#ก๊วยเซียง ตอนที่ 1️⃣
.
#ภูตบูรพาน้อย #ก๊วยเซียง 👧
ก๊วยเซียง ภูตบูรพาน้อย นับว่าเป็นคนที่อยู่ในยุคสมัยปลายราชวงศ์ซ่ง ต้นราชวงศ์หยวน
ก๊วยเซียงนั้นเป็นผู้ก่อตั้งสำนักง๊อไบ้ ซึ่งกาลต่อมาเป็น 1 ใน 6 สำนักใหญ่
ในเรื่องราวของดาบมังกรหยก
.
ก๊วยเซียง เป็นบุตรีของก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้ง มีฝาแฝดคือก๊วยพั่วลู่
ชื่อเซียง นั้น อึ้งย้งตั้งตามเมืองเซียงเอี้ยง
ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของแผ่นดินจงหยวนในขณะนั้น
เรียกได้ว่าเกิดมาพร้อมกับสถานการณ์สงครามแผ่นดิน
……
กำเนิดก๊วยเซียง 👶
.
ก๊วยเซียงนั้น ยามแรกเกิด กิมลุ้นก๊กซือราชครูมองโกล
ประสงค์จะลอบกำจัดก๊วยเจ๋งผู้เป็นบิดา
ทำให้อึ้งย้งนั้นเมื่อรับเหตุเปลี่ยนแปลง
โดยต้องคลอดก่อนกำหนด ด้วยสถานการณ์ที่คับขัน
ขื่อใกล้ถล่มลงมา เป็นเซียวเล้งนึ่งอุ้มก๊วยเซียง
พ้นจากภยันตรายช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
.
ต่อมาเอี้ยก่วยด้วยเผชิญการกลุ้มรุมจากพวกกิมลุ้นก๊กซือ
เพื่อความปลอดภัยของนาง จึงยื่นส่งให้ลี้มกโช้วรับนางไปดูแล
เเละเป็นเอี้ยก่วยกับลี้มกโช้ว ที่จับแม่เสือดาว🐆
เพื่อให้นมกับก๊วยเซียงอีกด้วย
.
ลี้มกโช้วแม้เป็นนางมารร้ายฆ่าคนไม่กะพริบตา
แต่กับก๊วยเซียงนั้น กลับเอ็นดูรักใคร่
นับว่าก๊วยเซียงเป็นคนมีเสน่ห์
ให้ผู้พบเห็นนึกเอ็นดูตั้งแต่แรกพบ💗
#พานพบจอมยุทธ์เจ้าอินทรี 🦅
.
กาลเวลาผ่านไปดั่งเหินบิน 10 กว่าปี ผ่านไป
ในสมัยลี่จง ฮ่องเต้ แห่งราชวงศ์ซ้อง
ตรงกับปีที่เก้าที่ท่านข่านมองโกลนามมองเกอขึ้นครองตำแหน่ง
เป็นเวลาเดือนสองต้นวสันตฤดู
ณ ท่าข้ามฮ้วงเล้งโต่ว ภายในโรงเตี๊ยม อันโต่วเล่าเตี๊ยม 🏚
(โรงเตี๊ยมเก่าข้ามปลอดภัย)
.
ปรากฏสตรีสดใสสะคราญ สวมเสื้อนวมหนังสีเขียวอ่อน
ที่ลำคอคล้องไข่มุกพวงหนึ่งขนาดเท่านิ้วก้อย
เปล่งประกายอ่อนจาง
.
เป็น ก๊วยเซียง ซึ่งเติบโตแล้ว นางได้รับคำสั่งของบิดามารดา
ให้เดินทางไปยังเมืองจิ่นเอี้ยงพร้อมกับก๊วยพู้พี่สาว
และก๊วยพั่วลู่ ฝาแฝดของตน เพื่อเรียนเชิญผู้อาวุโสสำนักช้วนจิน
นาม ผู้อมตะคูชู่กี จัดการชุมนุมผู้กล้าที่เมืองเซียงเอี้ยง
พอดีกลับจากเมืองจิ่นเอี้ยงลงสู่ใต้
พลันถูกหิมะน้ำแข็งกักไว้ ณ ท่าข้ามฮ้วงเล้งโต่ว ☃️
.
นางพลันได้ยินเรื่องราวของ
ซิ้งเตียวไต้เฮียบ (จอมยุทธ์เจ้าอินทรี)
ด้วยความมีนิสัยประหลาดดั่งท่านตา
และด้วยความใจกล้าและเยาว์วัยมิกลัวสิ่งใด
นางจึงพลันติดตามปีศาจหัวโต ผู้เป็น 1 ใน 10 ของหนึ่งรังปีศาจเขาประจิม
ไปเพื่อเจอกับจอมยุทธ์เจ้าอินทรี
.
ต่อมานางได้ยินเสียงกู่อันสดใสเย็นชาดังขึ้น
พอเงยหน้าขึ้น นางพลันเห็นคนผู้หนึ่ง ที่ข้างกายมีอินทรีมหึมาและอัปลักษณ์สุดทนตัวหนึ่ง คนผู้นี้สวมชุดยาวสีเทา
สอดแขนเสื้อข้างขวาอยู่ในสายรัดเอว แสดงว่าแขนขาดจริงๆ
.
ก๊วยเซียงพอมองดูโฉมหน้าของคนผู้นี้ อดสยิวกายมิได้ด้วย
ด้วยคนผู้นี้หน้าเหลืองซีด ตายด้านซึมเซา นางพลันครุ่นคิด
.
“ในโลกกลับมีคนหน้าตาอัปลักษณ์ถึงเพียงนี้ ”👹
.
นางอดมองดูอีกแวบหนึ่งมิได้ เห็นดวงตาของเขาสาดประกายเจิดจ้า
แฝงอำนาจคุกคามคน ประกายตาที่คล้ายสายฟ้าคู่นั้น ⚡️
หยุดนิ่งบนใบหน้านางแวบหนึ่ง คล้ายประหลาดใจอยู่บ้าง
.
ก๊วยเซียงรู้สึกหัวใจร้อนวูบ สองข้างแก้มแดงซ่าน
ต้องก้มศีรษะต่ำ มีความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่า
ชาวยุทธ์เจ้าอินทรีผู้นี้กลับไม่อัปลักษณ์เท่าใด
.
นางนั้นเมื่อได้พบเจอจอมยุทธ์เจ้าอินทรี
ที่มีความประพฤติเป็นวีรบุรุษผู้กล้า ช่วยเหลือผู้คนตกยาก
นับเป็นพฤติการณ์ของ “จอมยุทธ์” อย่างแท้จริง
.
ภายหลังนางคงคาดคิดไม่ถึงว่าดวงจิตนางจะผูกพันกับเอี้ยก่วยอย่างแน่วแน่
เมื่อไปถึงหุบเขาร้อยบุปฝา กับจอมยุทธ์เจ้าอินทรี
.
ซึ่งบัดนี้นางเรียกว่า “ตั่วกอกอ (พี่ชายใหญ่)”
.
พลันเห็น จอมยุทธ์เจ้าอินทรีเอี้ยก่วยต่อสู้กับจิวแป๊ะทง
ด้วยวรยุทธ์ของเฒ่าผู้มีนิสัยดั่งทารกนี้สูงเยี่ยม
ตั่วกอนางจึงใช้ยอดวิชาที่บัญญัติเองนาม
.
“#ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย” เข้าต่อกร
เมื่อพลันเห็นตั่วกอของนางบอกชื่อกระบวนท่า
ในเพลงฝ่ามือที่บัญญัติขึ้น
.
“... ลืมกินไม่หลับนอน ...เงาโดดเดี่ยวร่างเดียวดาย
....กลืนความแค้นไม่ออกปาก... จิตทั้งหกไม่สงบ..
อับจ้นสิ้นหนทาง...หน้าไร้แววผู้คน... จิตฟุ้งซ่านรัญจวน
...ตะลึงงันราวไก่ไม้ ”
.
ก๊วยเซียงบังเกิดความหดหู่ใจ🥺 ชื่อของกระบวนท่าเหล่านี้
ฟังแล้วเศร้ากำสรดวิญญาณสลาย สมชื่อจริงๆ
นางจึงถามตั่วกอกอของนาง เรื่องฮูหยินของเขาว่า
.
“ท่านรู้จักนางได้อย่างไร”
.
เอี้ยก่วยจึงบอกเล่าเรื่องราวของตนเองตั้งแต่เยาว์วัยว่า
เป็นกำพร้าเดียวดายอย่างไร ร่ำเรียนวิชาฝีมือที่สำนักช้วนจินอย่างไร
ถูกซือแป๋ที่สำนักช้วนจินข่มเหงรังแก จึงหลบหนีเข้าสุสานโบราณ
ได้รับการอุปการะจากเซียวเล้งนึ่ง นานเข้าบังเกิดเป็นความรัก
ผ่านอุปสรรคนานัปการค่อยแต่งงานเป็นสามีภรรยาให้ทราบโดยคร่าวๆ
.
ก๊วยเซียงฟังแล้วบังเกิดความตื้นตันใจในรักแท้ของเอี้ยก่วย จึงกล่าวว่า
.
“หวังว่าสวรรค์ปกป้องคุ้มครอง ดลบันดาลให้ท่านได้พบกับนาง
นับแต่นี้ไม่พรากจากกันอีก”
.
เอี้ยก่วยจึงกล่าวขอบคุณนาง ก๊วยเซียงจึงกล่าวถึงวันเกิดของนาง
ปีนี้นางจะอธิษฐานให้ตั่วกอกอกับฮูหยินของเขา
ได้ครองคู่อยู่ร่วมกันโดยเร็ว
.
เอี้ยก่วยเห็นนางมีน้ำใจอันระอุต่อตนถึงเพียงนี้
จึงล้วงกล่องใบเล็กๆจากอกเสื้อ
คีบเข็มทองซึ่งเซียวเล้งนึ่งใช้เป็นอาวุธออกมาสามเล่ม
ยื่นส่งต่อก๊วยเซียง
.
เพื่อให้นางมีสิทธิขอร้องไหว้วานต่อตนถึงสามประการ
โดยไม่เกี่ยงว่าจะบุกน้ำลุยไฟ
.
เอี้ยก่วยหาคาดคิดไม่ว่า ก๊วยเซียงมีนิสัยประหลาด
และตามใจตนเองเป็นอย่างยิ่ง
.
เข็มแรกคือขอดูหน้าตนเอง เอี้ยก่วยจึงปลดหน้ากากลง
ก๊วยเซียงพลันเห็นใบหน้าอันซูบสดใส คมคาย
คิ้วเรียวจรดจอน ดวงตาเป็นประกายใบหนึ่ง
เพียงแต่หน้าขาวซีดอิดโรยอยู่บ้าง
นางไม่คาดคิดว่าเอี้ยก่วยจะหล่อเหลาถึงเพียงนี้
.
เอี้ยก่วยยังต้องประหลาดใจอีกครั้งเมื่อก๊วยเซียงใช้เข็มเล่มที่สองเพื่อให้ตนเองไปงานวันเกิด ที่เมืองเซียงเอี้ยง...
ณ เมืองเซียงเอี้ยงซึ่งชุมนุมคับคั่งด้วยยอดฝีมือ ⛩
.
เพื่อเลือกผู้นำชาวยุทธและประมุขพรรคกระยาจกคนใหม่
แทนที่ลู่อู่คาซึ่งถูกฮั่วตูสังหารไป
.
เอี้ยก่วยกลับทุ่มเทแรงกายและแรงใจเพื่อก๊วยเซียง
จัดหาของขวัญวันเกิดให้แก่ก๊วยเซียงได้อย่างหมดจดเอิกเกริก
.
เป็นเกียรติแก่นางเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการสังหารทัพมองโกล
และระเบิดคลังแสง🔥 ป้องกันชีวิตชาวเมืองเซียงเอี้ยง
.
ซึ่งเป็นชื่อของเทพธิดาน้อยที่ตนเคยอุ้มชูเลี้ยงดูมา
รวมทั้งจัดการราชบุตรฮั่วตูผู้ฆ่าลู่อู่คา ผู้เป็นทั้งลุงและสหายของตน
.
รวมทั้งมีการเปิดการแสดงหุ่นเชิดเป็นเรื่องแปดเซียนอวยพรวันเกิด
มีละครงิ้ว เรื่อง #มั่วชึ้งฮุก
ซึ่งเป็นเรื่องราวของก๊วยจื้องี้ เจ็ดบุตรชายแปดบุตรเขยพากันอวยพรวันเกิด
(มีความหมายถึงอายุมั่นขวัญยืน มากด้วยลาภยศสรรเสริญ)
.
ก๊วยเซียงเห็นเอี้ยก่วยคิดอ่านให้แก่นางรอบคอบถึงเพียงนี้
สองตาถึงกับเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำแห่งความปีติ
.
ครั้นเมื่อครบกำหนดนัดสิบหกปีของเอี้ยก่วยกับเซียงเล้งนึ่ง
เอี้ยก่วยเมื่อมิพานพบเซียวเล้งนึ่งผู้เป็นภรรยา
ด้วยความโศกเศร้าเอี้ยก่วยจึงกระโดดตามเซียวเล้งนึ่ง
ลงไปยังหน้าผาของหุบเขาสิ้นไมตรี
.
ก๊วยเซียงเมื่อเห็นดังนั้น จึงกระโดดตามเอี้ยก่วยลงสู่ก้นหุบเหว
เมื่อถึงก้นหุบเหวนางจึงล้วงเข็มทองเล่มที่สามออกมา
กล่าวกับเอี้ยก่วยว่าอย่าได้คิดสั้นฆ่าตัวตาย
.
นับเป็นเข็มทองเข็มที่สามนี้เอง
ซึ่งกลับนำพาให้ตั่วกอกอของนางรักษาชีวิต
จนได้พานพบเซียวเล้งนึ่ง ยอดดวงใจของเขา
.
ผ่านพ้นภยันตราย
ต่อมานางถูกกิมลุ้นก๊กซือจับตัวไป
เพื่อบีบบังคับให้ก๊วยเจ๋งและอึ้งย้งยอมสยบต่อมองโกล
.
แม้งั่วกง (ตา) และบิดามารดา จะพยายามยกทัพมาช่วยเหลือนาง
แต่ด้วยข่านมองโกลได้ลอบโจมตีเมืองเซียงเอี้ยง
ก๊วยเจ๋งจึงห่วงความปลอดภัยของเมืองเซียงเอี้ยง
ยกกำลังกลับเพื่อไปเฝ้ารักษาเมือง
.
ก๊วยเซียงถูกพันธนาการอยู่บนหอสูง
เห็นบิดามาราดับงั่วกงล้วนไม่สามารถขึ้นมาช่วยเหลือ
ควันหนาทึบ เปลวไฟอัคคีโอบล้อมชั้นล่างของหอไว้
นางทราบว่าอีกชั่วพริบตานางต้องถูกไฟคลอกตาย
.
ตอนแรกนางย่อมประหวั่นลนลาน แต่เหตุการณ์พอกรายมาถึง
จิตใจกลับสงบเยือกเย็นลงทอดตามองไปยังทิศเหนือ
เห็นที่ราบกว้างไพศาลทิวทัศน์ตระการปานภาพวาด
ต้องครุ่นคิดว่า
.
“โลกศิวิไลซ์ถึงเพียงนี้ แต่เรากลับใกล้ตายแล้ว
เพียงไม่ทราบตอนนี้ตั่วกอกออยู่ที่ใด ขึ้นมาจากก้นหุบเหวหรือไม่?”
.
นางพลันคิดถึงเหตุการณ์ที่อยู่ร่วมกับเอี้ยก่วยหลายวัน
มาตรว่านับแต่นี้ไม่มีโอกาสพบหน้ากัน
แต่การพบกันทั้งสามครั้งก็เพียงพอกับการประโลมใจไปชั่วชีวิต
.
มาตรแม้นนางในตอนนี้ตกอยู่ในห้วงอันตราย
จิตใจกลับสงบสุขผิดธรรมดา หาได้กังวลสนใจ
ต่อสภาพสัประยุทธ์ของกองทัพทั้งสองฝ่ายที่ใต้หอไม่
.
ขณะที่ความคิดคำนึงของนางล่องลอยไปถึงหุบเหวลึก
นางพลันได้ยินเสียงกู่ร้องสดใดกังวานดังมา‼️
พริบตานั้นเสียงประหัตประหารฆ่าฟันของไพร่พลหลายหมื่น
คล้ายถูกกลบบังไปสิ้น
.
เป็นเอี้ยก่วยและนกยักษ์ พร้อมสตรีโฉมสะคราญนางหนึ่ง
มาช่วยเหลือนาง นั่นคือฮูหยินของตั่วกอกอของนาง
.
นาม #เซียวเล้งนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่เคยโอบอุ้มนางเมื่อเป็นทารกเช่นกัน
เมื่อเอี้ยก่วยใช้ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายได้ชัยต่อกิมลุ้นก๊กซือ
ก๊วยเซียงจึงได้เห็นหน้าเซียวเล้งนึ่งจึงกล่าวว่า
.
“เอี้ยตั่วซ้อ ท่านงดงามจริงๆ “
.
เซียวเล้งนึ่งพลันขอบใจที่ก๊วยเซียงอธิษฐานให้เอี้ยก่วย
กับตนพบกันใหม่ เซียวเล้งนึ่งกุมมือก๊วยเซียง
ให้ความสนิทสนมกับก๊วยเซียง นางความจริงกระด้างเย็นชา
ไม่แยแสสนใจผู้ใด แต่ได้ยินเอี้ยก่วยกล่าวชมเชยก๊วยเซียง
บอกว่าก๊วยเซียงอธิษฐานให้พวกเขาสองสามีภรรยาพบกันใหม่
ทั้งกระโดดลงสู่ก้นหุบเหวโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตนเอง
วิงวอนเอี้ยก่วยอย่าได้ฆ่าตัวตาย จึงปฏิบัติต่อก๊วยเซียงแตกต่างไป
.
#พบพานเพื่อลาจาก💔
ณ ยอดเขาฮั้วซัว นางได้พบกับกักเอี้ยงไต้ซือ และเตียกุนป้อ
ซึ่งติดตามอีเคอซีกับเซียวเซียงจื้อมาเนื่องจากทั้งคู่ได้ขโมย
คัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็ง (คัมภีร์นวภพ) ไปจากวัดเส้าหลิน
.
หลังจากเตียกุนป้อได้รับการชี้แนะจากเอี้ยก่วยและกักเอี้ยงไต้ซือ
ทำให้ได้รับชัยชนะต่ออีเคอซี
ก๊วยเซียงชำเลืองมองเห็นเตียกุนป้อบนศีรษะมีโลหิตหลั่งไหล
จึงล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาพันบาดแผลให้
.
พลันเห็นเอี้ยก่วยกำลังจะชักนำเซียวเล้งนึ่งจากไป
หลังจากนี้ไม่ทราบได้พบกันอีกหรือไม่
สร้างความหดหู่ใจจนน้ำตาเอ่อคลอหน่วย
เตียกุนป้อขณะจะขอบคุณก๊วยเซียง
กลับเห็นในดวงตาก๊วยเซียงปรากฏประกายน้ำตาเอ่อคลอหน่วย
.
สร้างความสงสัยใจยิ่ง ไม่ทราบว่านางเศร้าเสียใจด้วยเหตุอันใด
ได้ยินเอี้ยก่วยกล่าวเสียงกังวานว่า
.
“ การพบกันครั้งนี้สร้างความหรรษาไม่น้อย
วันหน้าประสบพบในยุทธจักร
ย่อมต้องโอภาปราศรัยอีกครั้ง
พวกเราแยกจากกันในลักษณะนี้”
.
กล่าวพลางโบกแขนเสื้อ จูงมือเซียงเล้งนึ่ง เดินเคียงคู่ลงจากเขา
ยามนั้นจันทร์กระจ่างอยู่กลางนภา🌕
ลมเฉื่อยฉิวโชยพัดกิ่งใบ 🍃
นกกาบนยอดไม้ส่งเสียงร่ำร้อง🐦
.
ก๊วยเซียงไม่อาจสะกดกลั้นสืบไป น้ำตาทะลักจากเบ้ามา
ตรงบทกวีของลี้แป๊ะที่ว่า
“ลมสารทโชยรวยรื่น🌬
.
จันทร์ในคืนสารทกระจ่าง
.
ใบไม้ร่วงรวมแล้วพรูพรั่ง🍂
.
วิหคสถิตกลางไพรพลันหวั่นไหว🦅
.
เฝ้าคำนึงจวบวันใดได้พบพาน
.
รัตติกาลวาระนี้ลำบากใจ”🌙
ตอนหน้าก๊วยเซียงจะออกตามหาเอี้ยก่วยที่เเห่งหนใด❓
นางจะประลองยุทธกับผู้ใด ❓โปรดติดตามขอรับ
ขอคารวะเหล่าเหล่าสหายชาวยุทธทุกท่าน
.
อนันตทวิ☯️
.
ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เนต
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
