ไม่อ้วนเราไม่จบ... มุกเก่าๆในช่วงของแพงแบบนี้ ผมขอเสนออาหารแพงๆไม่กี่ชนิดที่สามารถแสดงความปรารถนาในความเอร็ดอร่อยด้วยวิธีทำแบบง่ายๆ อันได้แก่ กากน้ำมันหมู ,กากไก่ หรือ หนังปลากรอบๆกัล.....
ตามผมมาครับ มาทำอาหารง่ายๆในยุคหมูแพงกัล....
ด้วยความนิยมของกากน้ำมันหมูสะท้อนให้เห็นความพากเพียรและความประหยัดได้อย่างลงตัว และสะท้อนถึงภูมิปัญญาในความหยั่งรู้ในอาหารของชาวเอเชีย...
ไม่ยากนักที่จะจินตนาการว่าบรรพบุรุษของเราที่ค้นพบ "กากหมู" ที่ในครั้งแรกจะจ้องเขม็งกับคราบน้ำมันในหม้อทอดเป็นเวลานานๆ ด้วยความงุนงง เพื่อหาเหตุผลซ้ำๆ และเพื่อเกลี้ยกล่อมตัวเองว่ามันเป็นแค่สารตกค้างที่หลงเหลือ
แต่ก็หอมเกินกว่าจะหาอะไรทดแทนได้อีก และดูเกินกว่าเหตุผลที่จะโยนมันทิ้งไป
การกัดเพียงครั้งเดียว(แต่แน่นอน...ไม่ใช่ชิ้นเดียว)ที่สามารถกำหนดรายละเอียดรสชาติที่สืบทอดมานับพันปี
เนื้อสัมผัสของมันขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้ทำอาหารและศิลปะแห่งไฟ บางครั้งกรอบ บางครั้งแข็งเล็กน้อย กัดแล้ว กลิ่นหอมมันในปากก็ระเบิดออกมา
กากหมู เป็นผลพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันหมู หลังจากคายน้ำมันรอบสุดท้ายออก น้ำมันก็เทกลับลงในหม้อ เพื่อเก็บไว้ใช้เป็นน้ำมันทอดในครั้งต่อไป.
กากน้ำมันหมูนั้นทำง่าย และยากในคราวเดียวกัน
กล่าวคือตอนนี้ไม่มีเงินซื้อเนื้อหมู......
![[ชตระกูล ศรีสวัสดิ์] มุกนี้ตามข้อมูล การถกปัญหาหมูแพง พบผลผลิตลดลงจากปีก่อน สถิติเผยคนไทยกินหมูลดลง เหลือ 16 กก./คน/ปี โดยนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยปัญหาราคาหมูแพง สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้มีการประกาศปรับราคาจำหน่ายสุกรมีชีวิตเป็น 84 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564](https://t1.blockdit.com/photos/2022/01/61d023b8d395037217adf7cf_800x0xcover_8rK15PGb.jpg)
สิ่งสำคัญคือการเจียวไขมันของหมูลงในกระทะ แล้วรอ รอ ไฟและน้ำมัน
เพื่อให้ไขมันที่ออกมาในกระทะทำปฏิกิริยาจนหมูสุก เมื่อไม่มีอะไรจะละลายออกมาแล้วให้ใช้กระชอนรับกากหมูเพื่อแยกออกมา
กากน้ำมันหมูเป็นน้ำมันชนิดหนึ่งที่แม่บ้านพ่อบ้านผลิตได้เอง อย่างน้อย น้ำมันหมูสามารถให้ความชุ่มชื้นได้ และน้ำมันหมูที่ตกค้างจากน้ำมันที่ทอดออกมาก็เป็นเรื่องของความประหยัด และความสุข
ไม่ว่าน้ำมันจะมาจากพืชหรือน้ำมันจากสัตว์ คนเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้มาเป็นเวลานาน
สำหรับบรรดาผู้ที่ทุกข์ทรมานจากอาหารที่ไร้น้ำมัน กับความทรงจำที่เต็มไปด้วยความหิวที่ทั้งก่อนและหลัง
เหมือนมันรอความปรารถนาในการสัมผัสกับอาหารอันโอชะนี้มาตลอด...
เมื่อพวกผู้ใหญ่ต้มน้ำมันหมู พวกเขามักจะพูดถึงวิธีที่พวกเขาทอดและเคี่ยวมันไปรอบๆหม้อ
เมื่อพวกเรายังเด็ก และล้อมวงกันเต็มเตา แต่พวกเราหวังเพียงว่าไฟจะลุกไหม้อย่างรวดเร็วขึ้นและน้ำมันจะถูกปล่อยออกมาเร็วขึ้นเพื่อคว้า กากหมูคำแรก ที่มีคราบมันเยิ้ม
สิ่งที่พวกเรากินคือความอร่อยที่เต็มปาก
และสิ่งที่พวกผู้ใหญ่ได้ คือความอิ่มเอมใจและความพึงพอใจ
จากวันนั้นของน้ำมันหมูที่เดือด ,กากไขมัน ได้กลายเป็นความประทับใจแรกและลึกที่สุดของความสุขเมื่อพวกเราได้กิน
คนกลัวความหิว ....ซึ่งเป็นธรรมดา.... ในท่ามกลางความอดอยาก
และถึงแม้จะอิ่มแล้ว พวกเขาก็ต้องศึกษาวิธีถนอมอาหารรสเลิศชนิดนี้ไว้ เพื่อเก็บไว้กินได้นานๆ
บรรพบุรุษของเราทำการวิจัยและพัฒนาอาหารโดยส่วนใหญ่มาจากการกระจายทรัพยากรทางการเงินด้านอสังหาริมทรัพย์ ในสถานที่ที่ร่ำรวยกว่า อาหารที่ผลิตเพื่อกินสด ๆ เล่นกับรสชาติของอาหารที่บริสุทธิ์นี้
แต่ในที่สุดคนก็เต็มใจที่จะเพิ่มวัสดุในการเปลี่ยนแปลง ในธรรมชาติของอาหารชนิดนี้ พวกเขาก็ต้องศึกษาวิธีถนอมอาหารรสเลิศเป็นขั้นๆไป...
![[ชตระกูล ศรีสวัสดิ์] ท้ายที่สุดแล้วอิซากายะไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ทำให้อิ่มท้องเท่านั้น!](https://t1.blockdit.com/photos/2022/01/61d1b9b51ab71576d5f1a9f6_800x0xcover_KiA46u1m.jpg)
ปกติผู้ที่กินอาหารสดตามฤดูกาลจะปฏิบัติตามหลักโดยธรรมชาติ และอาหารก็สอดคล้องกับเวลาและสถานที่ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี....
และเมื่อผู้คนมีจำนวนมากขึ้นสนใจแค่ว่าอาหารที่หามาโดยยากลำบากจะเก็บไว้ได้นานแค่ไหน และนานแค่ไหนที่อาหารนั้นสามารถเป็นอาหารแก้ความหิวกระหายได้
....การรับประทานอาหารให้"อิ่ม"เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกเสมอ....
แม้ว่าอาหารที่บ้านจะค่อนข้างซ้ำซากจำเจ
แต่ความกระหายในอาหารอร่อยไม่เคยหยุดนิ่ง
เป็นเพียงจินตนาการที่ถูกจำกัดด้วยขอบเขตของชีวิต ซึ่งนำไปสู่จินตนาการของอาหารที่แสดงรูปลักษณ์ที่โรแมนติกและเรียบง่าย
มีนิทานพื้นบ้านหลายเรื่องในความฝันนี้ "น้ำตาล"จะเป็นตัวเอกเสมอ
เพราะพวกเขารอไม่ไหวที่จะเว้นที่ให้น้ำตาลสำหรับทำเค้ก เพราะนั้นคืออาหารแบบฝรั่ง
แล้ววิธีถนอมอาหารแบบบ้านๆชนิดนี้เกิดขึ้น
วิธีการกินกากน้ำมันหมู ที่มีน้ำตาลทรายขาวโรยหน้าจึงเกิดขึ้น
การผสมผสานของการถนอมอาหารและน้ำตาลทรายขาว ทำให้จินตนาการชีวิตให้เป็นอาหารอันโอชะจนได้
มันช่างหอมหวานและหอมกรุ่น
อย่างไรก็ตาม การกินวิธีนี้ไม่ดีต่อสุขภาพ
อัตราส่วนของกากน้ำมันหมูกับน้ำตาลผิดไปเล็กน้อย ทำให้มันเยิ้มง่าย หากน้ำตาลเยอะ จะเจ็บและแสบคอ การถนอมอาหารแบบนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะชื่นชอบ
ถ้าคุณไม่ชอบน้ำตาล หรือเป็นเบาหวาน ให้โรยเกลือลงบนกากน้ำมันหมู และความเค็มจะกลมกลืนไปกับกลิ่นหอมดั้งเดิมของน้ำมัน ทำให้เกิดกลิ่นรสเค็มและเติมเต็มความต้องการในรสชาติแบบอื่นๆ (แต่ไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นความดัน และโรคไต)
กากน้ำมันหมูไม่เพียงแค่กลิ่นหอม แต่ยังใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
การสับเปลี่ยนระหว่างรสเค็มและรสหวานนั้นไม่เพียงพอต่อการพิสูจน์ความยืดหยุ่นในการถนอมอาหาร และผู้คนจำนวนมากชื่นชอบใช้กากน้ำมันหมูเป็นวัสดุเสริม
ยกตัวอย่างเมื่อผัดกากหมูรวมกับกะหล่ำปลีและหรือผักใบเขียว รสชาติทั้งหมดจะเข้มข้นขึ้นทันที กลิ่นหอมของคราบน้ำมันจะกระจายบนผัก และกากน้ำมันจะดูดซับเพิ่มความใสของผัก ทั้งสองขั้นตอนจะถูกทำให้เป็นกลาง และอร่อย...
ไม่ว่าคุณจะใช้น้ำซุปหรือทำบะหมี่ก็ตาม ให้เติมกากหมูเพื่อเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอม บะหมี่แต่ละคำจะไม่ซ้ำซากจำเจอีกต่อไป มันถูกปกคลุมด้วยกากน้ำมันที่กลั่นแล้ว
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทำไส้ เช่น เกี๊ยว ,ไส้ซาลาเปา และส่วนผสมอื่น ๆ ได้ มันเป็นตัวเด่นในรสสัมผัสที่ได้รสชาติของกากน้ำมันหมู
นอกจากนี้ยังมีอาหารอันโอชะอีกมากมายที่ใช้กากหมูตามลักษณะเฉพาะของท้องถิ่น เรียกได้ว่า มันมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา และทุกๆ อย่างล้วนเกี่ยวข้องกับจินตนาการของอาหารในบ้านเรา
ด้วยกลิ่นน้ำมันหมูมีกลิ่นที่หนัก และจะบรรเทาความอยากอาหารได้มาก
บางคนชอบกลิ่นหอมของน้ำมันที่เข้มข้นนี้ และบางคนก็กลับออกมาต่อต้านน้ำมันอย่างรุนแรง
กากน้ำมันหมูนำความอร่อยมาจากอดีต แต่ง่ายที่จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้เช่นเดียวกัน
สำหรับเหล่าผู้เฒ่าผู้แก่ ผมจึงไม่ปลื้มใจที่จะแนะนำให้รับประทาน
กากหมู ถือได้ว่าเป็นกรณีตัวอย่างของการขัดเกลาทางสังคมทางอาหาร แต่ครั้งต่อไป หากคุณเติบโตขึ้น คุณต้องคิดเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการบริโภคไขมัน(แม้มันทำให้เรามีความสุข)และอาจทำให้ร่างกายไม่สบายได้ในภายหลัง
ไขมันเป็นคำตัดสินนิรันดร์ที่เขียนขึ้นโดยคนที่อยู่ห่างไกลจากมัน บางคนรู้สึกวิงเวียนและท้องอืดและอยากจะอาเจียน พวกเขาทั้งหมดมีความเห็นตรงกันว่าสารตกค้างจากน้ำมันหมูนั้นอันตรายมาก
กากหมูไม่เหมือน ผัก หรือ ผลไม้ แม้ว่าจะมีรสชาติที่โดดเด่นตรงจุดรับรส แต่น้ำมันก็สัมพันธ์กับชีวิต และโรคภัยอย่างใกล้ชิด
ตามแนวคิดของอาหารในปัจจุบันนี้ หากคุณละทิ้งความต้องการในการเอาตัวรอด
กินอาหารใกล้ ๆ ง่ายๆ กับอาหารที่คุณโปรดปราน และอยู่ห่างจากความขยะแขยง กากหมูจะเพียงแค่เหมือนการเอาใจคู่รัก แอบยืนเคียงข้างอยู่คนเดียวดูเหมือนจะไม่โต้แย้ง จนแอบเป็นของเคียงในบะหมี่หมูน้ำตก ฮาาาาาาาา
ไม่ว่าความต้องการกากหมูและน้ำมันหมูโดยรวมจะลดลงเท่าไร ก็ไม่มีวันหายไป
กากและน้ำมันหมูที่หลงเหลืออยู่จะนำความทรงจำอันล้ำค่าของปู่ย่าตายายของเราไปสู่ลูกหลานของเราต่อไป
จะมีผู้ปกครองบอกลูกหลานเสมอว่าพวกเขาได้ลิ้มรสช่วงเวลาที่สวยงามของกากน้ำมันหมูเป็นครั้งแรกเมื่อไหร่....
แล้วคุณล่ะครับ...ก่อนราคาเนื้อหมูจะขึ้นราคาคุณแอบกินกากหมูครั้งสุดท้ายไปเมื่อไหร่....
- 22
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
