เรื่อง : คดีปริศนาที่ต้องใช้เวลาไขคดีนานถึง 24 ปี
ระยะเวลาที่ใช้ในการอ่านโดยประมาณ : 10 นาที
Part 1 : เกริ่นนำ
คดีปริศนาครั้งนี้เกิดขึ้นกับเด็กสาววัย 17 ปีคนหนึ่ง เธอมีชื่อว่า Jessica Baggen (ต่อไปผู้เขียนจะของเรียกเธอว่า Jessica) ในปี 1996 ที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ Alaska ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า Sitka โดยที่เมืองแห่งนี้มีคนอาศัยอยู่เพียง 8,000 คนเท่านั้นในสมัยนั้น โดยกว่าที่คดีนี้จะถูกไขปริศนาและจับตัวคนร้ายได้ ก็กินเวลายาวนั้นถึงปี 2020 หรือ 24 ปีกันเลยทีเดียว
Part 2 : พื้นฐานครอบครัวของ Jessica
Jessica Baggen ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุได้ 17 ปี อาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอในเมือง Sika รัฐ Alaska ประเทศสหรัฐอเมริกา มีสมาชิกทั้งหมด 4คน โดยนอกจากพ่อและแม่ของเธอแล้ว Jessica ยังมีพี่สาวอีก 1 คนชื่อว่า Amanda Baggen (ต่อไปผู้เขียนจะขอเรียกว่า Amanda) อายุ 24 ปี โดยพี่สาวของเธอได้แต่งงานและย้ายออกไปอยู่กับสามีของเธอ ระหว่าง Jessica และ Amanda เรียกได้ว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีมาก โดยหลังจากที่ Amanda ได้ย้ายออกไป Jessica เองก็มักที่จะไปหา Amandaที่บ้านใหม่ของเธออยู่เสมอ ซึ่งห่างจากบ้านเดิมของเธอเพียง 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดิน 20นาทีก็ถึงแล้ว
เมือง Sitka ในรัฐ Alaska
Part 3 : วันเกิดเหตุ
วันที่ 4 พฤษภาคม 1996 ซึ่งเป็นเกิดครบรอบ 17 ปีของ Jessica, Amanda ซึ่งอยู่ที่บ้านของเธอ กำลังเตรียมจัดงานปาร์ตี้วันเกิดสำหรับน้องสาว โดยมีเพื่อนๆของ Jessica หลายคนรีบมาตั้งแต่ช่วงบ่าย เพื่อเตรียมเฉลิมฉลองวันเกิดให้กับเธอ ในงานปาร์ตี้ทุกคนล้วนสนุกสนานไปกับบรรยากาศ การสนทนา และอาหารแสนอร่อยในงานเลี้ยงครั้งนี้ Jessica นั้นมีความสุขกับงานเลี้ยงฉลองวันเกิดในปีนี้ของเธอมาก โดยพี่สาวของเธอ Amanda ได้ถ่ายรูปใบหน้าเปื้อนยิ้มของเธอไว้ด้วย โดยไม่มีใครรู้เลยว่ารูปถ่ายใบนี้จะกลายเป็นรูปถ่ายใบสุดท้ายในชีวิตของเธอ
รูปถ่ายที่พี่สาวของ Jessica ถ่ายให้เธอในงานวันเกิด
ปาร์ตี้ในวันนั้นได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่ายไปจนถึงช่วงกลางดึก โดยกว่าที่งานเลี้ยงจะเลิกราก็เป็นเวลาตี1ครึ่งแล้ว เพื่อนๆของ Jessica ต่างทยอยกันกลับบ้าน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ Jessica กำลังบอกลาพี่สาวของเธอเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้านเช่นกัน พี่สาวของเธอได้ออกปากบอกว่าจะขับรถไปส่งเธอที่บ้านเพราะมันดึกมากแล้ว แต่ Jessica ซึ่งเห็นว่าพี่สาวของเธอนั้นยุ่งๆมาทั้งวันแล้ว จึงปฏิเสธไปเพราะไม่อยากรบกวนเธอ เธอจึงเกินกลับบ้านเองตามลำพัง
เช้าวันต่อมาพ่อแม่ของ Jessica ทำกิจวัตรประจำวันเหมือนเช่นเคย เมื่อเตรียมอาหารเช้าเสร็จก็ได้ตะโกนเรียก Jessica ซึ่งน่าจะอยู่ชั้นบนของบ้านให้มาทานอาหารเช้าร่วมกัน พวกเขาตะโกนเรียกอยู่หลายครั้ง ก็ไม่ได้ยินเสียงขานรับของ Jessica แม่ของ Jessica จึงได้เดินขึ้นไปดูยังห้องนอนลูกสาวของเธอ แล้วเธอก็พบว่าในห้องนอนนั้นไม่มีใครอยู่เลย ดูเหมือนว่า Jessica จะไม่ได้กลับบ้านในคืนวานนี้
Part 4 : เริ่มการสืบสวน
เมื่อเห็นดังนั้น พ่อแม่ของ Jessica จึงรีบโทรหา Amanda ลูกสาวคนโตของพวกเขา ทำให้พวกเขารับรู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปรกติเกิดขึ้นกับ Jessica เสียแล้ว พวกเขาจึงรีบแจ้งตำรวจทันที เมื่อตำรวจรับเรื่องก็ได้ออกตรวจสอบเส้นทางระหว่างบ้านจอง Jessica และ Amanda แต่หลังจากตรวจสอบกันทั้งวัน ตำรวจก็ไม่พบร่องรอยอะไรเลย ทางตำรวจจึงได้จัดตั้งทีมค้นหาและกู้ภัยขึ้น และดำเนินการหาตัวJessica ทั่วเมือง Sitka แห่งนี้ หลังจากสำรวจไประยะหนึ่งทางทีมค้นหาก็ได้ไปเจอกับเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวหนึ่งในป่า ซึ่งต่อมาได้รับการยืนยันว่าเป็นเสื้อตัวเดียวกันกับที่ Jessicaใส่ในงานปาร์ตี้วันเกิดของเธอ
ทีมค้นหาจึงเร่งขยายผล ออกค้นหาเพิ่มเติมในบริเวณนั้นและได้พบกับร่องรอยการขุดดินที่ดูผิดธรรมชาติในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ Sitka เจ้าหน้าที่จึงเริ่มขุดเพื่อตวจสอบและไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้พบกับศพของ Jessica ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้หลุมนั้น โดยตำรวจยังพบกับเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ของเธอในบริเวณนั้นอีกด้วย โดยจากหลักฐานที่พบ ตำรวจได้สันนิษฐานว่าหลังจากที่ Jessica เดินกลับบ้านคนเดียวในกลางดึกคืนนั้น ได้มีคนจับเธอเข้าไปในป่าเพื่อก่อเหตุ ซึ่งน่าจะเป็นการก่ออาชญากรรมแบบไม่เฉพาะเจาะจง และด้วยเทคโนโลยีในสมัยนั้น ทำให้การสืบสวนเป็นไปอย่างยากลำบาก อีกทั้งเหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นในเขตอุทยานในช่วงกลางดึก ทำไม่มีมีพยานที่พบเห็นเหตุการณ์เลยแม้แต่คนเดียว
ผลจากการสืนสวนในขณะนั้นสรุปได้ว่า Jessica ถูกล่วงละเมิดทางเพศในขณะที่ยังมีชีวิต เพราะศพของ Jessica นั้นมีรอยบีบที่ลำคออย่างเห็นได้ชัด แพทย์นิติเวชยืนยันว่า Jessica เสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ นอกจากนี้ยังพบเส้นขนจำนวนมากบนเสื้อผ้าและร่างกายของ Jessica เจ้าหน้าที่เทคนิคจึงสกัด DNA จากเส้นขนเหล่านี้ โดยหลังจากการวิเคราะห์ DNA ได้สำเร็จจึงพบว่าเส้นขนเหล่านี้ไม่ใช่ของ Jessica ทำให้มั่นใจได้ว่าเส้นขนเหล่านี้จะต้องเป็นของฆาตกรอย่างแน่นอน
วันที่ 12 พฤษภาคม 1996 งานศพของ Jessica ได้ถูกจัดขึ้นในอุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ Sika มีผู้คนมากกว่า 1,500 คนมาที่นี่เพื่อเคารพศพของเธอ โดยหลังจากคดีนี้เกิดขึ้นบรรยากาศภายในเมือง Sitka ก็เปลี่ยนไป ผู้คนในเมืองต่างหวาดกลัวและไม่กล้าออกนอกบ้านเวลากลางคืนคนเดียว ผู้คนบนท้องถนนก็บางตากว่าปรกติมาก ตำรวจท้องที่ก็ถูกกดดันอย่างหนักแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะการคลี่คลายคดีที่แทบไม่มีความคืบหน้าเลย และหลังจากเหตุการณ์นี้ Amanda พี่สาวของ Jessica ก็ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับความโศกเศร้าทุกวัน เธอมักจะโทษตัวเองเสมอว่าตัวเธอเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนี้
ชาวเมือง Sika กว่า 1,500 คนเดินทางมาเคารพศพของ Jessica
9 วันหลังจากตำรวจพบศพของ Jessica ก็ได้มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น…ชายคนหนึ่งได้เข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจ ชายคนนี้มีชื่อว่า Richard Bingham (ต่อไปผู้เขียนจะขอเรียกว่า Richard) อายุ 34 ปี เขาเป็นคนท้องถิ่นในเมืองแห่งนี้ โดย Richard บอกกับทางตำรวจว่าเช้าวันนั้นเขาเมา จำอะไรไม่ได้เลย เขาคิดว่าบางทีเขาอาจเป็นคนฆ่า Jessica ก็เป็นได้ ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัว Richard ทันที จากการสอบปากคำ Richard บอกว่าเขาอาศัยอยู่บนเรือที่ท่าเรือ Sitka และทำงานเป็นรปภ.ในโรงเรียนท้องถิ่นแห่งหนึ่ง เขามักจะดื่มสุราจนเมาบ่อยๆ และทุกครั้งหลังจากสร่างเมา เพื่อนของเขามักจะเล่าถึงพฤติกรรมบ้าๆของเขาตอนเมาให้ฟังบ่อยๆ แต่เขากลับจำเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้เลย
Richard ยังบอกอีกว่าในวันที่ Jessica ถูกฆ่า เขาได้ไปดื่มเหล้ากับกลุ่มเพื่อนในบาร์ และออกจากบาร์มาตอนเที่ยงคืน ระหว่างทางกลับเขาเดินผ่านถนนที่ Jessica ใช้กลับบ้าน เขาจึงคิดว่าตัวเขาเองเป็นคนก่อเหตุขณะเมาสุรา แต่ตัวเขานั้นกลับจำรายละเอียดแบบเฉพาะเจาะจงไม่ได้เลย
Richard Bingham
ตำรวจจึงเดินทางไปยังเรือที่ Richard อาศัยอยู่ หลังจากการค้นหาตำรวจไม่พบสิ่งที่หน้าสงสัยในเรือของเขาเลย และเมื่อดูจากลำดับเวลาของเหตุการณ์ กล่าวคือ Richardออกจากบาร์ตอนประมาณเที่ยงคืน แต่ Jessica ออกจากบ้านพี่สาวของเธอตอนตี1ครึ่ง และเวลาที่ใช้ในการเดินจากบาร์มายังเรือของเขานั้นเพียงแค่1ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว ตำรวจจึงสันนิษฐานว่าขณะเกิดเหตุ Richard น่าจะนอนหลับอยู่บนเรือไปแล้วมากกว่า แต่ทางตำรวจก็ยังสอบสวน Richard อย่างต่อเนื่อง และตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับคดีในหลายๆอย่าง โดยตัว Richard เองนั้นเมื่อได้ฟังก็ยอมรับด้วยตัวเองเกินครึ่งซึ่งการกระทำของ Richardนั้นเปรียบเสมือนการยอมรับผิดแล้ว และในแง่ของตำรวจเองซึ่งถูกกดดันอย่างหนักมาโดยตลอดจึงไม่มีทางเลือก และได้ตัดสินใจจับกุม Richardอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม ปี1996 นั้นเอง
หลังจากนั้น Richard ถูกส่งตัวไปยังเรือนจำ Juneau และถูกคุมขังในห้องขังเดี่ยวในคุกแห่งนั้น ซึ่งจริงๆแล้วในเวลานั้นตำรวจยังรวบรวมพยานหลักฐานไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ ตำรวจได้เก็บ DNA จากตัวของ Richard และนำมาเปรียบเทียบกับ DNA ของขนที่พบบนตัวของ Jessica ผลปรากฏว่า DNA ของทั้งคู่ไม่ตรงกัน แต่ถึงอย่างนั้นตำรวจก็ยังไม่ได้ถอนข้อกล่าวหาของ Richard และหลังจากที่ Richard ใช้เวลากว่า 13 เดือนอยู่ภายในคุก ศาลถึงจะได้เปิดพิจารณาคดีนี้ โดยเปิดพิจาณาคดีในศาลเมือง Juneauแทนเพื่อความเป็นธรรม ในศาลตำรวจได้ยื่นคำในการรับสารภาพ และวีดีโอการสอบปากคำของ Richard ต่อศาล โดยทนายความฝ่ายจำเลยได้กล่าวว่า ถึงแม้ว่าเขาจะให้การยอมรับแต่เขามีปัญหาทางจิตบางอย่าง คำสารภาพดังกล่าวจึงควรถือว่าเป็นโมฆะ นอกจากนนั้น DNA ของ Richard ยังไม่ตรงกับ DNA ในที่เกิดเหตุอีกด้วย
Richard Bingham ขณะอยู่ในศาล
นักจิตวิทยายังลงความเห็นว่า ระหว่างสอบปากคำนั้นตำรวจได้มีถามคำถามที่มีลักษณะชี้นำหลายครั้ง ซึ่งเป็นทำบังคับกลายๆให้ Richard สารภาพผิดแทนที่จะเป็นการสารภาพผิดด้วยตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นทางตำรวจก็ไม่มีหลักฐานทางกายภาพใดๆเลยที่สามารถบ่งชี้ได้ว่า Richard เป็นคนลงมือจริง และหลังจากคณะลูกขุนประชุมกันเป็นเวลากว่า 2ชั่วโมงก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า Richard ไม่มีความผิดในข้อหาฆาตกรรม และถูกปล่อยตัวออกมาในที่สุด โดยหลังจากที่ Richard ถูกปล่อยตัวก็ถูกชาวเมืองเพ่งเล็งและโจมตี เขาทนกับความอัปยศนี้ไม่ได้ Richard จึงจำยอมต้องย้ายออกจากบ้านเกิด และถูกบีบให้ไปอยู่ในรัฐ Montana
หลังคำตัดสินของศาลตำรวจเร่งการสืบสวนต่อ พวกเขาใช้การเปรียบเทียบ DNA ตัดผู้ต้องสงสัยกว่า 100 คนออกไปแต่ก็ยังไม่พบอะไร คดีนี้ก็ยังไม่สามารถปิดได้ จนประทั้งในปี 2018 หรือ 22 ปีหลังเกิดคดีนี้ขึ้น ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทางตำรวจจึงได้ใช้ “เทคโนโลยีพันธุศาสตร์เครือญาติ” ซึ่งสามารถใช้ในการหาความสัมพันธ์ของ DNA ระหว่างเครือญาติหรือบรรพบุรุษได้ และด้วยเทคนิคนี้จะทำให้ตำรวจสืบหาตัวคนร้ายได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่มีฐานข้อมูล DNA จำนวนมหาศาล เพียงแค่ตำรวจอัพโหลด DNA ของฆาตกรที่พบในที่เกิดเหตุ และขอแค่ให้มี DNA ของญาติฆาตกรเก็บไว้ในฐานข้อมูลนี้ ตำรวจก็จะสามารถใช้เบาะแสตรงนี้สืบขึ้นไปถึงตัวฆาตกรได้ไม่ยาก
Part 5 : สืบหาฆาตกรตัวจริง
ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 เริ่มการตรวจสอบ DNA ของฆาตกรที่พบในกี่เกิดเหตุอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่ไม่มี DNA ของญาติฆาตกรในฐานข้อมูลเลย จนกระทั้งสิ้นปีตำรวจได้พบผู้ต้องสงสัยรายใหม่ เขามีชื่อว่า Steve Blanche (ต่อไปผู้เขียนจะขอเรียกว่า Steve) อายุ66ปี หลังจากการสอบสวนพบว่า Steve นั้นอาศัยอยู่ในเมืองSitka ในช่วงเวลาเกิดเหตุพอดี และเขาเคยถูกตั้งข้อหาในท้องที่นั้น เนื่องจากล่วงละเมิดเด็กสาวอายุ18ปี โดยหลังจากเด็กสาวคนนั้นเข้าแจ้งความกับตำรวจ Steveก็ได้ถูกจับในเดือนมิถุนายนปี1996 ซึ่ง Steve ก็ได้ในการยอมรับในศาล และได้โกหกต่อศาลว่าเป็นการสมยอม คาดไม่ถึงว่าศาลจะเชื่อการอ้างดังกล่าวของSteve และได้ปล่อยตัวเขาออกมา จากนั้นSteveก็ยังอาศัยอยู่ในเมืองSitka ต่อไปถึง14ปี จนกระทั่งในปี 2010 เขาก็ได้ย้ายไปอยู่รัฐ Arkansasกับครอบครัว
Steve Blanche
เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้ว ในเดือนมกราคมปี 2020 ตำรวจรัฐ Alaska จึงได้ติดต่อกับตำรวจรัฐ Arkansas เพื่อขอให้พวกเขาเก็บตัวอย่าง DNA ของ Steve และในที่สุดก็ได้ตัวอย่าง DNA ของญาติ Steve และในเดือนพฤษภาคมปี 2020 ผลตรวจของ DNA ข้างต้นก็ออกมา โดยบ่งชี้ว่าเป็นตระกูลเดียวกันกับ DNA ของฆาตกรในที่เกิดหตุ หรือสามารถกล่าวได้ว่า Steve มีแนวโน้มที่จะเป็นฆาตกรนั่นเอง
วันที่ 3 สิงหาคม ปี2020 ตำรวจได้ไปที่บ้านของSteve ในรัฐArkansas เพื่อสอบถาม Steveเกี่ยวกับคดีของ Jessica และขอตัวอย่าง DNA ซึ่งSteve บอกกับตำรวจว่าเขารู้จักคดีนี้ แต่ขอปฏิเสธที่จะให้ตัวอย่าง DNA กับทางตำรวจเนื่องจากตำรวจไม่มีหมายค้น ทางตำรวจจึงได้ออกจากบ้านของ Steve ไปเพื่อไปขอหมายศาล โดยภายหลังจากที่ตำรวจกลับไปได้ไม่นาน Steveก็ตัดสินใจที่จะจบชีวิตของตัวเองลงด้วยการผูกคอตายที่บ้านของเขาเอง โดยภายหลังตำรวจก็ได้นำตัวอย่าง DNAจากศพของ Steve ไปตรวจสอบและได้พบว่า DNA ของเขานั้นตรงกันกับของฆาตกรในที่เกิดเหตุจริงๆ
งานแถลงข่าวของตำรวจ หลังจากสามารถปิดคดีนี้ได้ในปี 2020
สุดท้ายตำรวจจึงจัดงานแถลงข่าว และปิดคดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 สิงหาคมปี2020 โดยสรุปว่าคนที่ฆ่าJessica ก็คือ Steve นั่นเอง และในที่สุดคดีที่ข้างคามานานกว่า 24 ปีก็ได้ถูกคลี่คลายลง โดยหลังจากจบการแถลงข่าวครอบครัวของJessica และชาวเมือง Sitka ก็ได้ไปร่วมกันจุดเทียนที่สถานที่เกิดเหตุเพื่อระลึกถึงJessica รวมถึงบอกเธอว่าคนผิดตัวจริงได้รับโทษแล้ว และในที่สุดเธอก็สามารถพักผ่อนได้อย่างสงบ
Amanda พี่สาวของ Jessica เข้าร่วมจุดเทียนเพื่อระลึกถึงน้องสาวของเธอ หลังจากคดีคลี่คลายลง
เรียบเรียงโดย
นายจอมโม้
5 ธันวาคม 2021
อ้างอิง
- 9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
