13 ธ.ค. 2021 เวลา 14:46 • ไลฟ์สไตล์
เพราะมันเป็นความกลัว มันจึงน่ากลัว
จีออฟ ทอมป์สัน ได้กล่าวไว้ว่า "ความกลัวเปรียมเสมือนไฟ คุณสามารถทำให้มันเกิดประโยชน์กับคุณได้ แต่ถ้าหากคุณไม่สามารถควบคุมมันได้มันอาจทำให้คุณเจ็บ หรือพรากชีวิตไปจากคุณได้"
ผู้คนมักนิยามความกลัวอยู่ 2 ประเภท
1. กลัวแล้วหยุดนิ่ง
2. กลัวแล้วเคลื่อนไหว
เมื่อเรายิ่งคิด ยิ่งวิเคราะห์ กับอะไรบ้างอย่างแล้วทำให้เราเกิดความกลัว ความกลัวนี้คือความกลัวที่ทำให้คุณหยุดนิ่งและพลาดโอกาศสำคัญได้
ความกลัวที่ทำให้คุณศึกษาและหาข้อมูลเพิ่มเติมในสิ่งที่คุณกลัว ความกลัวเหล่านี้จะค่อยๆจางหายไป และความกลัวนี้แหละเป็นตัวคับเคลื่อนให้คุณไปข้างหน้าเพื่อพบเจอกับโอกาศมากมายที่คุณมิอาจคิดฝันได้
ความกลัวเป็นสิ่งที่แปลกมาก เพราะทุกครั้งที่ผมพังทลายความกลัวได้ ผมก็มักพบว่าความกลัวมักจะมาพร้อมกับ โอกาศ และประสบการณ์ ที่มิอาจประเมินค่าได้
ในตอนที่ผมยังเรียนอยู่ มัธยมต้น มีความกลัวมากมายที่อยู่ในหัวของผม กลัวการเข้าสังคม กลัวการไม่รู้ กลัวความจริง กลัวการเติบโต (จริงๆหลายๆความกลัวก็ไม่ได้หายไปไหนครับ มันแค่เล็กลงเท่านั้น) อันที่ผมจำได้ขึ้นใจเลยคือ กลัวการแสดงออกต่อหน้าผู้คน ผมกลัวการที่จะต้องออกมานำคนอื่น แม้แต่การออกมานำกิจกรรมหน้าเสาธงของโรงเรียน ซุึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผมครุ่นคิดและมิอาจก้าวข้ามความกลัวนี้ไปได้ ซึ่งจำนวนครั้งที่ผมได้ก้าวข้ามนั้นก็น้อยมากจนไม่ได้ทำให้ความกลัวเล็กลงเลยครับ (แถมยังกลัวผิดพลาดมากยิ่งขึ้นอีก)
ต้องขอบคุณช่วงเวลาของการปิดเทอมหลังเรียนจบเป็นอย่างมาก ช่วงเวลานั้นผ่านไปเร็วมากจนผมมิอาจจำเหตุการณ์ต่างๆได้อย่างสมบูรณ์ (ไม่สมบูรณ์ จ้าาา) เป็นช่วงเวลาที่ผมได้มีโอกาศคิดทบทวนกับเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ณ ช่วงเวลานั้น และตั้งคำถามกับตนเองว่า ถ้าได้พูดคุยกับตนเองในอดีตอยากกลับไปแนะนำอะไรให้เขา เพื่อให้เขาในอีก 5 ปีข้างหน้าไม่ต้องเสียใจกับสิ่งที่ทำในวันนี้ และแน่นอนครับมันก็คือเรื่องของความกลัว ผมอยากที่จะกลับไปฝึกฝนทักษะต่างๆที่ถูกปิดกั้นด้วยความกลัว เพราะผมรู้ว่าถ้าผมไม่รีบฝึกทักษะต่างๆที่ถูกปิดกั้นด้วยความกลัวในตอนนี้ ผมอาจพลาดโอกาศและประสบการณ์ต่างๆมากมาย หรือที่แย่กลัวนั้นคือ ผมอาจไม่สามารถก้าวข้ามมันได้อีกต่อไป เพราะความกลัวมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และโอกาศในการก้าวข้ามก็น้อยลงทุกที
หลังจากเรียน มัธยมปลาย ผมกลายเป็นคนกลัวการปฏิเสธมาก ผมต้องคิดอยู่เสมอว่าถ้าผมปฏิเสธ กับสิ่งนี้ จะทำให้ผมพลาดโอกาศต่างๆที่ตามมาหรือไม่ เราไม่มีสิทธิ์รู้ว่าถ้าเราตอบตกลง จะมีโอกาศต่างๆเข้ามาหาเราหรือไม่ แต่ถ้าเราตอบปฎิเสธ โอกาศต่างๆเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นแน่ๆครับ
มัธยมปลาย มอบโอกาศต่างๆให้ผมมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ผมเปลี่ยนไปคือการก้าวข้ามความกลัวการนำกิจกรรมหน้าเสาธง ในตอนเริ่มต้นความกลัวเหล่านั้นก็ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ ความกลัวเหล่านี้แค่ถูกสั่นคลอนจนความกลัวเหล่านี้พบเจอกับความกลัวใหม่ๆคือ กลัวการไม่ได้ฝึกฝนตนเอง กลัวการที่จะต้องพลาดโอกาศในอนาคต กลัวการที่ยังต้องกลัวการขึ้นมานำผู้อื่น ความกลัวเหล่านี้มันใหญ่ซะจนทำให้ความกลัวการขึ้นมานำหน้าเสาธงเล็กลงไปจนอาจมองไม่เห็นในบางครั้ง
ในช่วงเวลานั้น ผมลงโทษตนเองโดยการขึ้นนำบ่อยมาก เพื่อทดแทนตัวผมในตอนมัธยมต้น ที่ถูกความกลัวบดบัง
จนถึงตอนนี้แล้วความกลัวเหล่านั้นไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ มันแค่เล็กลงไปเท่านั้นเอง และผมก็รู้เสมอครับว่า วันหนึ่งมันอาจกลับมายิ่งใหญ่ก็ได้ถ้าผมไม่ฝึกฝนต่อไป แต่จะยังไงก็เถอะผมก็พร้อมปะทะกับความกลัวเหล่านี้เสมอถ้ามันคิดว่ามันแน่.......
แล้วคุณล่ะ มีความกลัวที่ยังก้าวข้ามไม่ได้หรือไม่ ?
โฆษณา