7 ธ.ค. 2021 เวลา 12:16 • กีฬา
เกมที่ไม่ใช่แค่โอกาสของตัวสำรอง!
การลงสนามในเกมเยือนถิ่น ซาน ซิโร ของ เอซี มิลาน ในคืนนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นหรือต้องมาตามลุ้นอะไรกันแล้วสำหรับ ลิเวอร์พูล เพราะพวกเขาผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายไปตั้งแต่ 2 เดือนก่อนด้วยชัยชนะ 4 เกมรวดจาก 4 นัดแรก
คงไม่มีใครคาดคิดว่าการเข้ารอบน็อคเอ้าท์ของทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์นั้นจะง่ายดายอะไรเช่นนี้ เพราะจำได้ว่าครั้งแรกที่รู้ผลการจับฉลากแบ่งกลุ่มแฟนบอลหลายคนถึงกับอุทานไม่เป็นภาษาคนกันเลยทีเดียว
นี่มันกรุ๊ปออฟเดธชัด ๆ!
แอตเลติโก้ มาดริด, ปอร์โต้ และ เอซี มิลาน จิ้มไปที่ทีมไหนก็ไม่เห็นว่าใครจะเป็นทีมแจกแต้มในกุล่มนี้เลย เผลอ ๆ ลิเวอร์พูล เองที่เกือบเอาตัวไม่รอดเมื่อซีซันก่อนอาจถูกมองว่าน่าจะต้องลุ้นเข้ารอบเป็นที่ 2 ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามเมื่อเกมผ่านไป 4 นัดกลับกลายเป็นว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายด้วยการคว้าชัยชนะ 4 เกมรวดพร้อมเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์โดยการมี 12 คะแนนเต็ม ยังไม่พอแค่นั้นพวกเขายังเอาชนะ ปอร์โต้ ได้อีกในนัดรองสุดท้าย ทำให้ตอนนี้มี 15 คะแนน นำโด่งเดี่ยว ๆ แบบไม่ต้องมองข้างหลังให้เสียเวลา
และผลจากการเก็บชัยชนะในนัดที่ 5 พร้อมด้วยการพลาดท่าของ แอตฯ มาดริด ทำให้ 3 ทีมที่เหลือยังมีลุ้นในเกมสุดท้ายซึ่งจะลงเตะในวันนี้
เรื่องใครจะลุ้นอะไรนั้นคงต้องปล่อยเขาไป ส่วน หงส์แดง มีลุ้นอยู่อย่างเดียวคือ พวกเขาจะกลายเป็นทีมแรกของอังกฤษที่สามารถเก็บชัยชนะได้ 6 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่มหรือไม่
1
สถิติที่ดีที่สุดของเมืองผู้ดีในในรอบนี้คือการทำได้ 16 คะแนนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อฤดูกาลที่แล้วที่พวกเขาเก็บชัย 5 นัดรวดแต่ดันมาเสมอในเกมสุดท้ายกับ ปอร์โต้ อดคว้า 18 คะแนนเต็มอย่างน่าเสียดาย รวมทั้ง ท็อตแนม ฮ็อทเสปอร์ ที่เคยทำได้มาแล้วเมื่อซีซัน 2017-2018
ซึ่งหากว่า ลิเวอร์พูล สามารถบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้กับขุนพล รอสโซเนรี ได้นอกจากจะเป็นทีมแรกของอังกฤษแล้ว พวกเขาจะเป็นทีมที่ 7 ในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ก่อตั้ง ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 1992 ที่สามารถเก็บชัยชนะได้ 6 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งก่อนหน้านั้นมี เอซี มิลาน, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, สปาร์ตัก มอสโคว, บาร์เซโลนา, เรอัล มาดริด (2 ครั้ง) และ บาเยิร์น มิวนิค ที่เคยทำได้มาแล้ว
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงยากที่จะคาดเดา เพราะจากการให้สัมภาษณ์ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เจ้าตัวก็ออกมายืนยันว่าเขาจะมีการหมุนเวียนใช้งานผู้เล่นสำรองแน่นอนในเกมนี้
“ผมจะหมุนเวียนนักเตะ ไม่งั้นคงโดนทีมแพทย์กระทืบตายแน่ ผมจะไม่จัดทีมชุดเดิมลงเล่นแน่นอน” นายใหญ่เมืองเบียร์ว่าเอาไว้ประมาณนี้
นั่นหมายถึงเราจะได้มีโอกาสเห็น “มหาเทพ ดิว็อค โอริกิอุส โอริกี” ที่เพิ่งยิงประตูชัยในเกมล่าสุดลงสนามอีกครั้ง รวมทั้งในรายของ ทาคุมิ มินามิโนะ, เจ้าหนู ไทเลอร์ มอร์ตั้น, เนโก้ วิลเลียมส์, อิบราฮิมา โคนาเต้, คอสตาส ซิมิคาส และแข้งดาวรุ่งรายอื่น ๆ ที่จะได้ลงสัมผัสบรรยากาศที่ ซาน ซิโร่ ในคืนวันนี้
แน่นอนว่าระดับฝีเท้าอาจจะไม่เก่งกาจเท่าพวกตัวจริง อีกทั้ง มิลาน เองก็ต้องการ 3 แต้มเพื่อลุ้นเข้ารอบและยิ่งเป็นการเล่นที่ ซาน ซิโร่ นั่นทำให้พวกเขาต้องเจองานหิน 10 ตันอย่างแน่นอน
แต่ทว่าหาก ลิเวอร์พูล ชุดสำรองนี้ดันบุกไปเก็บชัยชนะที่ มิลาน ได้นอกจากจะทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่ชนะรวด 6 นัดแล้วยังเป็นครั้งแรกที่สามารถเอาชนะ รอสโซเนรี ได้ถึงถิ่นด้วย
รวมทั้งน่าจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้พวกแข้งสำรองได้พิสูจน์ตัวเองว่าพวกเขาก็มีดีพอที่จะขึ้นมาบดบี้กับตัวจริงในเกมต่อ ๆ ไปเหมือนกัน
แต่คนที่ได้ประโยชน์เต็ม ๆ ก็คงหนีไม่พ้น เยอร์เก้น คล็อปป์ นี่แหละ
YNWA
ฝากกดติดตาม กดไลค์ กดแชร์ ให้แอดมินได้มีกำลังใจผลิตคอนเทนท์ดี ๆ เพื่อเดอะค็อปทั้งปวงด้วยนะครับ
#myliverpoolthailand #YNWA #LIVERPOOLFC #thekop #sport #footballnews #ลิเวอร์พูล #เดอะค็อป #หงส์แดง #เด็กหงส์ #liverpool #ฟุตบอล #ข่าวลิเวอร์พูล #บทความฟุตบอล #ข่าวฟุตบอล #ข่าวฟุตบอลออนไลน์ #พรีเมียร์ลีก #ข่าวพรีเมียร์ลีก #ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก #กีฬา #ข่าวกีฬา
โฆษณา