วราภรณ์ ซาลาเปา ใช้กลยุทธ์อะไร ให้ยอดขาย 1,000 ล้านบาท
หลายคนอาจไม่เชื่อว่า คนขายซาลาเปาลูกละไม่กี่สิบบาทจะมีรายได้เป็นหลัก พันล้านบาท
แต่สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นกับซาลาเปาแบรนด์หนึ่งที่ชื่อว่า “วราภรณ์ ซาลาเปา”
วราภรณ์ ซาลาเปา มีจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ มาจากการทำซาลาเปาทานกันเองในครอบครัว ก่อนที่จะเริ่มมาทำขายอย่างเป็นเรื่องเป็นราวในเวลาต่อมา
แล้ว วราภรณ์ ซาลาเปา ใช้กลยุทธ์อะไร
ถึงสามารถขายซาลาเปาได้ ระดับพันล้านบาท ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
1. กล้าต่อยอดในสิ่งที่เราถนัดและทำได้ดี ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
หลายธุรกิจมีจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ มาจากครอบครัว และวราภรณ์ ซาลาเปา ก็เช่นกัน..
เพราะเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อลูก ๆ ของคุณวราภรณ์ ชอบซื้อซาลาเปาทานกันหลังเลิกเรียน พอเรื่องเป็นแบบนี้คุณวราภรณ์ จึงมีความคิดที่จะทำซาลาเปาให้ลูก ๆ ทานกันภายในครอบครัว
ไม่เพียงแต่ทำทานกันภายในครอบครัว คุณวราภรณ์ยังนำไปแจกเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียง
และด้วยความที่ซาลาเปาที่คุณวราภรณ์ทำนั้นมีรสชาติอร่อย เพื่อนบ้านหลายคนจึงเริ่มติดใจในรสชาติจนเกิดการบอกต่อกันปากต่อปาก
กระทั่งมีเสียงเรียกร้องให้คุณวราภรณ์ทำซาลาเปาขายแบบเป็นจริงเป็นจัง
และนั่นนับเป็นก้าวแรกที่วราภรณ์ ซาลาเปา เริ่มออกขายสู่คนภายนอกมากขึ้น
ยอดขายของวราภรณ์ ซาลาเปา เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากนั้น จึงเริ่มมีการจดทะเบียนตั้งบริษัทและเปิดโรงงาน เพื่อควบคุมการผลิตซาลาเปาทุกลูกให้ได้มาตรฐานในเวลาต่อมา
2. จากรุ่นแม่สู่รุ่นลูก พร้อมกับการรุกขยายสาขาในพื้นที่ที่มีศักยภาพ
จากจุดเริ่มต้นที่เป็นร้านซาลาเปาเก่าแก่ย่านนางเลิ้ง ร้านวราภรณ์ ซาลาเปา ก็เริ่มขยายสาขาเพิ่มขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดตามหัวเมืองหลัก ๆ หลังจากที่รุ่นลูกของคุณวราภรณ์เข้ามาช่วยบริหารธุรกิจต่อ แล้วทำการขยายสาขาของร้านให้มากขึ้น เพื่อเข้าถึงลูกค้าในวงกว้าง
ปัจจุบัน ร้านวราภรณ์ ซาลาเปา มีสาขากว่า 100 สาขา โดยสาขาของวราภรณ์ ซาลาเปา มีทั้งแบบที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า และตั้งแบบ Stand alone
สำหรับสาขาที่เป็นแบบ Stand alone จะมีตัวอาคารที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกันออกไป ไม่เป็นแบบเดียวกัน พร้อมทั้งมีที่จอดรถสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ
โดยบางสาขาที่มีพื้นที่มาก ๆ จะมีการปรับรูปแบบให้เป็นลักษณะของร้านอาหารเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้ามาทานในร้านได้อีกด้วย
3. ขยายไลน์สินค้าและบริการให้หลากหลาย
นอกจากการขยายสาขา เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้นแล้ว วราภรณ์ ซาลาเปา ยังมีการนำเสนอสินค้าที่มีความหลากหลาย
จากจุดเริ่มต้นที่ทำกันเพียงซาลาเปาขายลูกค้า ทุกวันนี้ วราภรณ์ ซาลาเปา ยังเพิ่มการนำเสนออาหารเมนูจานเดียว
เช่น ข้าวขาหมู ข้าวหมูแดง ข้าวไก่อบ ข้าวเขียวหวาน หรือแม้แต่เบอร์เกอร์ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าที่ต้องการทานอาหารที่หลากหลายมากกว่าซาลาเปา
ทั้งยังรวมไปถึงการเสนอธุรกิจบริการรับจัดเลี้ยง (Catering) ซึ่งเป็นงานด้านการบริการจัดเลี้ยงอาหารและเครื่องดื่มตามงานและสถานที่ต่าง ๆ ที่ลูกค้าต้องการอีกด้วย
4. ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป
ยุคสมัยนี้ ความรวดเร็วและความสามารถในการตอบสนองความต้องการสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้า เป็นกลยุทธ์สำคัญที่หลายธุรกิจให้ความสำคัญและความใส่ใจ
สำหรับ วราภรณ์ ซาลาเปา ได้มีการปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ลูกค้าในยุคนี้อย่างต่อเนื่อง ที่เห็นชัดเจนคือ การนำกลยุทธ์การใช้ Drive-thru ที่มาใช้ในบางสาขาของวราภรณ์ ซาลาเปา เพื่อบริการลูกค้า และตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เร่งรีบ
เพราะทุกวันนี้ลูกค้าจำนวนไม่น้อย ต้องการเพียงแค่ สั่ง จ่าย รอรับสินค้า ไม่อยากเสียเวลาลงจากรถ ยิ่งยุคสมัยนี้ ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ก็ยิ่งทำให้ลูกค้าหลายราย หันมาใช้บริการ Drive-thru กันมากขึ้น
5. รักษาคุณภาพให้ดีอย่างต่อเนื่อง
“จากวันแรกที่ทำซาลาเปาให้ลูกทาน มาจนวันนี้กว่า 3 ทศวรรษ สิ่งที่เราทำให้ลูกค้าทาน ก็เหมือนกับที่ทำให้คนในครอบครัวทาน”
เป็นคำพูดของคุณวราภรณ์ สุธัญญา ผู้ก่อตั้งวราภรณ์ ซาลาเปา
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ทุกกระบวนการผลิตและทำอาหารทุกอย่างของวราภรณ์ ซาลาเปา จึงใส่ใจในคุณภาพ เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีงามที่สุด เหมือนทำให้คนในครอบครัวทาน
และหลายคนอาจแปลกใจถ้าได้รู้ว่า จริง ๆ แล้วชื่อ “วราภรณ์ ซาลาเปา” ไม่ได้เกิดมาจากคนในครอบครัวตั้งให้ แต่มาจากลูกค้า ที่มักจะโทรมาสั่งซื้อซาลาเปาจากคุณวราภรณ์ เป็นประจำในช่วงแรก ๆ
เพราะทุกครั้งที่คุณวราภรณ์รับสายลูกค้านั้น มักจะบอกว่า “ใช่คุณวราภรณ์ที่ขายซาลาเปาไหม” พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณวราภรณ์จึงเอาชื่อ “วราภรณ์ ซาลาเปา” มาใช้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นั่นเอง
ลองมาดูผลประกอบการของ บริษัท วราภรณ์ สมพงษ์ ฟู้ดส์ จำกัด
ปี 2561 รายได้ 969 ล้านบาท กำไร 125 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 1,025 ล้านบาท กำไร 108 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 1,143 ล้านบาท กำไร 114 ล้านบาท
จากจุดเริ่มต้นที่ทำซาลาเปาทานกันภายในครอบครัว ใครจะไปคิดว่า วราภรณ์ ซาลาเปา จะสามารถสร้างรายได้เป็นหลักพันล้านบาท
จากเรื่องราวของวราภรณ์ ซาลาเปา บอกเราได้ว่า หลายครั้งธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ก็เกิดมาจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ ต่อยอดพัฒนามาทีละนิด จนประสบความสำเร็จจนใหญ่โตอย่างที่ทุกคนเห็นในวันนี้
ดังนั้น ถ้าวันนี้เรากำลังทำธุรกิจอะไรอยู่ แม้ว่ามันจะยังเป็นเพียงธุรกิจเล็ก ๆ แต่ถ้าเราเชื่อว่า มันเป็นสิ่งที่เราทำแล้วชอบ มีความเชี่ยวชาญและอินไปกับมัน เราก็พยายามทำต่อไป ค่อย ๆ สั่งสมประสบการณ์ อาจลองผิดลองถูกไปบ้าง
ถึงแม้ว่าบางครั้งมันอาจมีความล้มเหลวหรือผิดพลาดระหว่างทาง
แต่อย่าล้มเลิกไปก่อนง่าย ๆ เพราะไม่แน่วันหนึ่งเราก็อาจประสบความสำเร็จ แบบวราภรณ์ ซาลาเปา ก็ได้..
References
- 56
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
