“สิ่งที่ผมทำผิดพลาดในช่วงวิกฤต COVID-19 ที่ผ่านมา”
จากข่าวของเชื้อไวรัสที่กำลังกลายพันธุ์ ทำให้ช่วงนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มปรับตัวลดลงมากันบ้างแล้ว หลายคนที่พึ่งเข้ามาในตลาดคงจะรู้สึกว่ากังวล และสับสนว่าจะเอายังไงต่อดี?
Pic.
แต่ผมเองคงไม่มีความสามารถมากพอที่จะบอกให้คุณทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ ซึ่งในความเป็นจริงต่อให้เป็นกูรูหรือเซียน คุณก็ไม่ควรเชื่ออยู่ดี เพราะไม่มีใครรู้จริงว่าการกลายพันธุ์ครั้งนี้จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อตลาดหุ้นแค่ไหน
ดังนั้น ผมจะเล่าถึงสิ่งที่ผมทำผิดพลาดในการลงทุนของผมในช่วงนั้นให้ฟังแล้วกัน..
ก่อนอื่นผมจะแบ่งเหตุการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นช่วงๆก่อน
ช่วงที่ 1 หลังจากข่าวไวรัสเริ่มระบาดใหม่ๆ ช่วงสิ้นปีตลาดปรับตัวลดลงจากประมาณ 1600 จุด ลงมาประมาณ 1500 จุด ตอนนั้นใครๆ ก็ว่าไม่รุนแรงเดี๋ยวก็ผ่านไป
ช่วงที่ 2 ตลาดตกลงรุนแรงเหลือต่ำกว่า 1000 จุด เนื่องจากความวิตกกังวลถึงผลกระทบที่รุนแรงของไวรัส ใครๆก็ว่าส่งผลกระทบระยะยาว และตลาดหุ้นจะฟื้นตัวได้ช้าอย่างน้อย 2-3 ปี
ช่วงที่ 3 ช่วงเดือน มีนาคม ถึง มิถุนายน ตลาดเริ่มรู้สึกว่าหุ้นตกมากจนเกินไป จึงเกิด Technical rebound จาก 1000 จุด ขึ้นเป็น 1340 จุด
ช่วงที่ 4 ตลาดกลับมากลัว และรับรู้สภาพเศรษฐกิจจริง ตลาดตกลงไปเหลือ 1100 จุด ในเดือนตุลาคม ช่วงนี้ใครๆก็ว่า เศรษฐกิจจะบูดไปอีกนาน
ช่วงที่ 5 Unlock! ตลาดพุ่งขึ้นจาก 1100 จุด เป็น 1630 จุดจนถึงปัจจุบัน ช่วงนี้ใครๆก็ว่า อีกไม่นานเศรษฐกิจก็จะฟื้น
แล้วตอนนั้นผมทำอะไร?
ช่วงก่อน COVID-19 ผมยังมีความรู้เรื่องการลงทุนที่ค่อนข้างผิวเผิน การลงทุนในช่วงนั้นบอกเลยว่า มั่ว มาก การลงทุนส่วนใหญ่ก็เป็นการลงทุนตามกูรู และตามโมเมนตั้มซะเป็นส่วนใหญ่(ตอนแรกก็ว่าจะเป็น VI แหละ) ทั้งยังไม่มีวิธีการลงทุนที่แน่ชัดเป็นของตัวเองเลย
เมื่อถึงช่วงที่ 2 หุ้นในลิสที่มีพอถึงเวลาก็ไม่กล้าซื้อ สุดท้ายไปซื้อตอนมันขึ้นมาซักพักในช่วงที่ 3 กำไร 20-30% ก็ขายทิ้งไปหมด พอขายมันดันลงจริงๆ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงที่ 4 ตอนแรกๆก็รู้สึกว่าตัวเองมันโคตรเจ๋ง กะจังหวะเวลาได้พอดีเป๊ะ! ซื้อปุ๊บขึ้นปั๊บ ขายปุ๊บลงปั๊บ
แต่เมื่อได้พบความจริงว่า VI ตัวจริงที่เขาอยู่ในตลาดมานาน และมีหลักการลงทุนที่ชัดเจน เขาทำกำไรได้อย่างมากจนน่าตกใจ โดยเฉพาะหุ้นตัวนึงที่ผมเคยถือ หุ้นตัวเดียวกันแท้ๆ คนนึงได้กำไร 30% ส่วนอีกคนกำไร 300% ทั้งๆที่ก็ซื้อเหมือนกัน ช่วงเวลาเดียวกันแต่ผมดันขายและมัวแต่ดีใจที่ขายแล้วมันลง
ผมจึงกลับมาทบทวนตัวเอง และศึกษามากขึ้นจนมีหลักการลงทุนเป็นของตัวเอง เพราะตัวผมเองไม่เชื่อว่าสิ่งนั้นมันเป็นแค่ “ดวง”
สำหรับการกลายพันธุ์ของไวรัสรอบใหม่นี้ หากหุ้นตกลงมากๆ ผมก็มีหุ้นดีที่ทุนต่ำในพอร์ทอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องขายถ้าลงมากนักก็ซื้อเพิ่ม และที่สำคัญผมก็มีหุ้นที่ยังไม่ได้ซื้ออยู่ใน list อีกถึงจะไม่มาก แต่หากมันลงมาจนถึงราคาที่ผมต้องการ ผมจะนำเงินสดที่เหลือในพอร์ตซื้อมันแค่นั้นเอง
หากตลาดไม่ลงมาดังคาด ผมก็หาหุ้นต่อไปเรื่อยๆ ก็แค่นั้น
“ถ้าอยู่ในตลาดหุ้นจงอย่ากลัววิกฤต เพราะยังไงมันก็ต้องเกิดขึ้น”
แต่หากเราเตรียมแผนรับมือไว้เป็นอย่างดีแล้ว คุณยังต้องกังวลอะไรอีก....
-. หนึ่ง AngryStocks .-
ขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ Yorkies&Maltese บ้านนิ
คิดถึงลูกสุนัขยอร์คเชียร์ และมอลทีช ต้องที่ บ้านนิ เท่านั้น! [พิเศษ เมื่อบอกว่ามาจากเพจ Angrystocks มีส่วนลดให้ 100 บาท สำหรับลูกค้าใหม่เท่านั้น]
อย่าลืมกดไลค์ แชร์ กดติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ อาทิตย์หน้ามาเจอกันใหม่ครับ
Facebook fanpage: https://www.facebook.com/Learneveryweek/
Blockdit: https://www.blockdit.com/learneveryweek
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
