5 สถานการณ์อันตราย
"หุ้น" เริ่มน่ากังวล น่าเป็นห่วง 👻
มาตรวจสอบกันหน่อย ว่าหุ้นในพอร์ตหรือหุ้นที่คุณกำลังตัดสินใจลงทุน เริ่มน่ากังวล น่าเป็นห่วง แล้วหรือยัง หากสถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น นั่นหมายความว่าคุณจะต้องคอยติดตามหุ้นอย่างใกล้ชิด จับตาดูว่าเป็นโอกาสหรือหายนะ เป็นวิกฤตระยะสั้นหรือระยะยาว และสามารถแก้ไขได้หรือไม่ หากประเมินแล้วเห็นว่าวิกฤตนั้นกำลังจะหายไป ก็เป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อหุ้นของธุรกิจนั้น แต่หากกลับกัน ก็ควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุน
📍1 #ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเข้าสู่ช่วงขาลง
ธุรกิจ อุตสาหกรรมของหุ้นในพอร์ตหรือหุ้นที่กำลังตัดสินใจลงทุนที่กำลังเข้าสู่ช่วงขาลงนั้น มักเป็นธุรกิจที่อาจจะกำลังถูก Disrupt จากกระแสธุรกิจยุคใหม่ อนาคตของบริษัทเริ่มไม่สดใส อนาคตของธุรกิจมีคำถามว่าจะไปต่ออย่างไร เทรนด์ของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงมีสิ่งใหม่เข้ามาทดแทน มีนวัตกรรม มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาทดแทนของที่มีอยู่ในปัจจุบัน
หากบริษัทปรับตัวได้ทัน สร้างเทคโนโลยีใหม่ มีนวัตกรรมที่ตอบโจทย์และตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ บริษัทก็จะยังคงอยู่ต่อไป บริษัทจะมีการเติบโตครั้งใหม่ได้ จากการ Disrupt ตัวเอง นั่นจึงเป็นโอกาสที่เริ่มมองเห็นการเติบโตอีกครั้งของบริษัทได้ แต่ถ้าไม่ได้เตรียมตัว รายได้บริษัทเริ่มลดลง ไม่เติบโต ลูกค้าเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ก็จะส่งผลให้ราคาหุ้นลดลงไปด้วย
📍2 #ส่วนแบ่งการตลาดลดลง
ความสามารถของการแข่งขันของบริษัทลดลง บริษัทมีคู่แข่งในอุตสาหกรรม คู่แข่งกำลังแย่งส่วนแบ่งการตลาดไป หรือแม้กระทั่งคู่แข่งเก่งกว่า มีความสามารถมากกว่า จนไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งได้ ไม่สามารถรักษาลูกค้าไว้ได้เลย ผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ของบริษัทไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป จะทำให้ลูกค้าหาย รายได้ลดลง กำไรลดลง
หากบริษัทสามารถวิเคราะห์ แก้ไขได้ว่าบริษัทผิดพลาดตรงไหน และสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ หรือหาแนวทางการเติบโตใหม่ได้ และหาจุดที่เหนือว่าคู่แข่งได้ บริษัทก็จะสามารถกลับมาแย่งส่วนแบ่งการตลาดได้
📍3 #รายได้ลดลง กำไรลดลง ขาดทุน
นักลงทุนทุกคนคาดหวังว่า ผลประกอบการของบริษัท รายได้และกำไรจะเติบโตต่อเนื่องสม่ำเสมอตลอดทุกไตรมาส แต่เรื่องจริงไม่ได้เป็นแบบนั้นตลอด บางครั้งรายได้ลดลง บางครั้งกำไรลดลง บางครั้งขาดทุน ทำให้ผลประกอบการไม่เป็นตามคาดการณ์ บริษัทต้องวิเคราะห์ว่า รายได้ลดลง กำไรลดลง และที่ขาดทุนนั้น เกิดจากสาเหตุอะไร ธุรกิจอาจดำเนินงานผิดพลาดหรือเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ที่บริษัทได้รับผลกระทบ เช่น ลูกค้าหาย ราคาขายลดลง คู่แข่งเก่งกว่า ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หนี้สินถึงกำหนดชำระ วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตบริษัท โรคระบาด เป็นต้น
หากบริษัทเจอวิกฤตเหตุการณ์ไม่ปกติ วิกฤตระยะสั้น รายได้ลดลง กำไรลดลงหรือขาดทุนในบางไตรมาสของบริษัท อาจจะพอเข้าใจได้และยังเป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้นอีกด้วย ถ้าแก้ไขได้ก็กลับมาได้เหมือนเดิม แต่ถ้าบริษัทเจอวิกฤตระยะยาว วิกฤตหนัก รายได้ลดลง กำไรลดลง ขาดทุนต่อเนื่อง หลายไตรมาส ถือว่าเป็นความเสี่ยงเป็นความอันตรายของบริษัท และเป็นเรื่องใหญ่ของนักลงทุนว่าอาจจะถือหุ้นผิดพลาดอยู่หรือเปล่า
📍4 #หนี้สินเพิ่มขึ้น
หนี้สิน เป็นสิ่งหนึ่งในช่องทางหาเงินทุนของบริษัท นอกจากส่วนของผู้ถือหุ้น เพื่อเอามาเป็นเงินทุนเวียน มาเป็นเงินในการขยายธุรกิจ มาเป็นเงินซื้อทรัพย์สิน แต่ข้อหนึ่งที่สำคัญของ “หนี้สิน” เกิดจากการกู้ยืม หุ้นกู้ ซึ่งมาพร้อมภาระดอกเบี้ย เป็นหน้าที่ของบริษัทที่ต้องรับผิดชอบ ชำระหนี้คืนจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
โดยทั่วไป การประเมินหนี้สินของบริษัท ว่าบริษัทก่อหนี้สินเกินตัวหรือไม่ นิยมใช้อัตราส่วนทางการเงินอย่าง D/E ratio (อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น) ปกติแล้วค่า D/E ratio ไม่ควรเกิน 1.5 - 2 เท่า ถ้าบริษัทค่า D/E Ratio น้อยกว่า 1 เท่า ถือว่าดี
นักลงทุนควรสังเกตว่าหนี้สินของบริษัทมาจากไหน เป็นหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยหรือไม่ และเปรียบเทียบกับบริษัทตัวเองในอดีต ว่าค่า D/E Ratio เพิ่มขึ้นหรือลดลงในรายไตรมาส รายปี หากบริษัทมีหนี้สินมากเกินไป ค่า D/E ratio สูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มีความเสี่ยงมากแน่นอน ผลประกอบการไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ไม่มีกำไรเพียงพอชำระหนี้สิน จะเกิดปัญหาตามมา นำมาสู่ความเสี่ยงที่จะล้มละลายสูง
📍5. #ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่โปร่งใส
ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท เป็นสิ่งที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามเลย เราควรรู้ว่าผู้บริหารนั้นเป็นคนแบบไหน มีพฤติกรรมหรือลักษณะที่ไม่โปร่งใสหรือไม่
.
เช่น ตกแต่งงบการเงิน ปลอมงบ ปั่นหุ้น ถ้าอยากรู้ว่ามีประวัติหรือไม่ วิธีการตรวจสอบประวัติง่าย ๆ ลองพิมพ์ชื่อผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Google ว่ามีข่าวอะไรหรือไม่ เพื่อให้นักลงทุนมีความระมัดระวังในการลงทุน
⭐ทั้งหมด 5 ข้อนี้ เป็นปัจจัยเสี่ยงของหุ้น เป็นสถานการณ์อันตรายที่เตือนว่า “หุ้น” เริ่มน่ากังวล น่าเป็นห่วง หากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ นักลงทุนจะต้องคอยติดตามหุ้นอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นและมีความระมัดระวังในการลงทุนเป็นพิเศษนะครับ
ชอบ "กดถูกใจ ❤️" ใช่ "กดแชร์ 👆"
แล้วพบกับบทความดี ๆ จาก SkillLane อีกมากมาย
กดติดตามไว้ได้เลย!
พบกับคอร์สออนไลน์การเงินการลงทุน โดยกูรูระดับประเทศที่ SkillLane
🔥 คลิกเลย https://skl.website/3lCHeiS
#ลงทุนในหุ้น #SkillLane
#เรียนออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา
- 147
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
