12 ธ.ค. 2021 เวลา 05:30 • การศึกษา
Reply 1988
สะท้อนความคิดของเด็กไทยในยุคนี้
"​ทำไมถึงเป็นฉันคนเดียวที่ไม่มีความฝัน ฉันรู้สึกอิจฉาคนที่มีความฝัน พวกเขารู้ได้ยังไงนะ ว่าอยากเป็นอะไร เเล้วทำไมฉันถึงไม่มีอะไรที่อยากทำบ้างเลย"
5
ซองด็อกซอน Reply1988
มันรู้สึกน่าเศร้าเเละเสียใจมากในเวลาเดียวกัน ซึ่งผู้เขียนก็เคยเป็น 1 คนที่รู้สึกเเบบนั้น เมื่อ 5 เดือนก่อนผู้เขียน ได้ตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อสอบเข้าคณะเทคนิคการเเพทย์เเละพยาบาลศาสตร์
ผลปรากฎว่า ผู้เขียน อ่านได้ไม่ค่อยเข้าเป้านัก เนื่องจากตัวเองเป็นคนที่ไม่ค่อยถนัดวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์ จนผล
ลัพธ์ออกมา ทำให้ส่งผลกับจิตใจ รู้สึกเเย่ นอย์ด ที่เราไม่เก่ง ก็เลยฉุดคิดว่า
"ตัวเองต้องการอะไรในอนาคต"
มันดีมากหากเราหางานที่มั่นคงได้
เเต่ในระยะยาว มันก็เกิดผลเสียอะไรๆหลายอย่าง ถ้าตัวเราไม่ได้ happy กับมันจริงๆ
 
มีเด็กเเละเยาวชน หลายๆคนที่ถูกกดทับศักยภาพของตัวเอง เเบบผู้เขียนอีก
มากมายเเละหาเป้าหมายตัวเองไม่เจอ
3
5 เดือนที่หลงทาง
หลายๆประเทศต่างส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนระบบการศึกษาเเละเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ เเละอีกหลายๆประเทศ ได้มีการศึกษาที่ไม่เหลือมล้ำเเละเพิ่มศักยภาพเด็ก
  • เมื่อไม่นานมานี้ จีนได้ออกมาประกาศควบคุม ธุรกิจการศึกษา อย่างเข้มงวดให้เป็นองค์กรที่ไม่เเสวงหาผลกำไร (ถึงจะไม่เป็นผลดีมากนักเพราะว่าธุรกิจได้ย้ายไปเปิดในใต้ดินเเทน) เเต่ผู้เขียนคิดว่า จีนจะสามารถเปลี่ยนระบบการศึกษาต่อไป เพื่อสร้างคนที่มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
  • นิวซีเเลนด์. ในช่วงมัธยมศึกษาของนิวซีเเลนด์จะเริ่มเมื่อ ปีที่9 เเละถึงปีที่13 ทุกๆโรงเรียนจะเรียนวิชาหลักเหมือนกัน เเละจะต่างตรงที่วิชาเลือก
4
การศึกษาของนิวซีเเลนด์ ปีที่9-13
  • 1.
    ปีที่9 จะมีวิชาให้เรียนเทอมละ 7 วิชาได้เเก่ อังกฤษ คณิต วิทย์ สังคม พลศึกษาเเละภาษาอื่นๆอาจมีบางตัวเพิ่มเข้ามาในบางเทอม เช่น ศิลปศาสตร์ สารสนเทศ เป็นต้น
  • 2.
    ปีที่ 10 วิชาที่เลือกจะเหลือเพียงเเค่ 5 วิชา อังกฤษ คณิต วิทย์ สังคม เเละพลศึกษา นอกนั้นให้เลือกตามความสมัครใจ เช่น ภาษา เทคโนโลยีหรือความสนใจด้านอื่นๆ
  • 3.
    ในปีที่11 ของนิวซีเเลนด์ วิชาบังคับจะเหลือเเค่ 3 วิชา คือ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ เเละวิทยาศาสตร์ นอกนั้นเป็นวิชาเลือกเสรี เเละจะมีให้เลือกมากขึ้น อาทิ เทคโนโลยีICT ที่เเยก ออกจากสารสนเทศ
จะเห็นได้ว่าวิชาบังคับจะลดน้อยลง ซึ่งปีที่12 วิชาบังคับจะเหลือเพียง 1 วิชาคือภาษาอังกฤษ นอกนั้นจะให้เลือกเสรี
ในหมวดวิชาใหญ่ๆยังคงมีอยู่เหมือนเดิม เพียงเเต่จะมีวิชาย่อยๆให้ นักเรียนได้เลือกตามความถนัดเเละรักที่จะเรียน
ซึ่งในปีนี้จะเลือกเฉพาะทางตามเป้าหมายที่จะศึกษาในอนาคตหรือเรียนต่อในสายอาชีพอื่น หรือออกไปทำงาน
หมวดที่มีให้เลือกเช่น
  • 1.
    วิทยาศาสตร์ จะได้เรียน ชีวะเคมีฟิสิกส์
  • 2.
    สังคม จะได้เรียนเกี่ยวกับ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์การศึกษา คลาสสิค
  • 3.
    วิชาที่เพิ่มมาใหม่อย่างเช่น การเขียนโปรเเกรม เศรษศาสตร์ธุรกิจ สื่อสารศึกษา
  • 4.
    หมวดศิลปศาสตร์ ก็เเยกออกเป็นวาดเขียน ศิลปะปฏิบัติ การออกเเบบ ถ่ายรูป ศิลปะศึกษา
ในปีที่13 จำนวนนักเรียนจะลดลงมากเนื่องจากมีบางส่วนออกไปทำงาน เเละมีบางส่วนที่เรียนเพื่อต่อในมหาลัย
 
ซึ่งปีนี้จะเรียนเเบบนักศึกษา ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดเครื่องเเบบ วิชาเลือกลงเรียนเอง เเละไม่มีวิชาบังคับ หมวดจะเหมือนเดิม
ยกเว้นคณิตเเยกออกเป็น
เเคลคูลัสเเละสถิติ
การเลือกเรียนในปีที่สูงขึ้น คุณครูที่ปรึกษาเเละผู้ปกครองรวมตัวนักเรียน
 
จะคุยกันว่า นักเรียนสมารถเรียนอะไรได้ดี บวกกับความสนใจ เเละเป้าหมายในการประกอบอาชีพในอนาคต
 
จะสังเกตว่า ถ้านำ3 ปัจจัยมารวมกัน จะเห็นได้ว่า มีกรอบเเละทิศทางให้นักเรียนตัดสินใจ
1
ซึ่งเเตกต่างกับบ้านเราที่เรียนระยะเวลา
6 ปีเรียนครบทุกอย่าง ในม.ต้น เเละตัดสินใจเลือกเรียนเจาะลึกในตอน ม.ปลาย
หรือปวช.1
 
ดังนั้นไม่เเปลกเลยที่จะมีคนหลุดจากระบบในเมื่อการศึกษาของประเทศเราเน้นการท่องจำ เพื่อไปสอบ หรือ ให้เวลากับเด็กค้นหาตัวเองน้อยเกินไป ซึ่งมีผลต่อทักษะอื่นๆ
1
ผู้เขียน ณ ตอนนี้ ก็เป็นคนหนึ่งที่หลุดจากระบบการศึกษา เเต่ด้วยความตั้งใจ ทุ่มเทเเละเคารพตัวเอง ผู้เขียนจึงไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาตัวเองในสิ่งที่ชอบเเละสนใจ
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับการศึกษาบ้านเราในอนาคต ผู้เขียนหวังว่า เยาวชนเเละคนอื่นๆ จะเคารพในความต้องการของตัวเอง เชื่อมั่น ไม่หยุดอยู่กับที่ เเละมีความสุข
1
ที่มาของข้อมูล
หนังสือ .ชีวิตนอกบ้าน ปุระชัยเปี่ยมสมบูรณ์ อยู่อย่างไรในนิวซีเเลนด์
 
ขอขอบคุณสำหรับการอ่านบทความ
จากDek'na
โฆษณา