10 ธ.ค. 2021 เวลา 23:54 • ปรัชญา
มนุษย์เรานั้นเป็น สิ่งมีชีวิตที่ไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตรูปแบบอื่นบนโลกที่ใช้ชีวิตไปตามสัญชาตญาณของสัตว์ นั่นคือมีการแก่งแย่งกันเอง เอาตัวรอดตลอดเวลามีการฆ่าเพื่อดํารงค์ชีวิต มีการสืบพันธุ์แบบไม่เลือกหน้า แม้แต่ในครอบครัวตัวเอง แต่มนุษย์เรานั้นมีจิตใจที่สูงส่งกว่านั้น สิ่งที่แยกมนุษย์ออกจากสัตว์ได้ก็คือเรื่องพื้นฐานของจิตใจ นั่นคือเรื่องคุณธรรม ความดีงาม มนุษย์เราจิตใจสูงส่งกว่านั้น สิ่งที่มีอยู่ในจิตใจของมนุษย์ซึ่ง สัตว์อื่นๆไม่มีนั่นคือนอกจากสติปัญญาซึ่งไม่พอเพียงแก่ความเป็นมนุษย์ แต่มีสิ่งที่เรียกว่า ปัญญาญาณ หรือการยกระดับจิตใจให้สูงกว่าความเป็นสัตว์ ถึงขั้นที่ว่าหลุดพ้นจากความเป็นมนุษย์เพื่อขึ้นสู่ในระดับที่คุณคงยังไม่เข้าใจ
ที่ผมบรรยายมานี่ เพื่อที่จะบอกว่า คนเรานั้นถ้าไม่มีศีล ควบคุมอยู่จะเกิดอะไรขึ้น คุณคงไม่อยากมี เพื่อน พี่น้อง ที่โกหกตลอดเวลา ชอบลักเล็กขโมย เป็นบ้าควบคุมสติไม่ได้ กินเหล้าเมายา ประพฤติผิดลูกเมียคนอื่นๆ สิ่งนี้มีไว้เพื่อยกระดับจิตใจมนุษย์ ให้สูงขึ้น เพื่อมิให้สัญชาตญาณความเป็นสัตว์แสดงตนออกมา และการที่มีศีลธรรมมิได้เป็นข้อบังคับใดๆ ใครจะมีหรือไม่มีก็ได้ ใครจะมีหรือไม่มีไม่มีใครรู้ แต่คนที่มีพื้นฐานทางจิตใจดีงาม เขาก็มีอยู่แล้วเป็นไปตามอัตโนมัติ โดยไม่ต้องมีคําบัญญัติว่านั่นคือศีล5 จะเป็นศีล8 ศีลอะไรก็แล้วแต่ ไม่ต้องมานั่งนับหรือท่องจําเป็นข้อๆแต่มันเกิดขึ้นเองในจิตใจ บนพื้นฐานแห่งความดีงาม
ดังนั้นจึงไม่ต้องไปกลัวว่า มนุษย์จะสูญพันธุ์ถ้าไปถือศีลกันทั้งโลก แต่มนุษย์จะสูญพันธุ์เพราะไม่ถือศีลมากกว่า เพราะความเอาเปรียบแก่งแยกกัน ฆ่ากันตายทั้งโลก ก็มาจากเรื่องนี้แหละ จริงอยู่การนับถือศีลมิได้ทําให้เรื่องนี้หมดไป แต่มันก็จะทําให้อะไรๆดีขึ้น เอาแค่เพื่อนคุณไม่ขโมยของคุณ ไม่พูดโกหก แฟนไม่เมาเหล้า ไม่คบซ้อน แค่นี้ก็ดีมากแล้ว
ส่วนการฆ่าสัตว์น่ะ คุณคงสงสัยว่า ถ้าห้ามไม่ให้ฆ่า แล้วมนุษย์จะเอาอะไรกิน ถ้านับถือศีลข้อ1 เรื่องห้ามฆ่าสัตว์ (ส่วนเรื่องเสพกามนี่ไม่เกี่ยว เพราะศีลเขาไม่ได้ห้ามเสพกาม เขาห้ามมิให้ประพฤติผิดในกาม ) แล้วมนุษย์ก็คงต้องกินแต่พืชผักแล้วจะอยู่ได้อย่างไร ตรรกะข้อนี้ถ้าไม่ใช้ความคิดดีๆก็คงสรุปว่าจริง แต่มาลองพิจารณาดูดีๆ พระพุทธเจ้าท่านทรงมิปราถนาให้มาใครฆ่าใคร หรือเบียดเบียนใคร แต่มนุษย์เรานั้นมีสัญญาณของสัตว์อยู่ในตัว นั่นคือจะอยู่ได้ด้วยอาหาร จริงๆศีลข้อนี้ ความหมายจริงๆก็คือห้ามมิให้ฆ่าอะไรใดทั้งนั้นแม้แต่ต้นไม้ใบหญ้า แต่มันจะสุดโต่งไปหน่อยและเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะอยู่ได้ด้วยพืชผักอย่างเดียว พระพุทธเจ้าจริงทรงบัญญัติไว้แต่ท่านก็ได้อธิบายความไว้เช่นกัน ในสมัยก่อนก็มีคนสงสัยอะไรอย่างนี้แหละ เท่าที่ผมเข้าใจ ว่าการฆ่าเพื่อดํารงค์ชีวิตต่างจากฆ่าด้วยความอาฆาตแค้น (แต่มิได้สนับสนุนให้เกิดการฆ่านะ)
ศีลข้อ1 เป็นการฝึกเพื่อลดละความ อาฆาตพยายาท ให้น้อยลงไปเรื่อยๆ การที่คุณกินอาหารเนื้อสัตว์ ที่เกิดจากการฆ่าโดยคนอื่นๆ ถ้าคุณคิดถึงเรื่องนี้ดีๆว่ามันบาปหรือไม่บาปกันแน่ แน่นอนมันบาปถ้าคุณคิดถึงมันมากๆและสนับสนุนให้มีการฆ่า เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่มันจะไม่บาปถ้าคุณไม่คิดถึงเรื่องนี้ และคุณพยายามหลีกเลี่ยง มิให้เกิดการฆ่าน้อยที่สุด หรือคิดแค่กินเพื่อดํารงค์อยู่ บางคนที่เขาเข้าใจเรื่องนี้ดีก็จะไปกินพวกมังสวิรัติแทนไปเลย จิตจะถูกขัดเกลาด้วยการลดความปราถนา ที่จะเอาชีวิตผู้อื่นๆ เอาเปรียบผู้อิ่นๆ โทสะ โมหะ โลภะก็จะลดลงไป ลองพิจารณาดูว่าเองว่า มีศีลดีกว่าหรือไม่มี ดีกว่า
โฆษณา