ก่อนที่จะรีวิวหนังสือเรามีเรื่องที่อยากจะพูดถึงก่อนค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับทัศนคติ มุมมอง ของหนังสือประเภทที่เราได้หยิบมาเขียนในวันนี้ ซึ่งหนังสือประเภทดังกล่าวก็คือ “หนังสือการ์ตูน”
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันยังคงมีทัศนคติในแง่ลบต่อหนังสือการ์ตูน ประโยคฮิตสุดๆเลยก็คือ “โตแล้ว ยังอ่านอีกหรอ” หรือ “เด็กเท่านั้นแหละที่อ่าน” แม้ว่าตัวเราจะโชคดีมากที่บุคคลรอบตัวเรารวมถึงครอบครัวเราเองไม่ได้มีทัศนคติแบบนั้น แต่ถ้าถามว่าเคยเจอคำพูดในแง่ลบจากการอ่านหนังสือการ์ตูนหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าเคยค่ะ!! แม้ในใจเราอาจจะตอบกลับไปแบบหยาบคายเพื่อความสะใจของตัวเอง แต่วันนี้เราอยากจะสื่อสารกับคนที่มีทัศนคติแบบนั้นด้วยเหตุผลเพราะหนังสือดินแดนคนตาบอดได้สอนเราไว้ว่าการพูดด้วยอีโก้ของตนเองไม่อาจทำให้ผู้รับฟังเข้าใจเนื้อหาที่แท้จริงของบทสนทนาได้ เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจึงอยากจะตอบเขาแบบนี้ค่ะ
งานเขียนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น นิยาย เรื่องสั้น หนังสือ ตำราเรียน และอื่นๆ ล้วนต้องผ่านกระบวนการคิดและกรั่นกรอง รวมไปถึงการวางโครงเรื่อง เนื้อหาที่จะเขียน เรียกได้ว่าต้องใช้ทั้งความสร้างสรรค์และความวิริยะอุตสาหะ ซึ่งจ้อนี้ไม่มีใครปฏิเสธใช่มั๊ยคะ และ การวาดรูปสักรูปนึง ก็ต้องผ่านกระบวนการเช่นเดียวกันการเขียนหนังสือ คือคิดว่าจะวาดภาพอะไร จะสื่อสารอะไรผ่านรูปภาพนี้ และต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์และความวิริยะอุตสาหะเช่นเดียวกันกับการเขียนหนังสือ และการที่เล่าเรื่องที่มีทั้งรูปวาดภาพประกอบ พร้อมบทสนทนา มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆที่ไม่ต้องใช้ความพยายามวิริยะอุสาหะ
และถ้าคุณยังคงชอบเป็นคนที่นิยมชื่นชอบภาพยนตร์ซูปเปอร์ฮีโร่อย่าง Marvel หรือ DC ไม่ว่าจะเป็น Batman, Super Man, Iron Man, Avengers แต่คุณยังคงแอนตี้การ์อ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น ก็อยากจะขอย้ำคุณอีกสักครั้งว่าเรื่องเหล่านี้ที่ก็ถูกสร้างมาจากหนังสือการ์ตูนเช่นเดียวกัน ดังนั้นขออย่าให้เลือกปฏิบัติเลย และถ้าคุณไม่ได้ชอบภาพยนตร์เหล่านี้ก็ไม่ได้อยากให้มองว่าเรื่องเหล่านี้ไร้สาระ เพียงเพราะไม่ตรงกับรสนิยมคุณ เราไม่ได้ขอให้คุณมาชอบ เพียงขอแค่ไม่ให้คุณด้อยค่ามันแค่นั้นเองค่ะ
แน่นอนค่ะว่าหนังสือที่เราหยิบมารีวิววันนี้ต้องเป็นหนังสือการ์ตูน ไม่ต้องเสียเวลาเดากันแล้วว่าจะเป็นหนังสือประเภทไหน และถ้าใครติดตามเพจของเราอาจจะเคยเห็นหนังสือเล่มนี้แล้วก็ได้เพราะว่าเราเคยลงรูปอวดหนังสือการ์ตูนที่ซื้อมาใหม่ไว้ ซึ่งหนังสือเล่มนี้ก็คือ “สืบลับฉบับคาโมโนะฮาชิรอน เล่มที่ 1” (Kamonoshi Ron No Kindansuiri) เนื้อเรื่องและภาพประกอบโดย Akira Amano ลิขสิทธิ์แปลไทยโดย Siam Inter Comics ราคาปกอยู่ที่ 95 บาท
หากใครเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือการ์ตูนแล้วแหละก็ ถ้าได้เห็นภาพหน้าปกก็อาจจะคุ้นเคยกับลายเส้น และหากใครเป็นคนที่อ่านหนังสือการ์ตูนเรื่อง Reborn ครูพิเศษจอมป่วน ยิ่งคุ้นเข้าไปอีก จะไม่คุ้นได้ยังไงล่ะค่ะ เพราะลายเส้นของทั้งสองเรื่องเหมือนกัน แต่จะไม่ให้เหมือนคงยาก เพราะผู้เขียนเป็นคนเดียวกันค่ะ และเป็นผลงานแรกหลังจบการ์ตูน Reborn เลยด้วย ใครเป็นแฟนคลับนักเขียนการ์ตูนท่านนี้หรือแฟนคลับรีบอร์นอยากอ่านการ์ตุฯลายเส้นแบบเดิมหนังสือเล่มนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
เพื่อเป็นการช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นหนังสือที่ใช่ที่เราจะใช้เวลาพักผ่อนไปด้วยกันแล้วล่ะก็ เราก็ขอสรุปเนื้อหาของหนังสือการ์ตูนเล่มนี้โดยไม่สปอยเนื้อหาหลักให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ โดยหนังสือเล่มนี้มีทั้งหมด 5 ตอน มีเพียงตอนที่ 5 ที่เรื่องราวยังไม่จบในเล่ม 1 จะต้องไปตามอ่านกันต่อในเล่มที่ 2
-----ต่อไปนี้อาจจะมีการสปอย์เนื้อหาบางส่วน โดยไม่สปอย์เนื้อหาหลัก----
ตอนที่ 1 คดีจมน้ำตายต่อเนื่องกลางเมืองหลวง
- ในตอนนี้เราจะได้ทำความรู้จักกับตัวละครหลักของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งก็คือ คาโมโนะฮาชิรอน ผู้ที่เป็นสุดยอดนักเรียนโรงเรียนนักสืบBlue ที่เป็นโรงเรียนนักสืบชื่อดังระดับโลก โดยถูกกล่าวขานว่า หากเขาเรียนจบไปแล้วล่ะก็ในโลกใบนี้จะไม่มีคดีปริศนาอีก เพราะเขาจะไขได้ทุกคดี
และภาพก็จะตัดมาหลังจากเรื่องดังกล่าว 5 ปี โดยเล่าเรื่องของ อิชิกิ โทโทมารุ พนักงานสอบสวนที่อยากทำงานในกองสอบสวนนี้ต่อไป ได้รับคำแนะนำจาก คิคุ ผู้ที่เห็นถึงความตั้งมั่นของอิชิกิเลยแนะนำให้ไปพบกับนักสืบที่สามารถแก้ไขปริศนาผู้กระทำผิดที่ตอนนี้ยังไม่สามารถจนต้นชนปลายถูกได้ เพื่อที่จะได้สร้างความสุขให้กับประชาชนไม่ต้องอยู่กับเหตุการณ์สุดผวาจากฆาตรกรโรคจิตที่ก่อเหตุไปแล้วถึง 5 ครั้ง โดยในการร้อของความช่วยเหลือในตอนแรกนั้นคาโมโนะฮาชิรอน ปฏิเสธที่ยินยอมที่จะช่วยเหลือเพราะรู้ว่าตนมีข้อบกพร่องของการเป็นนักสืบ แต่สุดท้ายก็ยอมตกลงไปช่วยไขคดี
ตอนที่ 2 คดีลักกระปุกออมสินในห้องปิดตาย
- หลังจากที่อิชิกิ โทโทมารุ สามารถจับคนร้ายฆาตรกรต่อเนื่องได้แล้ว เขาก็ได้กล่องสืบสอนเป็นของตัวเองแต่ดูเหมือนว่างานที่เขาได้จะเป็นงานที่ไม่มีใครต้องการ อย่างเช่นคดีนี้ที่น้ำหนักของกระปุกออมสินที่อยู่ในบ้านที่ไม่มีร่องรอยการงัดแงะ และไม่มีวิธีเอาเงินออกจากกระปุกออมสินได้นอกจากการทุบ แต่น้ำหนักของกระปุกออมสินดังกล่าวก็ลดลง และบ้านดังกล่าวมีผู้อยู่อาศัยเพียงสองคนซึ่งเป็นพี่สาวกับน้องสาว นอกจากนี้ในช่วงนี้ยังมีโทรศัพท์แปลกๆโทรเข้ามายังที่บ้านหลังนี้อีกด้วย
ตอนที่ 3-4 คดีฆาตกรรมเบนิโซเมะออนเซ็น
- อิชิกิ โทโทมารุ กับ คาโมโนะ ฮาชิรอน ทั้งคู่โชคดีได้รับรางวัลพิเศษจากการหมุนรางวัลในซุปเปอร์มาร์เก็ต และได้รางวัลที่ 1 เป็นวอยเชอร์คู่รักท่องเที่ยวออนเซ็น ซึ่งไม่สามารถแบ่งแยกใช้ได้ ทั้งสองจึงต้องไปด้วยกัน แต่ออนเซ็นที่ทั้งคู่ไปพักนั้นถูกจับตามองด้วยอาจารย์ภาควิชาแกะรอย จากโรงเรียนนักสืบ Blue ที่สงสัยว่ารอนทำผิดกฎที่ถูกขับไล่คือกลับมาทำการสืบสวนอีกหรือไม่ จึงได้ส่งอาจารย์มาให้จับตามอง นอกจากนี้แล้วยังมีคดีปริศนาที่เกิดขึ้นเหมือนกับเรื่องราวในตำนานของการบูชายัญหญิงสาว แถมผู้ต้องสงสัยยังเป็นรุ่นพี่ในกองสืบสวนของโทโทมารุอีกด้วย
ตอนที่ 5 คดีฆาตกรรมนักสะสมมือ
- เมื่อกองสืบสวนกองที่ 1 ที่อิชิกิ โทโทมารุ สังกัดอยู่นั้นจะต้องร่วมทำการสอบสวนกับสภ.จังหวัดไอจิ ทำให้เขาได้พบกับคาวาเซมิ โอมิโตะ ที่มีฉายาว่า “กระเต็นตาไว” เพราะว่าเขานั้นเป็นผู้ที่มีสายตาเฉียบคม เจ้าระเบียบ ช่างสังเกตเป็นที่สุด เรียกได้ว่าเพียงแค่มองครั้งเดียวก็สามารถสังเกตลายระเอียดต่างๆได้ และในครั้งนี้ก็ถือเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่เกิดการฆาตกรรมแบบนี้ขึ้น ที่คนร้ายจะใช้วิธีแทงที่หัวใจและตัดเอาข้อมือของผู้ตายไปด้วย และดูเหมือนว่าโทโทมารุจะต้องเริ่มสืบคดีโดยเริ่มจากศูนย์ เพราะคาวาเซมิ โอมิโตะ ไม่ยอมให้ข้อมูลเลย แถมยังประกาศตัวว่าจะเป็นคนที่ไขคดีได้คนแรกอีกด้วย
สำหรับใครที่อ่านเพียงเท่านี้แล้วยังตัดสินใจไม่ได้ แนะนำให้ลองฟังแบบฉบับ Podcast เพราะในนั้นจะมีการสปอยเนื้อหาและบอกเล่าความรู้สึกหลังอ่านจบแบบไม่มีกั๊ก ลองเลือกทางในการรับฟังตามด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ และก็ขอขอบคุณมากที่อ่านจนจบค่ะ
ช่องทางการรับฟัง
#รีวิวหนังสือ #แนะนำมังงะ #AfterReading #มังงะ #แนะนำหนังสือ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
