11 ธ.ค. 2021 เวลา 02:00 • ธุรกิจ
หมัดต่อหมัด! แฟรนไชส์ไหนน่าลงทุน คาเฟ่ อเมซอน VS อินทนิล
หากพูดถึงแบรนด์แฟรนไชส์ร้านกาแฟสัญชาติไทยที่ถือเป็นคู่แข่งและได้รับความนิยมลงทุนมากที่สุด น่าจะเป็น “คาเฟ่ อเมซอน” และ “อินทนิล” ทั้ง 2 แบรนด์แฟรนไชส์อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยเช่นเดียวกัน โดยคาเฟ่ อเมซอน เป็นของเครือปตท. ส่วนอินทนิล เป็นของเครือบางจาก ซึ่งทั้ง 2 แบรนด์แฟรนไชส์ร้านกาแฟมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร แฟรนไชส์แบรนด์ไหนน่าลงทุนมากกว่ากัน
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีข้อมูลมานำเสนอให้ทราบเพื่อใช้ในการพิจารณาตัดสินใจครับ
 
คาเฟ่ อเมซอน
บริษัท ปตท. ใช้เวลามากกว่า 15 ปี ในการปลุกปั้นแบรนด์ร้านกาแฟ “คาเฟ่อเมซอน (Café Amazon)” จนมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมขึ้นชั้นเป็นธุรกิจนอนออยล์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด รายได้แตะ 6,000-7,000 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นสัดส่วน 50% ของกลุ่มนอนออยล์ และจุดพลุให้บริษัทน้ำมันทุกค่ายเข้ามาเล่นเกมในสมรภูมิจีสโตร์อย่างดุเดือด
ระยะแรก ปตท. เน้นการขยายสาขาไปยังสถานีบริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งเส้นทางหลักที่มุ่งสู่จังหวัดในภาคต่างๆ ก่อนขยายไปสู่ภาคกลาง ภาคอีสานและภาคเหนือ โดย 3 ปีแรก สามารถผุดสาขามากกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ
 
นับตั้งแต่ปี 2547-2550 เป็นยุคที่คาเฟ่อ เมซอน ขยายสาขาไปกับปั๊มปตท.ภาพลักษณ์ใหม่และกลายเป็นร้านกาแฟที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศไทย คือ 230 แห่ง จากนั้นเติบโตแบบก้าวกระโดดชนิดปูพรม ทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมัน รวม 500 สาขา จนกระทั่งขึ้นชั้นเป็นธุรกิจร้านกาแฟสดที่มีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศไทย
สำหรับเป้าหมายของ OR ในเครือปตท.หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ วางแผนในปี 2568 ขยายร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน จำนวน 5,800 สาขา โดยต้องเปิดให้ได้อีก 2,500 สาขา แบ่งเป็นในประเทศไทย 2,100 สาขา โดย 60% อยู่นอกปั๊ม และต่างประเทศ 400 สาขา เฉพาะในประเทศไทยจาก 3,168 สาขา จะเพิ่มเป็น 5,200 สาขา เติบโตเฉลี่ย 18.3% ต่อปี
ในต่างประเทศร้านกาแฟ Café Amazon มากที่สุดในประเทศกัมพูชา 162 สาขา, ลาว 67 สาขา, ฟิลิปปินส์ 18 สาขา, โอมาน 9 สาขา, เมียนมา 8 สาขา, สิงคโปร์ 3 สาขา, จีน 2 สาขา, ญี่ปุ่น 2 สาขา และมาเลเซีย 1 สาขา
 
การลงทุนเปิดร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน
 
รูปแบบร้าน Café Amazon มี 2 ประเภท คือ ในตัวอาคาร (Shop) และนอกตัวอาคาร (Stand Alone) โดยพื้นที่จะต้องอยู่นอกสถานีบริการน้ำมัน เท่านั้น โดยในอาคาร (เช่น อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ฯลฯ) 30 ตร.ม ขึ้นไป และพื้นที่ขอเปิดร้านต้องอยู่ในบริเวณที่มีคนผ่านไปมาไม่น้อยกว่า 3,000 คนต่อวัน ส่วนนอกอาคาร (พื้นที่เปล่า) 100-200 ตร.ม ขึ้นไป
 
เงินลงทุนเปิดร้าน Cafe Amazon
1.ร้านในอาคาร (Shop) 40 ตร.ม. ขึ้นไป
1
  • ค่าก่อสร้าง, งานตกแต่ง, งานระบบ ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,200,000 – 2,500,000 บาท
  • ค่าออกแบบ ใช้เงินลงทุน 80,000 – 120,000 บาท
  • อุปกรณ์ภายในร้าน 779,000 บาท
  • ค่าประกันแบรนด์ 100,000 บาท ค่าดำเนินการก่อนเปิดร้าน รวมถึง ค่า Set up ร้าน ค่าฝึกอบรมหลักสูตรผู้บริหารร้านเปิดใหม่ ค่า On the Job Training ค่าสำรวจพื้นที่ 80,000 บาท
  • ค่า Franchise Fee 150,000 บาท ค่า Royalty Fee 3% และ ค่า Marketing Fee 3%ของยอดขายรายเดือน
  • ค่าเช่าเครื่อง Point of Sale (POS) 24,000 บาท/ปี อายุสัญญา 6 ปี (Renovate ร้านทุก 3 ปี)
#รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ยังไม่รวม Vat) ประมาณ 2,389,000 – 3,729,000 บาท
2.ร้านนอกอาคาร (Stand Alone) 100 – 200 ตร.ม. (รวมสวนหย่อม)
  • ค่าก่อสร้าง, งานตกแต่ง, งานระบบ 1,500,000 – 3,000,000 บาท
  • ค่าออกแบบ ใช้เงินลงทุน 80,000 – 120,000 บาท อุปกรณ์ภายในร้าน 779,000 บาท
  • ค่าประกันแบรนด์ 100,000 บาท
  • ค่าดำเนินการก่อนเปิดร้าน รวมถึง ค่า Set up ร้าน ค่าฝึกอบรมหลักสูตรผู้บริหารร้านเปิดใหม่ ค่า On the Job Training ค่าสำรวจพื้นที่ 80,000 บาท
  • ค่า Franchise Fee 150,000 บาท ค่า Royalty Fee 3% และ ค่า Marketing Fee 3%ของยอดขายรายเดือน
  • ค่าเช่าเครื่อง Point of Sale (POS) 24,000 บาท/ปี อายุสัญญา 6 ปี (Renovate ร้านทุก 3 ปี)
อินทนิล
ภาพจาก https://bit.ly/38Lh4Um
แฟรนไชส์ร้านกาแฟ “อินทนิล” ก่อตั้งและดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชสตั้งแต่ปี 2549 เป็นแฟรนไชส์กาแฟสัญชาติไทยที่ประสบความสำเร็จทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมันบางจากกว่า 700 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นในสถานีบริการน้ำมันบางจาก 450 สาขา และนอกสถานีบริการน้ำมันบางจาก 250 สาขา จึงทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมและเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีใจรักในธุรกิจกาแฟได้เป็นเจ้าของร้านกาแฟ “อินทนิล” ในรูปแบบแฟรนไชส์ “อินทนิล คอฟฟี่” และ “อินทนิล การ์เด้น”
ข้อมูล ณ ปี 2563 บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด คือผู้ใช้แก้วพลาสติกชีวภาพ ที่ย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ด้วยแนวความคิดที่ว่า “เพราะ 1 แก้วของอินทนิล ไม่ใช่แค่การดื่มกาแฟ แต่คือการบริโภคด้วยจิตสำนึกที่ดี ร่วมรับผิดชอบโลกใบนี้ไปพร้อมกัน Inthanin Natural Cup อินทนิลทุกแก้วของคุณ เพื่อโลกของเราทุกคน
บางจากฯ ตั้งเป้าหมายจะขยายสาขาร้านกาแฟอินทนิล เพิ่มเป็น 1,200 สาขาภายใน 5 ปี (2564-2568) จากสิ้นปี 2563 มีอยู่ 700 สาขา หรือจะต้องเปิดเพิ่มอีก 500 สาขาภายในปี 2568 ในอนาคตยังมองโอกาสศึกษาที่จะเข้าไปถึงธุรกิจต้นน้ำของกาแฟเมื่อสามารถผลักดันการขยายร้านกาแฟอินทนิลครบ 1,000 สาขาในปี 2565
 
ที่ผ่านมาแฟรนไชส์ร้านกาแฟอินทนิลได้ส่งมอบประสบการณ์ดีๆ ผ่าน 5 Good Experiences Strategy ทั้ง Good Taste / Good Service / Good Design / Good Health และ Good Society โดยเฉพาะในด้าน Good Taste แฟรนไชส์อินทนิลเลือกบริการเสิร์ฟกาแฟคุณภาพมาตรฐานให้ลูกค้า ด้วยเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100%
2
ภาพจาก https://bit.ly/3psnpM8
บางจากฯ ยังร่วมกับ การบินไทย ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างร้านกาแฟอินทนิล และสินค้า Puff & Pie ร่วมพัฒนาแผนธุรกิจเพื่อการจัดจำหน่ายในร้านกาแฟอินทนิล ทั้งในรูปแบบ Grab & Go และ Shop in Shop รวม 50 สาขาภายในปี 2564 และตั้งเป้าขยายให้ครบ 100 สาขาภายปี 2565 ถือเป็นช่องทางเพิ่มยอดขายให้สาขาแฟรนไชส์อีกด้วย
 
ข้อมูลการลงทุนแฟรนไชส์ ร้านกาแฟอินทนิล
2
ภาพจาก https://bit.ly/3hayTka
  • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้า 200,000 บาท
  • เงินค้ำประกันการบริหารร้าน 100,000 บาท
  • ค่าบริการระบบ Point of sale (POS) รายปี 27,000 บาท
  • ค่าออกแบบ และจัดทำแบบก่อสร้าง 50,000 บาท
  • เงินลงทุนค่าอุปกรณ์การขายและวัตถุดิบ 350,000 บาท
  • ราคาดังกล่าวยังไม่รวมค่าก่อสร้าง และ Vat
#รูปแบบร้านกาแฟอินทนิล
ภาพจาก บางจาก
Size S
  • ขนาด 7-15 ตร.ม.
  • เงินลงทุนเริ่มต้น 1 ล้านบาท
Size M
  • ขนาด 25-40 ตร.ม.
  • เงินลงทุนเริ่มต้น 1.5-2 ล้านบาท
Size L
  • ขนาด 40 ตร.ม. ขึ้นไป
  • เงินลงทุนเริ่มต้น 2 ล้านบาทขึ้นไป
เงื่อนไขธุรกิจแฟรนไชส์อินทนิล
  • ระยะเวลาให้สิทธิ์เครื่องหมายการค้า 6 ปี
  • ค่าส่วนแบ่งรายได้ 6% จากยอดขาบรายเดือน (ก่อนหักค่าใช้จ่าย)
  • บันทึกการจำหน่ายสินค้าผ่านระบบ Point of Sale (POS) ของบริษัทฯ
  • การออกแบบและก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานของบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด
ภาพจาก https://bit.ly/3zSKFqI
นั่นคือ ความเหมือนและจุดเด่นที่แตกต่างของแบรนด์แฟรนไชส์ร้านกาแฟ “คาเฟ่ อเมซอน” และ “อินทนิล” ซึ่งทั้ง 2 แบรนด์อยู่ภายใต้การดำเนินของบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย ซึ่งถือเป็นแบรนด์แฟรนไชส์ที่คนนิยมลงทุนในปัจจุบัน
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
ที่มา : https://bit.ly/3EGEpom
โฆษณา