10 ธ.ค. 2021 เวลา 08:24 • สัตว์เลี้ยง
1 ใน 4 โรคที่อันตรายที่สุดในสุนัข ตอนที่ 1 พาโวไวรัส
ภาพประกอบบทความ ถ่ายโดย Torsten Dettlaff จาก Pexels
ผมก็เป็นหนึ่งคนที่เลี้ยงน้องหมามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มจำความได้ ก็หลายตัวและ ล้มหายตายจากกันไปตามชั่วอายุของเค้ากันเอง แต่บางตัวก็ป่วยตายบ้างก็มี ด้วยความที่เราในเวลานั้นยังไม่มีความรู้เรื่องโรคภัยต่างๆ ของน้องหมามากพอ เพราะยังเด็กแม่ก็จะเป็นคนเลี้ยงส่วนใหญ่แบบตามประสา
ในบทความนี้ผมจะพูดถึงเรื่องโรคภัยของน้องหมาที่มันเป็นโรคที่อันตราย อาจจะทำให้น้องหมาของเราจากเราไปได้เลยเพียงไม่กี่วัน ซึ่ง 1 ใน 4 โรคอันตรายสำหรับตอนที่ 1 นี้ ได้แก่ พาโวไวรัส
ภาพประกอบบทความ ถ่ายโดย CDC จาก Pexels
เชื้อพาร์โวไวรัสในสุนัข มีชื่อภาษาอังกฤษว่า canine parvovirus หรือเรียกชื่อย่อๆ ว่า CPV เป็นเชื้อร้ายในสุนัขที่พบได้ทั่วโลก พบเชื้อครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 จากแมว และต่อมาสันนิษฐานว่าสัตว์ป่าที่ถูกเชื้อทำให้เชื้อกลายพันธุ์ กลายเป็นพาร์โวไวรัสจากแมวสู่สุนัขได้
เชื้อนี้เป็น DNA virus ที่มีขนาดเล็กมากๆ และมีความอยู่รอดสูงมาก แพร่กระจายได้ง่าย และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมได้นานถึง 5 เดือน ยาฆ่าเชื้อธรรมดาอย่างแอลกอฮอล์ ไม่สามารถฆ่าเชื้อนี้ได้ จะต้องเป็นยาฆ่าเชื้อที่ออกฤทธิ์ oxidizing เช่น กลุ่ม peroxide compound หรือ sodium hypochlorite (เจือจาง 3%) ตรงนี้ไม่ใช้หมอก็ข้ามๆ ไปนะครับ เดี๋ยวจะงงเอา
ความรุนแรงของเชื้อพาโวไวรัส หากติดในลูกสัตว์แรกเกิดจะทำให้เสียชีวิตจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ส่วนใหญ่เสียชีวิตภายในอายุ 4 วัน และมักจะติดต่อในลูกสุนัขช่วงอายุ 1 เดือนครึ่ง ถึง 4 เดือน มีความเสื่ยงทุกสายพันธุ์ ระยะฟักตัวของเชื้ออยู่ที่ 2-7 วัน โดย 3-4 วันเชื้อจะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันก่อนเลย และป้ายต่อไปคือระบบทางเดินอาหาร โดยเข้าไปทำลายผนังลำไส้ทำให้เซลล์ตายและเกิดการลอกหลุด แล้วก็เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียเข้ามาแทรกซ้อนอีกที ลูกสุนัขที่ติดเชื้อสามารถแพร่เชื้อทางอุจจาระ
ภาพประกอบบทความ จากเว็บไซด์ www.dogilike.com
อาการที่พบก็คือ อาเจียน ถ่ายเป็นเลือด อาจมีไข้หรืออุณหภูมิต่ำก็ได้ หากไม่ได้รับการรักษาสุนัขมีโอกาสเสียชีวิตภายใน 2 วัน
การวินิจฉัย หากเราพบเห็นอาการดังกล่าวอย่ารอช้า รีบพาสุนัขไปโรงพยาบาลสัตว์ด่วนๆ โรคนี้ไม่สามารถรักษาเองได้ หากไปถึงโรงพยาบาลแล้ว วิธีการตรวจของคุณหมอที่สะดวกรวดเร็วคือการตรวจ TEST Kit หรือการตรวจด้วยวิธี PCR ร่วมกับการตรวจนับเม็ดเลือดขาว เพื่อประเมินความรุนแรงและวางแนวทางการรักษาให้ทันท่วงที
ภาพประกอบบทความ จากเว็บไซด์ www.royalcanin.com
การรักษา ย้ำอีกครั้งว่า อย่ารักษาเอง ให้รีบพาน้องหมาไปหาหมอ หมอจะเน้นเรื่องการให้สารน้ำและอิเล็ตโตไลท์เพื่อชดเชยในส่วนที่เสียไปและแก้ไขภาวะช็อค อาจให้ยาเพิ่มอีกหลายตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน และให้ยาในกลุ่มที่ลดอาการข้างเคียงอื่นๆ อีกเช่น ยาลดกรด, ยาลดอาเจียน, ยาแก้ปวดต่างๆ, ยากระตุ้นภูมิอื่นๆ เพื่อทำให้น้องหมากลับมากินได้ให้เร็วที่สุดเมื่อหยุดอาเจียนแล้ว การรักษานี้น้องหมาเราต้องนอนโรคพยาบาลนะครับเพื่อเป็นการเฝ้าระวังในเรื่องของอาการต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นมาอีกได้ทุกเมื่อ และแน่นอนครับสำหรับค่ารักษาของโรคนี้ ไม่ธรรมดาแน่นอน
ธรรมดาสำหรับคนที่รักน้องหมาเหมือนลูกในไส้แบบพวกเรา เราก็ไม่อยากให้เค้าจากไปก่อนวัยอันควร เพราะฉะนั้นเสียเท่าไหร่ไม่ว่าขอให้น้องรอดกลับมาอย่างปลอดภัยก็พอ ต่อให้ช่วงนัันอาจช๊อตก็ไปกู้ยืมกันมาเลยทีเดียว
ภาพประกอบบทความ ถ่ายโดย Breno Cardoso จาก Pexels
สำหรับโรคพาโวไวรัสเป็นโรคติดต่อของสุนัขและสัตว์เลี้ยงอีกหลายประเภท และมีเชื้อแบคทีเรียเป็นพาหะ เพราะฉะนั้น ถ้าคิดแบบบ้านๆ ตามผมผู้เลี้ยงสุนัขมาตลอด ที่ผมคิดได้อย่างแรกคือการหมั่นทำความสะอาดที่พักของน้องหมานะครับ ขอให้มีความสุขกับน้องหมาของคุณไปนานๆ ครับ
โฆษณา