักแต่พูด
ตัองสื่อสารให้เกิดผลดีกับตัวคุณเอง ไม่ใช่พูดแล้วเกิดผลเสีย มีปัญหาตามมาหลังจากการเจรจาสิ่งหนึ่งสิ่งใดออกไป
แบบนั้นสู้ไม่พูดจะดีกว่า ขนาดเราเอามือแตะโดนหม้อร้อนๆโดยบังเอิญ เรายังรีบชักมือกลับอัตโนมัติ ประสบการณ์จะสอนให้คุณระวังโดนหม้อร้อนๆ อีก
ซึ่งมันก็ไม่ต่างกับการพูดที่ไม่คิดก่อน ซึ่งมันมักส่งผลเสียแก่คุณเสมอ คุณรู้อยู่แล้ว งั้นคุณก็ควรหลีกเลี่ยงมันไม่ต่างกับหม้อร้อนๆ หรือเปล่า ข้อนี้น่าคิดไม่น้อย
5. ชอบเปรียบเทียบใครกับใครอีกคนเสมอ
อันนี้ก็อีกข้อนะ ทำตัวเป็นศาลโลกก็ไม่ปาน วิเคราะห์ตัดสิน ใครดีไม่ดี ใครดีกว่าใครว่าเข้าไปโน่น อีหรอบนี้คนอยู่ใกล้เหนื่อยใจ อะไรก็ไม่ถูกใจ ทำงานให้ก็จะบอกคนนี้ทำงานนี้ดีกว่า ทำไมไม่ทำแบบคนนั้นเขาดีอย่างนี้นะ อะไรก็ต้องเปรียบเทียบไปหมด
อาการแบบนี้คิดว่า น่าจะติดเป็นนิสัยจนคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำกัน ไม่มีใครชอบคนนิสัยแบบนี้หรอก ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องปกติดีอันนี้คิดผิดอย่างร้ายแรง อย่าเข้าข้างตัวเองว่าตัวเองปกติ ไม่เป็นเรื่องดีเลยที่คุณไม่เคยประเมิณตัวเอง
คนที่จะพัฒนาไปข้างหน้าได้ คือ คนที่ยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง และก็ปรับแก้ให้ดีขึ้น ลองสังเกตุดูว่า ผู้คนทำตัวห่างเหินจากคุณหรือเปล่า ไม่ค่อยมีใครอยากคุยกับคุณหรือเปล่า ถ้ามีแบบนี้ละก็
แนะนำให้คุณตัองปรับแก้นิสัยโดยด่วน อาจเริ่มต้นที่สังเกตุคนอื่น คนอื่นพูดแบบไหน คนไหนที่เพื่อนรักเขาทำตัวยังไง ถ้าอยากจะดีขึ้นต้องรีบปรับทัศนคติโดยด่วนน่าจะเหมาะกว่า
อย่าให้ใครมาแอบพูดลับหลังว่าว่า ทำตัวเหมือนนิสัยป้าข้างบ้านเลย เพราะไม่มีใครชอบคนขี้เม้าท์ขี้เปรียบเทียบหรอกนะ
ᯓ และนี่ละ สไตล์คนคิดแปลกๆ ทำแปลกๆ ในสังคมที่มีให้พบเห็นโดยทั่วไป อยากบอกเขาเหล่านั้นว่า อย่าปล่อยให้มีคนรู้สึกแย่กับคุณเลย มันช่างน่าเศร้าน่ะ
อย่าให้ได้ชื่อว่าเป็นคนเฮงซวยที่คนเบะปากใส่ลับหลัง มันไม่ใช่สิ่งที่ใครซักคนจะต้องมาโดนคนอื่นทำแบบนั้น เปลี่ยนแปลงตัวเองเถอะค่ะ
ทำตัวสบายๆ ไม่ต้องไปคอยคิดโน่นนี่นั่นให้มาก ไม่ต้องคอยคิดแทนคนอื่น เรามาคนเดียวตายคนเดียว เรื่องของเขาก็ปล่อยเขาไป เอาแค่เรื่องตัวเราเองก็พอ น่าจะสบายใจกว่านะคะ
🦙 ชอบก็กดไลค์ ใช่ก็กดแชร์
ถ้าจะให้รู้ว่าแคร์ ก็คอมเม้นท์มานะคะ
• ติดตามและรับฟังผ่านแอป blockdit
• ติดตามและรับฟังผ่านช่องยูทูป
- 24
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
