Cloud Atlas เป็นหนังที่ผมเคยดูรอบเดียวล่าสุดเมื่อตอนปี 2012 หนังออกมาแล้วก็ไม่ได้ดูอีกเลย จำได้ว่าชอบแต่ก็ยังงงๆบ้าง ไม่เก็ท จนกระทั่งหยิบมาดูอีกครั้งในไม่กี่วันที่ผ่านมา (ในตอนที่โตขึ้นและเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้ว) จากชอบกลายเป็นรักเลยครับ
ตอนนั้นผม 17 ตอนนี้ 26 มุมมองชีวิตกับการได้เขียนบทความเกี่ยวกับปรัชญาไซไฟบ่อยๆ เขียนวิเคราะห์นั่นนี่ ดูอีกรอบเลยทำให้หนังเรื่องนี้มีคุณค่ากับผมมากๆ จนอดคิดไม่ได้ว่าลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง มันดีขนาดนี้ สนุกทั้งแอ๊คชั่น เนื้อหา และการเล่าเรื่อง กับผูกโยงเนื้อเรื่องเข้าหากัน
ไม่มีเบื่อเลย ความยาว 3 ชั่วโมงแต่รู้ตัวอีกทีจบซะแล้ว
เป็นคนไม่ค่อยอินกับเรื่องภพชาติ และไม่เชื่อว่าว่ามีชาติที่แล้วหรือชาติหน้า แต่หนังเล่าประเด็นตัวตน ชาติภพ จิตวิญญาณ และการกระทำที่ส่งผลกันและกันกับเหตุการณ์และชะตากรรมที่ตามมา แต่ Cloud Atlas เอาเรื่องพวกนี้มาถ่ายทอดได้อย่างน่าสนใจ และมีปรัชญาที่น่านำไปพูดคุยถกเถียง
หนังนำประเด็นเดิมๆ มาตีความและถ่ายทอดแบบชวนตั้งคำถามในมิติใหม่ ที่น่าสนใจคือฉบับหนังเลือกที่จะเล่าแบบตัดสลับในขณะที่นิยายต้นฉบับเล่าตามไทม์ไลน์ ซึ่งนับว่ากล้ามาก และมันดันออกมาเวิร์คกว่าในแง่ความยอดเยี่ยมของการนำเสนอบนจอภาพยนตร์
และชอบที่ใช้นักแสดงได้คุ้มค่าตัวที่สุดตั้งแต่เคยเห็นมาแล้ว แถมยังเมคอัพดีจนหลายๆบทถ้าไม่ไปเสิร์ชหาคือจำไม่ได้ว่าคนนี้เล่น
การเล่าเรื่องอาจดูซับซ้อนและตัวละครเยอะ แต่เมื่อตั้งใจดูรอบเดียวก็เข้าใจว่ามันเป็นเพียง 6 เรื่องราว 6 ธีม 6 genre 6 รสชาติ 6 อารมณ์ที่ถูกนำมาตัดสลับกันและนักแสดงคนเดียวเล่นหลายบทบาทเท่านั้นเอง
สำหรับผม Cloud Atlas เป็นหนัง underrated ที่มีความ timeless อีกเรื่อง ดูจบแล้วประทับใจมากๆครับ เป็นหนังที่ให้ความรู้สึกว่าทั้งสวยงามและสมบูรณ์แบบที่สุดเรื่องนึงเลย เสียดายนะครับที่ไม่ค่อยดังหรือถูก appreciate เท่าที่ควร
อ่านบทความที่ผมเขียนวิเคราะห์ ตีความ และอธิบายหนัง Cloud Atlas อย่างละเอียดทุกประเด็นบนเว็บไซต์ a day ได้ที่นี่ครับ proudly present มากๆบทความนี้ อยากให้อ่านกันนะครับ : https://bit.ly/3ENehs6
ว่าแต่ผู้อ่านคิดยังไงกับเรื่องนี้บ้างครับ?
#Watchman #CloudAtlas
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
