10 ธ.ค. 2021 เวลา 05:43 • ปรัชญา
#กำเนิดคัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็ง 🌤
.
#ภาคปัจฉิมบท 🔚🔚
สามกระบวนท่าจากเอี้ยก่วยพิชิตยอดฝีมือ
.
...มาต่อกันจากคราวที่แล้วที่เอี้ยก่วยสอนให้ใช้
จิตสำนึกไม่ใช้กำลังกับเตียกุนป้อ
.
เตียกุนป้อนั้นแม้ได้รับการชี้แนะจากเอี้ยก่วย
แต่อย่างไรก็ดีเตียกุนป้อขาดประสบการณ์การต่อสู้
และการฝึกกระบวนท่า เมื่อเจอยอดฝีมือเช่นอีเคอซี
.
ยังคงใช้กระบวนท่าเดิม เมื่ออีเคอซีเห็นเตียกุนป้อ
ยกมือขวาต่อยหมัดซ้ายมายังทรวงอกเขาอีก จึงคาดเดาได้ว่า
เตียกุนป้อต้องวกอ้อมกระแทกใส่ใต้ซอกแขนของเขา
ดังนั้นพลิกฝ่ามือคว้าใส่ข้อมือเตียกุนป้อ
.
ฟาดฝ่ามือขวาออก กระแทกเตียกุนป้อนปลิวลิ่วไปหลายวา
แต่เตียกุนป้อหาได้ย่อท้อไม่ จึงได้ไปวิงวอนเอี้ยก่วย
ให้สอนกระบวนท่าแก่ตนเพิ่มเติม
.
โดยเอี้ยก่วยได้สอนเพิ่มเติมให้สามกระบวนท่า
โดยกระบวนท่าแรกให้ใช้สลับซ้ายขวา เมื่อสอนโดยใช้มือซ้าย
ให้เตียกุนป้อใช้มือขวา
.
เมื่อเอี้ยก่วยโบกแขนเสื้อขวา ให้เตียกุนป้อให้หมัดซ้าย
เมื่อเตียกุนป้อผงกศีกษะจึงเริ่มสอนท่าแรกคือ
.
#คบหาด้วยใจจริง (ชุยซิมตี่ปัก)
.
เตียกุนป้อใช้หมัดผลักฝ่ามือตามเอี้ยก่วยในใจจดจำว่า
ต้องสลับซ้ายขวากัน ส่วนกระบวนท่าที่สองเอี้ยก่วยกำชับว่า
“กระบวนท่าที่สองของข้าพเจ้า ซ้ายเป็นซ้าย
ขวาเป็นขวาไม่ต้องสลับสับเปลี่ยน”
.
กระบวนท่านี้เรียกว่า “ตัดผ่านทุกทิศทาง (สี่ทงโป๊ยตั๊ก)”
สภาวะหมัดโออ่าผ่าเผย มีอานุภาพยิ่งนัก
เตียกุนป้อซ้อมอยู่สองเที่ยวก็จดจำขึ้นใจ
.
กระบวนท่าที่สามคือ “#ผู้ใดเผด็จศึก (ติ้งซี้ซุ้ยชิ่ว)
ให้สลับตำแหน่งหน้าหลัง กระบวนท่านี้ยากลำบากที่สุด
ตำแหน่งห้ามผิดพลาด แม้เตียกุนป้อไม่รู้จักจำแนกจุด
เอี้ยก่วยจึงเสนอว่า จะใช้วิธีทำเครื่องหมายกลางหลัง
ให้เตียกุนป้อกดใส่ตำแหน่งเครื่องหมายนั้น จึงจะสยบอีเคอซีได้
.
ครั้นแล้วเอี้ยก่วย สลัดเท้าหมุนตัว วกซ้ายอ้อมขวา
พลันงอนิ้วข้างซ้ายทำท่าคล้ายกรงเล็บเสือ
ข้อนิ้วของนิ้วกลางกดใส่ทรวงอกของเตียกุนป้อ กระซิบบอกว่า
“กระบวนท่านี้ล้วนอาศัยท่าเท้าพิชิตชัยท่านจำได้หรือไม่”
.
เตียกุนป้อกล่าวว่า “จำได้แล้ว”
.
พลางนึกทบทวนกระบวนท่าทั้งสามในใจเที่ยวหนึ่ง
ขณะที่เอี้ยก่วยสอนกระบวนท่า อีเคอซีเห็นถนัดชัดตา
คิดในใจว่ากระบวนท่าทั้งสามนี้พิสดารจริง
.
หากแม้นเอี้ยก่วยลงมือด้วยตนเอง อีเคอซีกลับยากต้านทาน
แต่เมื่อสำแดงต่อหน้า แถมยังให้เด็กน้อยเตียกุนป้อ
ที่ไม่รู้จักวิชาการต่อสู้ใช้ออก เอี้ยก่วยออกจะดูแคลนตนเกินไป
ยามขุ่นข้องใจ ไม่ครุ่นคิดให้ลึกซึ้ง
.
เห็นเตียกุนป้อเดินเข้าใกล้ไม่รอให้อีกฝ่ายใช้กระบวนท่าออก
ก็ต่อยหมัดใส่หัวไหล่เตียกุนป้อ
.
เตียกุนป้อด้วยเกรงว่ากระบวนท่าที่เอี้ยก่วยสอน
ตนจะลืมเลือนถึงกับเห็นหมัดต่อยมาถึงก็ไม่หลบหลีกต้านทาน
ขบกรามกล้ำกลืนรับไว้
.
หมัดของอีเคอซีตั้งใจสำแดงอานุภาพข่มขวัญ
จึงต่อยออกด้วยพลังห้าส่วน กระแทกจนกระดูกหัวไหล่
เตียกุนป้อลั่นกรอบแกรบ เมื่อเตียกุนป้อร้องโอยคำหนึ่ง
.
จากนั้นซ้ายหมัด👊ขวาฝ่ามือ🤚ใช้ออกด้วยกระบวนท่าแรกนาม
.
#คบหาด้วยจริงใจ (ชุยซิมตี่ปัก)♋️
.
แม้ตอนเอี้ยก่วยถ่ายทอดให้นั้น อีเคอซีเห็นอย่างชัดตา
กำหนดแผนการรับมือไว้แต่แรก
ตระเตรียมว่าเพียงกระบวนท่าแรก ก็จะกระแทกเตียกุนป้อ
ศีรษะแตกโลหิตหลั่งไหล
.
ไม่ปล่อยให้ใช้กระบวนท่าที่สองและสามออกมา
แต่อีเคอซีหาคาดไม่ว่า เตียกุนป้อใช้กระบวนท่า
“คบหาด้วยจริงใจ” กลับสลับกระบวนท่าซ้ายขวา
แตกต่างกับที่เอี้ยก่วยแสดงให้ตนเห็น
อีเคอซีขวางศอกซ้าย เข้าใจว่าสามารถต้านทาน
ฝ่ามือขวาของเตียกุนป้อ มิคาดศอกนี้กระทุ้งใส่อากาศธาตุ
.
เสียงโครม ❗️ เมื่อถูกเตียกุนป้อต่อยใส่หมัดหนึ่ง 👊
จากนั้นมือขวาของอีเคอซีตะปบถูกความว่างเปล่า
.
ที่ท้องน้อยถูกเตียกุนป้อฟาดอีกฝ่ามือ รู้สึกอวัยวะภายในปั่นป่วน
ตลอดทั้งร่างหลังเหงื่อเย็นเยียบออกมา😰 ถูกต่อยฟาดสาหัสไม่เบา
หากอีเคอซีไม่อวดฉลาด รอจนกระบวนท่าของเตียกุนป้อจู่โจมมาถึง
ค่อยคลี่คลายสาย อย่างนั้นเพลงหมัดที่เตียกุนป้อร่ำเรียนมา
แม้พิสดารล้ำ แต่ด้วยพลังฝีมือของเตียกุนป้อตอนนี้
ยังไม่สามารถใช้กระบวนท่าดุจสายฟ้า
อีเคอซีสามารถคลี่คลายอย่างปลอดโปร่ง
ต่อให้ถูกต่อยหมัดใส่ก็สามารถหลบรอดจากท่าฝ่ามือ
เตียกุนป้อเมื่อลงมือประสบผล ถึงกับคึกคักอักโข
สืบเท้าออกไปหนึ่งก้าวใช้ออกด้วยท่าท่าที่สอง
.
#ตัดผ่านทุกทิศทาง (สี่ทงโปยตั๊ก) ✴️
.
เพลงหมัดนี้แม้มีเพียงท่าเดียวแต่ครอบคลุมทิศ
ตะวันออก ตก เหนือ ใต้ และตำแหน่งโป๊ยข่วย
.
ซึ่งประกอบด้วยประตูฮิว แซ เซีย โต่ว ซี้ เก้ง เกีย ไค
อีเคอซียังปวดแปลบที่ทรวงอกท้องน้อย เตียกุนป้อใช้ท่าร่างแผ่วพลิ้ว
จู่โจมเข้ามาอีกครา อีเคอซีคาดว่า
เพลงหมัดที่เอี้ยก่วยถ่ายทอดให้ต้องสลับซ้ายขวา
.
โดยคาดเดาจากระบวนท่าแรกที่ตัวเองพึ่งพลาดพลั้งไป
จึงเข้าใจว่ากระบวนท่าที่สองนี้ยังคงตั้งอยู่ในหลักการเดียวกันเป็นแม่นมั่น
.
มิคาดว่ากระบวนท่าที่สองของเตียกุนป้อไม่สับเปลี่ยนตำแหน่ง
ดังนั้นอีเคอซีพอคำนวณผิดพลาดก็ถูกมัดมือมัดเท้า
กระบวนที่ใช้ล้วนจู่โจมใส่อากาศธาตุ ได้ยินเสียงดัง เพียะ ❗
.
ไหล่ซ้าย เท้าขวา ทรวงอก กลางหลัง ล้วนถูกฝ่ามือฟาดใส่
แม้เตียกุนป้อลงมือย่างรวดเร็ว แต่มิได้ใช้พลังลมปราณออก
มาตรแม้นอีเคอซีถูกฟาดใส่ 4 ฝ่ามือ ยังไม่เจ็บปวดมากนัก
เพียงแต่มือไม้ปั่นป่วนเท่านั้น
กั๊กเอี้ยงไต้ซือด้วยความซื่อ และตกตะลงในกระบวนท่า
ถึงกับร้องบอกอีเคอซีว่า
.
“ อีกือสือ คราครั้งนี้ท่านผิดแล้ว
ควรทราบว่าซ้ายขวาหน้าหลัง กำหนดไม่แน่นอน
ใช้ออกทีหลังสยบคน ใช้ออกก่อนถูกผู้คนสยบไว้ ”
.
หลักการเช่นนี้ เป็นหลักการพิสดารแห่งวิชาฝีมือ
มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เอี้ยก่วยเพียงได้ฟัง
ยังต้องรู้สึกประหลาดใจรู้สึกว่ากักเอี้ยงไต้ซือ
รู้ซึ้งถึงหลักพิสดารแห่งเพลงหมัด
.
หากแต่เป็นเช่นนี้ออกจะน่าประหลาดใจ
ที่ชี้แนะแก่ฝ่ายตรงข้ามของลูกศิษย์ตนเอง
.
แต่อีเคอซีในเวลานั้น พลังการฝึกปรือยังไม่เพียงพอ
ทำให้ไม่สามารถเข้าใจถึงหลักการพิสดารเช่นนี้ได้
จึงโดนเตียกุนป้อเตะใส่เท้าหนึ่ง
.
มาถึงตอนนี้อีเคอซีเดือดดาลคลุ้มคลั่ง
มิสนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆอีกแล้ว
ยกชูสองมือขึ้น ตระเตรียมรับอีกฝ่ายหมัดหนึ่ง
พร้อมเกร็งกำลัง 10 ส่วน
กระแทกฝ่ามือจู่โจมลงจากกลางอากาศ
ด้วยพลังที่หนักหน่วงดุจขุนเขาสายหนึ่ง
.
ยามนี้เตียกุ้นป้อตกอยู่ภายใต้รัศมีพลังฝ่ามือของอีเคอซี
กระบวนท่าที่สามมิทันได้ใช้ออก สถานการณ์ก็ย่ำแย่แล้ว
แต่กักเอี้ยงไต้ซือ ยังชี้แนะลูกศิษย์ว่า
.
“กุนป้อ กำลังของเราเชื่อมต่อกำลังอีกฝ่าย
ในความคดเคี้ยวแสวงหาทางตรง คิดยืมกำลังฟาดใส่ผู้คน
ต้องใช้วิธีสี่ตำลึงปาดพันชั่ง (สี่เนี่ยผัวะโชยกึง) ”
.
นี่เป็นแก่นแท้ของวิชาฝีมือหมัดมวย ซึ่งบันทึก
อยู่ในคัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็ง น่าเสียดายยามนี้เตียกุนป้อ
อยู่ในสถานการณ์วิกฤต ไม่สามารถคลี่คลายพลังฝ่ามือ
ของอีเคอซีที่กดคุกคามจนแทบหายใจไม่ออก
ห้วงสมองเตียกุนป้อเวิ้งว้างว่างเปล่ายิ่ง
.
ยามนี้อีเคอซี คิดทำลายเด็กหนุ่มผู้นี้ให้ย่อยยับอับปางถึงแก่ชิวิต
แต่น่าเสียดาย เสียงซี่ เบาๆ หินเล็กๆก้อนหนึ่งพุ่งจากด้านขวาง
ซัดใส่แก้มซ้ายของเขา
.
ก้อนหินแม้เล็กยิ่ง กลับแฝงพลังรุนแรงอย่างยิ่งยวด
เพราะเป็นวิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์👌✨
.
ที่เอี้ยก่วยใช้ดีดพุ่งออกไป อีกเคอซีจึงได้แต่อับจนปัญญา
ถอยกายไปหนึ่งก้าวหลบเลี่ยง
.
แต่ก่อนที่เอี้ยก่วยจะดีดพุ่งก้อนหิน
ในมือได้เด็ดดอกไม้ป่ามาหลายดอก 🌺
ขยำเป็นก้อนกลม พอพุ่งก้อนหินออกใส่แก้มซ้ายของอีเคอซี
ก้อนกลมกลีบบุปผาก็พุ่งผ่านกลางหลังของเขา☄️
.
เนื่องจากอีเคอซีถอยหลบก้อนหินไป 1 ก้าว
จึงพอดีเสนอจุดไต้จุยบริเวณใต้ลำคอต่อ
ก้อนกลมกลีบบุปฝาที่เอี้ยก่วยดีดออกไป
.
อีเคอซีจึงไม่รู้สึกตัวเพียงแต่บนเสื้อผ้าสีเทาที่สวมใส่
ถูกหยดน้ำดอกไม้ที่พุ่งออกจากกลีบบุปผาประทับเป็นรอยสีแดงวงหนึ่ง
.
เตียกุนป้อ พอสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย
จึงใช้กระบวนท่าที่สาม
“#ผู้ใดเผด็จศึก (ติ้งซี้ซุ้ยซิ่ว)”🐅
.
อีเคอซีต้องงงงันอีกคราหนึ่ง เพราะกระบวนท่าแรกใช้สลับซ้ายขวา
กระบวนท่าที่สองไม่สลับสับเปลี่ยน
กระบวนท่าที่สามจึงรอคอยเพื่อศึกษาสภาวะเพื่อกำหนดยุทธวิธีรับมือ
ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีมากในสถานการณ์เช่นนี้
เพียงแต่เอี้ยก่วยนั้น คาดคำนวณไว้ก่อนแล้ว
.
ว่าอีเคอซีจะรีรอลังเล ดังนั้นกระบวนท่าผู้ใดเผด็จศึกนี้
บุกซ้ายทะลวงขวา ช่วงชิงเป็นฝ่ายรุกทุกย่างก้าว⚡️
ไหนเลยอนุญาตให้อีเคอซีรั้งรอได้
.
เมื่อเตียกุนป้อ วกซ้าย อ้อมขวาถึงด้านหลังอีเคอซี
ยามนั้นแสงจันทร์เคลื่อนคล้อยส่งต้องแผ่นหลังของอีเคอซี
เห็นเสื้อผ้าใต้คอมีรอยคราบสีแดงขนาดเท่านิ้วมือรอยหนึ่ง⭕️
.
เตียกุนป้อถึงกับคิดในในว่าเอี้ยก่วยนั้นมากอิทธิฤทธิ์
ไม่ได้ขยับเขยื้อนแต่สามารถทำเครื่องหมายที่กลางหลังอีเคอซีได้
.
ยามนั้นเตียกุนป้อไม่ขบคิดใคร่ครวญ
งอข้อนิ้วมือซ้ายเป็นรูปกรงเล็บเสือ
ใช้จิตสำนึกถ่ายทอดพลังลมปราณ กดใส่รอยคราบสีแดงนั้น
เตียกุนป้อ.
จุดไต้จุยนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะอยู่บนกระดูกสันหลังท่อนแรกใต้กระดูกก้านคอ ร่างกายผู้คนประกอบด้วยกระดูกสันหลัง 24 ท่อน
ตำราแพทย์แผนโบราณขนานนามว่า 24 ฤดูกาล
จุดไต้จุยเป็นฤดูกาลแรก และเป็นจุดบรรจบกัน
ระหว่างชีพจรซาเอี๊ยงต๊กแมะของมือเท้า
จุดไต้จุยของอีเคอซีถูกพลังลมปราณกดไว้ถึงกับบังเกิดอาการชาด้าน
มือเท้าก่อนเปลี้ยเพลียแรง ร่างล้มระทวยกับพื้น
.
เหล่าพวกยอดฝีมือห้าทิศ ต่างโห่ร้องชมเชย 👍
ยกเว้นเพียงเเต่เซียวเซียงจื้อเท่านั้น
เตียกุนป้อเห็นว่าศัตรูไม่สามารถต่อต้านได้
จึงทำการค้นตัวอีเคอซี แต่ก็ไม่พบคัมภีร์เล้งเกียเก็งแม้แต่เงา
.
เซียวเซียงจื้อรู้ชะตาตนเอง จึงแสดงความบริสุทธิ์ใจตบชุดยาว
ว่าไม่มีเช่นกันพร้อมกับบังเกิความคิดชั่วช้า
วิ่งหนีไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
เป็นกักเอี้ยงไต้ซือโบกแขนจีวรขวางไว้
เซียวเซียงจื้อจึง ทุ่มเทพลังลมปราณ
สองมือปาดใส่ทรวงอกกักเอี้ยงไต้ซือ
พร้อมกับลมเย็นยะเยือกหอบหนึ่ง
แต่กักเอี้ยงไต้ซือฝึกปรือเคล็ดวิชาในคัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็งสำเร็จ
ภายในกายมีพลังลมปราณ
โคจรหมุนเวียน พลังฝ่ามือพอกระแทกใส่ร่างของท่าน
ล้วนสะท้อนย้อนกลับมา
.
กลับกลายเป็นเซียวเซียงจื้อทุ่มเทพลังฝ่ามือชั่วชีวิต
ฟาดใส่ร่างตัวเองร่างของเซียวเซียงจื้อจึงปลิวลิ่วไปดุจว่าขาดป่าน
.
ร่วงฟาดกับพื้นที่ห่างไกลไปหลายวา
นอนขดตัวเป็นก้อนกลมสิ้นสติไป
.
#ความช่างสังเกตของอึ้งย้ง 🤔
.
ทุกคนแม้ชื่นชมในพลังภายในของกักเอี้ยงไต้ซือ
แต่เป็นขงเบ้งหญิง อึ้งย้งเกิดความสงสัยว่า❓❓
ในคัมภีร์เล้งเกียเก็งสอดไว้ด้วยคัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็ง
แต่ปรมาจารย์ตั๊กม้อเป็นชาวชมพูทวีป ย่อมต้องเขียนเป็นภาษาสันสกฤต
เตียกุนป้อคาดว่าได้รับการชี้แนะจากกักเอี้ยงไต้ซือ
แต่อีเคอซี และเซียวเซียงจื้ออ่านภาษาสันสกฤตไม่ออก
ได้มาก็คงเปล่าประโยชน์
.
เนื่องจากอึ้งย้งคาดว่าปรมาจารย์ตั๊กม้อแม้พูดภาษาฮั่น
แต่เขียนภาษาฮั่นมิได้ กั๊กเอี้ยงไต้ซือจึงชี้แจงว่า
.
ตอนแรกที่ปรมาจารย์ตักม้อมาถึงแผ่นดินจงหยวน
เป็นยุคเนี่ยบู๊ตี่ฮ่องเต ตอนนั้นจงหยวนจัดทำกระดาษได้แล้ว
ทางชมพูทวีปยังไม่มีกระดาษพระคัมภีร์ทั้งหมด
ล้วนใช้ปลายเข็มปักบนใบป๋วย
(ใบ้ไม้ชนิดหนึ่ง ผลเรียกว่า ชวนป๋วยใช้แก้อาการขับเสมหะ)
.
เป็นภาษาสันสกฤต ใบป๋วยแตกได้โดยง่าย
ไม่สะดวกกับการพลิกอ่าน
.
หลังจากนั้นท่านปรมาจารย์ข้ามลำน้ำมาถึงวัดเส้าหลิน
หลวงจีนรุ่นก่อนจึงนำกระดาษขาว📃
มาคัดลองพระคัมภีร์ที่เป็นภาษาสันสกฤต
จากนั้นเย็บรวมเป็นเล่ม กลายเป็นพระคัมภีร์เล้งเกียเก็ง
พระคัมภีร์เล้งเกียเก็งเว้นกระดาษขาวไว้ไม่น้อย
ไม่ทราบเป็นยอดคนท่านใด ใช้ช่องว่างนั้น
เขียนเป็นคัมภีร์เก้าอิมจินเก็ง (คัมภีร์นวภพ) ด้วยภาษาฮั่น
เตียบ่อกี้
.
บอกว่ามีประโยชน์ในการเสริมสร้างสุขภาพ
เป็นแนวทางฝึกวิชากำลังภายใน
กักเอี้ยงไต้ซือได้รับคำสั่งให้ดูแลปัดกวาดหอเก็บคัมภีร์
มีโอกาสพลิกอ่านพระคัมภีร์ภายในหอ
ท่องจำคำสอนของหลวงจีนทุกรุ่นจนขึ้นใจ
.
ซึ่งรวมถึงบันทึกในคัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็ง
ซึ่งได้แต่ท่องเคล็ดวิชาฝีกปรือตามแนวทางยามอยู่ว่าง
จึงถ่ายทอดแก่เตียกุนป้อลูกศิษย์บ้าง
เเม้ได้รับชัยชนะเเต่เตียกุนป้อ เเละกักเอี้ยงไต้ซือ
ก็ไม่สามารถค้นหาคัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็งคืนเเก่วัดเส้าหลินได้
ทำให้คัมภีร์นี้สูญหายไปจากยุทธภพ...
.
#เก้าเอี้ยงจินเก็งปรากฏอีกครา
.
ส่วนคัมภีร์นั่นหายไปไหน คำตอบกลับปรากฏในอีก 90 ปี ต่อมา
เมื่อปรากฏบุรุษหนุ่มนาม #เตียบ่อกี้ ได้ผ่าตัดรักษาค่างขาวสูงอายุ
แสนรู้ เพื่อรักษาโรคฝีร้ายแรงพลันพบ
ห่อผ้าน้ำมันซุกอยู่ในท้องค่างขาวตนนี้เอง
.
ที่แท้เซียวเซียงจื้อ กับอีเคอซีเมื่อขโมยคัมภีร์เล่มนี้
และถูกกักเอี้ยงไต้ซือติดตามถึงยอดเขาฮั้วซัว
เมื่อเห็นแน่ชัดว่าไม่สามารถหลบหนีได้
ประจวบกับข้างกายมีค่างตัวหนึ่ง เซียวเซียงจื้อกับอีเคอซี
ผ่าท้องของค่างซุกซ่อนคัมภีร์อยู่ข้างใน
.
เมื่อกักเอี้ยงไต้ซือ เตียซำฮง (กุนป้อ)
และเอี้ยก่วยค้นตัวทั้งสองไม่พบคัมภีร์
จึงปล่อยให้ทั้งสองนำค่างลงจากเขาไป
.
ต่อมาทั้งสองนำค่างออกเดินทางไกลถึงแดนไซฮก
ทั้งคู่ล้วนกริ่งเกรงอีกฝ่ายหนึ่งฝึกปรือวิชาในคัมภีร์ใช้ทำร้ายตนเอง
จึงไม่ยอมนำคัมภีร์ออกจากท้องค่าง
สุดท้ายมาถึงยอดเขาเกียซิ้งฮงภูเขาคุนลุ้น
เซียวเซียงจื้อกับอีเคอซีลอบทำร้ายซึ่งกันและกัน
จนรับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย พลังฝีมือของเซียวเซียงจื้อ
แม้เหนือกว่าอีเคอซีขั้นหนึ่ง แต่ตอนอยู่บนยอดเขาฮั้วซัว
ได้ต่อยใส่กักเอี้ยงไต้ซือหมัดหนึ่ง
ถูกกระแทกสะท้อนกลับจนรับบาดเจ็บสาหัส
ดังนั้นพอต่อสู้กับอีเคอซีกลับเสียชีวิตก่อน
.
อีเคอซีก่อนตาย พบพบพานสามศักดิ์สิทธิ์คุนลุ้นฮ่อจกเต๋า
บังเกิดความไม่สบายใจ ขอให้ฮ่อจกเต๋าเดินทางสู่วัดเส้าหลิน
.
แจ้งต่อกักเอี้ยงไต้ซือว่าคัมภีร์เล่มนั้นอยู่ในท้องของลิงค่าง
แต่ตอนกล่าววาจาสติเลอะเลือน
ฮ่อจกเต๋ากลับฟังเป็นว่า “คัมภีร์อยู่ในน้ำมัน”
ฮ่อจกเต๋ารักษาคำมั่นสัญญาเดินทางไกลถึงตงง้วน
เพื่อถ่ายทอดคำพูด
.
“คัมภีร์อยู่ในน้ำมัน”ต่อกักเอี้ยงไต้ซือ
แต่กักเอี้ยงไต้ซือไม่เข้าใจความหมายในวาจา
.
สุดท้ายกลับก่อเกิดเป็นมรสุมอันปั่นป่วน
เป็นเหตุให้ยุทธจักเพิ่มสำนักบู๊ตึ้ง และง่อไบ๊ขึ้นมา
(เรื่องราวช่วงนี้ข้าพเจ้าขอเล่าในภาคก๊วยเซียง)
.
ด้วยเหตุนี้คัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็งจึงฝากอยู่ในท้องค่างขาว
จนเตียบ่อกี้ผ่าท้องนำคัมภีร์ออกมา ส่งผลให้กลายเป็นยอดฝีมือ
แห่งมังกรหยกในยุคที่สาม ในภาค “ดาบมังกรหยก”
.
จบเรื่องราวของกำเนิดคัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็งครับ
หวังว่าเหล่าสหายชาวยุทธที่รับชมทั้งซีรีย์เเละภาพยนตร์
จะมีประโยชน์เเก่ทุกท่านขอรับ
เนื่องจากคราวที่เเล้วลงรูปตามจินตนาการ
ทำให้หลายท่านสับสนรอบนี้จึงขอลงรูปในซีรีย์ขอรับ
☀ ☀ ☀ ☀
.
🍶ขอคารวะเหล่าสหายชาวยุทธทุกท่าน🍶
.
อนันตทวิ☯
.
.
*ขอบคุณภาพจากซีรีย์ดาบมังกรหยก*
โฆษณา