11 ธ.ค. 2021 เวลา 15:30 • กีฬา
ยักษ์ใหญ่ก็ล้มได้ ถ้าผู้นำแย่ Part 2: ดราม่าภายในสโมสรและปฏิบัติการ IO
อีกปัจจัยที่ทำให้บาร์เซโลน่าต้องล้มลุกคลุกคลานในช่วงปี 2019 - 2020 จวบจนมาถึงทุกวันนี้ นอกจากเรื่องการบริหารการเงินที่ทำให้ทุกวันนี้ทีมเป็นหนี้มากกว่า 1,000 ล้านก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องดราม่าวงในของสโมสรนี่แหละ
ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 เริ่มระบาดไปทั่วโลกนั้น ทุกๆ สโมสรฟุตบอลจะประสบปัญหาเรื่องการเงินเกือบๆทุกสโมสร จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับการใช้จ่ายและการบริหารของสโมสรนั้นๆ และบาร์เซโลน่าเองก็เป็นหนึ่งในสโมสรที่โดนพิษโควิด-19 ไปเต็มๆ สโมสรขาดรายได้จากการเข้าชมสนามของแฟนบอลและต้องจ่ายค่าเหนื่อยที่สูงให้กับนักเตะ แน่นอนว่าบอร์ดบริหารต้องหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยการขอลดค่าเหนื่อยกับนักเตะทุกคนในทีม มีรายงานว่าบาร์โตเมวเรียกนักเตะแกนหลักของทีมอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, เคราร์ด ปิเก้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และ เซร์จี้ โรแบร์โต้ มาพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันโดยจะเป็นการขอลดค่าเหนื่อยนักเตะภายในทีมถึง 70% ด้วยกัน ซึ่งแฟนบอลต่างรู้ดีกันอยู่แล้วว่านักเตะทุกคนภายในทีมพร้อมใจช่วยสโมสรในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้แน่ๆ
แต่ก็มีข่าวหลุดออกมาจากทีมบริหารว่า นักเตะภายในทีมไม่เห็นด้วยกับการลดค่าเหนื่อยนี้ นั้นทำให้เกิดเป็นประเด็นดราม่าทันทีว่านักเตะภายในทีมไม่มีจิตใจที่จะช่วยสโมสรเลย เรื่องนี้เป็นประเด็นจนทำให้ ลิโอเนล เมสซี่ ต้องออกมาประกาศผ่าน IG ของตนเองว่า นักเตะภายในทีมพร้อมใจจะช่วยเหลือสโมสรกันอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้พวกเขากำลังหาทางออกให้กับสโมสรและช่วยเหลือให้พนักงานสโมสรได้เงินเดือน 100% เต็มด้วย อีกทั้งเมสซี่ยังพาดพิงถึงการทำงานของบอร์ดบริหารสั้นๆอีกว่า ที่ผ่านมาเวลาสโมสรมีปัญหา บรรดานักเตะจะเสนอตัวช่วยเหลือตลอด และหลายๆครั้งก็เป็นเหล่านักเตะภายในทีมที่เสนอช่วยเหลือ ไม่ใช่มาจากบอร์ดบริหารอยู่ฝ่ายเดียว
เมื่อเมสซี่ออกมาชี้แจงประเด็นลดค่าเหนื่อยนี้ รายต่อไปที่จะโดนโจมตีกลับนั้นก็คือฝ่ายของบอร์ดบริหารที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิดและถูกต่อว่าเรื่องการบริหารทีมที่หละหลวม แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ดราม่าแรกที่เหล่านักเตะและสโมสรต้องพบเจอ
ก่อนหน้านี้ เอริก อบิดัล อดีตนักเตะของทีมบาร์เซโลน่าที่ถูกบาร์โตเมวดึงตัวเข้ามาเป็นประธานฝ่ายเทคนิคของสโมสร ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า นักเตะภายในทีมกำลังเล่นไล่โค้ชเอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ จนทำให้ทีมผลงานออกมาไม่ดี ไม่ชนะใครจนทำให้โค้ชต้องโดนไล่ออกในที่สุด ประเด็นนี้ทำให้กัปตันทีมอย่าง เมสซี่เดือดถึงขนาดโพสต์ในไอจีว่า
“ถ้าพูดแบบนี้ ก็เจาะจงมาเลยดีกว่าว่าใครเล่นไล่โค้ช”
2 ดราม่าที่ได้กล่าวมาก็ดูจะแย่พอแล้ว แฟนๆบาร์เซโลน่าต่างวิจารณ์การทำงานของบอร์ดบริหารชุดนี้ว่าล้มเหลวไม่เป็นท่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงินหรือดราม่าระหว่างบอร์ดบริหารกับนักเตะ และขอให้บาร์โตเมวและพรรคพวกลาออกไป แต่บาร์โตเมวก็ยืนกรานว่า
“ผมไม่มีความคิดที่จะลาออก”
เมื่อเจอคำพูดแบบนี้แฟนๆต่างก็ต้องทำใจยอมทนเห็นทีมรักของตนเองอยู่ภายใต้การบริหารแบบนี้ต่อไป
แต่แล้วเมื่อช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2020 ก็มีรายงานออกมาว่า บาร์โตเมวจ่ายเงินให้กับบริษัท I3 Venture (ไอทรี เวนเจอร์ส) ปีละประมาณ 1 ล้านยูโร หรือตีเป็นเงินไทยแบบกลมๆก็ประมาณ 38 ล้านบาท เพื่อให้มาดูแลภาพลักษณ์ให้กับบาร์เซโลน่า
แต่การจ้างบริษัท I3 Venture มันมีลับลมคมในมากกว่านั้น สาเหตุหลักๆของการจ้างมาจากการที่บาร์โตเมวต้องการสร้าง IO (Information Operation - ปฏิบัติการข่าวสาร) เพื่อทำคอนเทนต์ในโลกออนไลน์เพื่อดิสเครดิตบุคคลทุกคนที่อยู่คนละฝั่งกับบอร์ดบริหารของเขา ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเฟคนิวส์ เรื่องด้านลบๆโจมตีนักเตะชุดปัจจุบันและอดีตนักเตะอย่าง เมสซี่, เคราร์ด ปิเก้, ชาบี เอร์นันเดซ หรือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา หรือแม้กระทั่งทำคอนเทนต์ใส่ร้ายป้ายสีผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานสโมสรคนใหม่ที่กำลังจะเลือกตั้งใหม่อีกด้วย แต่ในทางกลับกันบาร์โตเมวก็คอยให้ IO เหล่านี้สร้างคอนเทนต์ชื่นชมฝั่งตัวเองอยู่ตลอด
การสร้าง IO ยังไม่ถึงกับเป็นสิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดของบอร์ดบริหารชุดนี้ เพราะเมื่อมีการตวจสอบกลับพบว่าเงินที่บอร์ดบริหารใช้จ้างบริษัท I3 Venture มันเป็นเงินของสโมสรเองนี้แหละ แถมยังทำมาตั้งแต่ปี 2016 จวบจนถึงปี 2020 และยังมีการจ่ายแพงกว่าปกติถึง 6 เท่าอีกด้วย ซึ่งสามารถพูดได้ว่าการจ้างบริษัทผลิตสื่อในครั้งนี้อาจจะมีการทุจริตหรือคอรัปชั่นของบอร์ดบริหารอยู่นั้นเอง
สุดท้ายเมื่อเจอปัญหาหลายๆเรื่องเข้า ทั้งการบริหารที่ล้มเหลวทำให้สโมสรเป็นหนี้ ดราม่าระหว่างบอร์ดบริหารกับนักเตะ เสียงวิจารณ์จากแฟนบอลและเรื่องของการจ้างบริษัทในการทำ IO สุดท้ายช่วงเดือน ตุลาคม 2020 บาร์โตเมวและคณะบอร์ดบริหารของเขาก็ขอยอมแพ้และลาออกไปในที่สุด
เรื่องราวดราม่าระหว่างนักเตะและบอร์ดบริหาร ทำให้บุคคลากรในองค์กรเกิดความแตกแยก ไม่มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน การจะก้าวไปข้างหน้าขององค์กรมันก็กลายเป็นเรื่องที่ยากมาก การที่มีเรื่องราวเหล่านี้มาคอยกวนใจนักเตะก็ทำให้ผลงานในสนามเริ่มแย่ลงไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายทีมที่เคยเป็นมหาอำนาจและประสบความสำเร็จอย่างมากก็ต้องถึงคราวสิ้นสุดลง เราจะเห็นได้จากการที่บาร์เซโลน่าพ่ายแพ้ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค 8 - 2 ในเกมนี้เราจะเห็นสภาพของทีมได้เลยว่านักเตะหลายๆคน สภาพจิตใจไปคนละทิศคนละทางและย่ำแย่มากๆ จนสุดท้ายผลของการแข่งขันก็ฟ้องว่าทีมกำลังมีปัญหาอย่างหนัก
ทุกวันนี้บาร์เซโลน่าได้ประธานคนใหม่หน้าเก่าอย่างโจน ลาปอร์ต้า ที่พยายามเคลียร์ปัญหาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้ง ชาบี เอร์นันเดซ อดีตกัปตันของบาร์เซโลน่ามาเป็นโค้ช เพื่อดึงสปิริตความเป็นทีมกับมา และพยายามปล่อยนักเตะที่ค่าเหนื่อยแพงออกไปเพื่อรักษาสมดุลของการเงิน ซึ่งทิศทางของทีมในช่วงนี้ก็ยังคงล้มลุกคลุกคลาน กว่าที่บาดแผลของยักษ์ใหญ่จะกลับมาดีได้ก็คงต้องใช้เวลาอีกหลายปีเลยทีเดียว แต่สิ่งที่น่ายินดีในตอนนี้คงเป็นแฟนๆบาร์เซโลน่าที่พวกเขาต่างรู้ดีว่าทีมของพวกเขาตอนนี้อยู่ในมือของผู้นำและทีมงานที่สามารถไว้ใจได้แล้วนั้นเอง
เอื้อ: เขียน,เรียบเรียง
แชมป์: งานศิลป์
1
โฆษณา