12 ธ.ค. 2021 เวลา 17:03 • สุขภาพ
ห้ามนอนทับตะวันเดี๋ยวได้หลับตายหรอก เห้ยยจริงป่ะ !?
หลายๆคนหลังจากกลับจากเรียนหรือทำงานอันเหน็ดเหนื่อย วุ่นวายกันมาทั้งวันแล้วอยากจะพักงีบซักหน่อยในช่วงเย็นแต่ปู่ย่าตายามักห้ามเสมอแล้วบอกว่า "อย่านอนทับตะวัน เดี๋ยวจะตาย" แล้วจริงๆความเชื่อแบบนี้มีที่มาอย่างไร แล้วการนอนตอนเย็นนั้นทำให้เกิดอะไรขึ้นกันแน่วันนี้ เห้ยจริงป่ะ!? จะมาไขข้อสงสัยให้ทุกคนกัน
จากที่ได้สอบถามคนเฒ่าคนแก่หลายๆคน ได้เล่าว่าการที่นอนช่วงเย็นๆ จนถึงหัวค่ำเนี่ยเพราะเชื่อกันว่าโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณมีเวลาแตกต่างกัน ช่วงเวลามืดของโลกนี้ เป็นช่วงเวลาสว่างของโลกนั้น และช่วงเวลาโพล้เพล้นี่เอง ถือเป็นช่วงเวลาที่โลกวิญญาณใกล้สว่าง หากเรานอนหลับ วิญญาณในร่างกายของคนเราก็จะมีสิทธิที่จะล่องลอยออกจากร่าง แล้วเผลอหลุดเข้าไปในโลกวิญญาณได้ง่าย
โอโหหห เป็นความเชื่อที่เหลือเชื่อและเข้าใจได้ยากเลยใช่ไหมหละ
แต่จริงๆแล้วมันคือกุศโลบายไว้สอนเด็กๆ ให้รับผิดชอบงานบ้านงานเรือน ไม่ให้นอนหลับในช่วงเวลาเย็นๆ เพราะถือเป็นช่วงเวลาที่ต้องช่วยกวาดถูบ้านและเตรียมอาหารไว้สำหรับรอคนในครอบครัวกลับมาจากทำไร่ทำนา เรียกง่ายๆ ว่า เป็นการสอนไม่ให้ลูกหลานติดนิสัยขี้เกียจสันหลังยาวนั่นเอง
แต่ทางวิทยาศาสตร์ก็"ด้อธิบายเรื่องนี้ไว้เช่นกัน ว่าดยปกติระบบไหลเวียนเลือดของร่างกายจะมีการปรับเปลี่ยนตามอุณหภูมิและแสงภายนอกตลอดเวลา หากสายตาเรามองเห็นว่าแสงเริ่มอ่อนลง (เท่ากับว่าอุณหภูมิกำลังเริ่มลดลง) สมองก็จะสั่งงานให้หลอดเลือดขยายตัวขึ้น เพื่อให้เลือดที่ส่งไปเลี้ยงร่างกายมีอุณหภูมิที่พอดี ซึ่งการหดขยายตัวของหลอดเลือดเช่นนี้จะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ยกเว้นแต่ว่า หากเรานอนหลับช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ ที่แสงแดดยังจ้า แล้วลืมตาขึ้นมาอีกทีตอนค่ำๆ ที่แสงเหลือน้อย ร่างกายก็ต้องรีบปรับโทนของหลอดเลือดแบบทันทีทันใด การที่เส้นเลือดขยายตัวแบบปุบปับเช่นนี้ จึงเป็นสาเหตุให้เมื่อตื่นขึ้นมาหลายคนมักจะมีอาการปวดหัว มึนงง อ่อนเพลีย ไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว หรือบางคนอาจถึงกับเป็นไข้เลยก็ได้
เท่านี้ก็ไขข้อสงสัยได้แล้วว่าการที่เรานอนตอนเย็นนั้นไม่ดีอย่างไรหากรู้แล้วก็ควรหลีกเลี่ยงการนอนตอนเย็นกันเถอะ!!
โฆษณา