Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
TopNewsFocus
•
ติดตาม
8 ธ.ค. 2021 เวลา 12:07 • สุขภาพ
ผู้คิดค้นวัคซีน AstraZeneca เตือนโรคระบาดครั้งต่อไปอาจร้ายแรงกว่าโควิด
“โรคระบาดครั้งต่อไปอาจจะรุนแรงและเลวร้ายยิ่งกว่าวิกฤตไวรัสโควิด-19” 1 ในทีมผู้สร้างวัคซีน AstraZeneca กล่าว
ศาสตราจารย์ ซาราห์ กิลเบิร์ต 1 ในผู้คิดค้นวัคซีน AstraZeneca ระบุว่าโลกจำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมในการรับการระบาดของโรคระบาดใหม่ๆ ซึ่งการระดมทุนเพื่อเตรียมพร้อม และป้องกันความสูญเสียถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง และเธอยังเตือนด้วยว่าวัคซีนโควิด-19 ที่โลกมีในตอนนี้จะมีประสิทธิภาพลดลงต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron)
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ประชาคมโลกสมควรที่จะต้องรับรู้ และเฝ้าระวังก่อนที่มันจะเกิดขึ้น
“นี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ไวรัสตัวใดตัวหนึ่งจะคุกคามชีวิต และสังคมของมนุษย์ ความจริงที่จะต้องเกิดขึ้นคือครั้งต่อไปจะมีแน่ๆ และมันอาจจะเลวร้ายกว่านี้ แพร่ระบาดง่ายกว่านี้ มีความรุนแรงของโรคมากกว่านี้ หรืออาจจะทั้งสองอย่าง ซึ่งเราไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์เลวร้ายได้เหมือนครั้งนี้ อย่างที่ทราบกันว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงระยะเวลา 2 ปี มานี้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก จนไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ แต่ตอนนี้เรายังไม่มีกองทุนเพื่อการเตรียมพร้อมรับมือโลกระบาดในลักษณะนี้เลย ความสูญเสียที่เราได้รับ ความรู้ที่เราค้นพบไม่ต้องไม่สูญเปล่า” ศาตราจารย์ ซาราห์ กล่าว
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ซาราห์ ยังกล่าวถึงไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) โดยระบุว่า หนามโปรตีนของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน มีการกลายพันธุ์ที่บ่งบอกถึงขีดความสามารถในการแพร่ระบาดที่ดีกว่าเดิมอย่างชัดเจน และมีความเป็นไปได้สูงมากที่สายพันธุ์ไอไมครอนจะมีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่ทำให้สามารถทะลุทะลวงภูมิคุ้มกันของมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นจากวัคซีนได้ดีกว่าสายพันธุ์อื่นๆ เรียกได้ว่าวัคซีนโควิด-19 ในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนลดลงนั่นเอง
“ซึ่งก่อนที่ข้อมูลที่ชัดเจนจากการวิจัยจะออกมา เราควรจะต้องเพิ่มความระมัดระวัง และหาทางที่จะทำให้การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนลดลงให้มากที่สุด”
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ ซาราห์ กล่าวว่าการที่โอไมครอนมีความสามารถในการผ่านระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ประสิทธิภาพของไวรัสลดลง อาจจะไม่ได้หมายความว่าโอไมครอนจะมีผลที่ทำให้เกิดการอาการของโรคที่รุนแรงกว่าเดิม หรือมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้น และเธอยังระบุว่าการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 รวมถึงการส่งยารักษาแบบตรงจุดให้มากที่สุด เพื่อให้สถานการณ์การระบาดของโรคกลับสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด
ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข รัฐควีนสแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย แถลงว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ โอไมครอนกลายพันธุ์ รายแรกของโลกแล้ว เรียกว่า “สายพันธุ์คล้ายคลึงโอไมครอน” (Omicron like) ทั้งนี้สายพันธุ์โอไมครอนที่พบในแอฟริกาใต้ สามารถกลายพันธุ์ได้เป็นจำนวนมากกว่า 30 ตำแหน่ง แต่สำหรับสายพันธุ์ Omicron Like ที่พบในรัฐควีนส์แลนด์นี้ สามารถกลายพันธุ์ได้ 14 ตำแหน่ง และข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมบางอย่างที่ทำให้มันหลบหลีกการตรวจเจอได้มากกว่าโอไมครอนแบบดั้งเดิม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อจะไม่ถูกตรวจเจอและแพร่เชื้อไปต่อผู้อื่นได้
โฟกัสทุกความเคลื่อนไหว ที่น่าสนใจและอัดแน่นไปด้วยสาระ ที่ TopNewsFocus เลือกสรรมาให้คุณเติมอาหารสมองกันได้ทุกวัน
ติดตาม Topnewsfocus ได้ทุกช่องทางที่
Website :
https://topnewsfocus.com/
facebook :
https://www.facebook.com/Topnewsfocus
Twitter :
https://twitter.com/Topnewsfocus
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย