14 ธ.ค. 2021 เวลา 00:09 • คริปโทเคอร์เรนซี
ประวัติ Ethereum ตอนที่ 8 : The Insider
1
“นี่ไม่ใช่โอกาสการลงทุนสำหรับคุณจริง ๆ” นั่นคือคำแนะนำของ Ken Seiff เกี่ยวกับ Ethereum ในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 Ken ก็เหมือนคนส่วนใหญ่ที่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับ Ethereum แต่ Ashley Tyson เพื่อนของเขาได้ส่งอีเมลถึงเขาในหัวข้อ “Bitcoin and Things” ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับ Ethereum ปรากฏอยู่
3
ประวัติ Ethereum ตอนที่ 8 : The Insider (CR:cinemonic.com)
“พวกเขากำลังจะทำ IPO ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” Ashley กล่าวกับ Ken “มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้คนพูดถึงมากที่สุดในชุมชม Bitcoin”
2
Ashley ซึ่งเคยร่วมงานกับ Amir ได้เสนอที่จะแนะนำ Ken ให้รู้จักกับเหล่าผู้ก่อตั้ง Ethereum ในการประชุมในเดือนมีนาคมที่จะจัดขึ้นที่เมืองออสติน ประเทศสหรัฐอเมริกา
2
ที่นั่น Ken ได้เจอกับ Gavin และ Vitalik แต่ต้องบอกว่า Ken เคยชินกับการพบปะสังสรรค์กับผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีและคนฉลาดระดับท็อปใน Silicon Valley เขาเคยก่อตั้งบริษัทค้าปลีกออนไลน์และรอดจากยุคฟองสบู่ดอทคอม และทำงานให้คำปรึกษาสำหรับแผนกต่าง ๆ ของ Amazon , Google และบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อีกมากมาย
2
แต่ต้องบอกว่าหลังจากที่เขาได้คุยกับทั้ง Gavin และ Vitalik มันต่างกันมาก คำตอบของพวกเขาหลังจากที่ Ken ถามเกี่ยวกับโครงการ Ethereum นั้นมีความลึกซึ้ง และ ทะเยอทะยานมากกว่าหลาย ๆ คนที่เขาได้เคยคลุกคลีมา
1
Ken กลับมาที่นิวยอร์ก พร้อมซื้อ Bitcoin มาจำนวนหนึ่ง Ken เริ่มเข้าใจดีว่า Bitcoin นั้นเป็นทั้งสกุลเงินดิจิทัลและมี blockchain เป็นพื้นฐาน แต่ Ethereum นั้นแตกต่าง มันไม่ใช่แอปพลิเคชั่น เหมือนที่มีอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตทั่วไป แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นโปรโตคอลพื้นฐานสำหรับหลายโครงการ เช่น อินเทอร์เน็ต นั่นทำให้เขาเชื่อว่าหาก Ethereum ประสบความสำเร็จจริง ๆ มันจะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างมา
4
ซึ่งเฉกเช่นเดียวกับ Ken ผู้คนจำนวนมากรู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับ Ethereum ภายในเดือนมิถุนายน 2014 ก่อนที่พวกเขาจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ มีการพบปะกับสาวก Ethereum ในเมืองต่าง ๆ 49 เมือง ตั้งแต่โตรอนโต ไปจนถึงแฟรงเฟิร์ต ฮ่องกง และบัวโนสไอเรส
1
เป็นการรวมกลุ่มเล็ก ๆ ของคน 20-30 คน ที่มีการรวมตัวกันในบาร์หรือโคเวิร์คกิ้งสเปซเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาจะสามารถสร้างขึ้นในแพลตฟอร์ม blockchain ใหม่นี้ และเพื่อฟังข้อคิดเห็นจากสมาชิกชาว Ethereum ทั่วโลก รวมถึงการอธิบายรายละเอียดของโครงการเพิ่มเติม
1
การขายต่อสาธารณชนเป็นจุดสนใจใหญ่ที่สุดของทีม Ethereum ด้วยคำถามทางกฏหมายและการตัดสินใจที่จะเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ในที่สุดพวกเขาก็พร้อม ในเดือนกรกฎาคม 2014 พวกเขาได้ก่อตั้งบริษัทจำกัดในสวิตเซอร์แลนด์ หรือ Gmbh ชื่อ EthSuisse และสร้างมูลนิธิ Ethereum ซึ่งบริษัทจะถูกยุบทันทีหลังการขาย จากนั้นมูลนิธิจะจัดการกองทุนต่อไปเพื่อสนับสนุนการพัฒนาแพลตฟอร์มและโครงสร้างพื้นฐนาน โค้ดทั้งหมดจะเป็นโอเพ่นซอร์สและฟรี
4
ในที่สุดการขายก็เริ่มต้นในวันที่ 22 กรกฎาคม 2014 เวลาเที่ยงคืนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เว็บไซต์ที่พวกเขารวบรวมเพื่อขายมีตัวนับจำนวน Ether ที่ขายแบบเรียลไทม์ และทีมงานก็เฝ้าดูด้วยความโล่งอก เมื่อตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ มีการขาย Ether มากกว่า 7 ล้าน Ether หรือประมาณ 2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 12 ชั่วโมงแรก
3
ในช่วงเริ่มต้นของการขายใน 14 วันแรก ราคาถูกกำหนดไว้คงที่ โดย 1 bitcoin = 2,000 ether เมื่อสิ้นสุดระยะเวลา 14 วัน จำนวนจะลดลงและจะมีราคาสุดท้ายที่ 1 bitcoin = 1,337 ether ซึ่งหมายความว่า 1 ether มีมูลค่า 0.0007479 bitcoin หรือราว ๆ 30 เซ็นต์ ที่ราคา bitcoin ในเดือนกันยายน 2014
2
ผู้ซื้อสามารถซื้อ ether ได้เท่าไหร่ก็ได้ที่ตัวเองต้องการ เมื่อนักลงทุนส่ง bitcoin ของพวกเขาไปยังที่อยู่ของกระเป๋าเงิน EthSuisse พวกเขาจะไม่ได้รับ ether ในทันที พวกเขาจะได้รับกระเป๋าเงิน Ethereum และรหัสผ่านที่อนุญาตให้เข้าถึง ether เมื่อแพลตฟอร์มเปิดตัว ซึ่งจะเป็นวิธีลดการเก็งกำไรจากการขาย และให้โทเค็นถูกซื้อขายได้เพียงครัั้งเดียวเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้จริง
3
ซึ่ง ทีม Ethereum จะสร้าง ether ตามจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นในการขายเมื่อมีการขุดบล็อกแรกในบล็อกเชน Ethereum จริง ๆ โดยจะมี ether กลุ่มที่สองที่จะออกให้กับผู้ร่วมก่อตั้งและสมาชิกในทีมรุ่นแรก ๆ ซึ่งจะคิดเป็น 9.9% ของจำนวนเงินที่ระดมได้ และกลุ่มที่สามของ ether จะถูกสร้างขึ้นสำหรับมูลนิธิ Ethereum
โดยการออกสกุลเงินดิจิทัลประเภทนี้เรียกว่า “premine” เนื่องจากเหรียญจะถูกสร้างขึ้นก่อนที่เครือข่ายจะสร้างโทเค็นด้วยตัวเอง เช่นเดียวกันที่ Bitcoin ที่ให้รางวัลแก่ผู้ขุด
1
แนวคิดนี้กลายเป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้าง เนื่องจากมีบางคนที่โต้แย้งว่า Satoshi Nakamoto ได้ให้โอกาสแก่ทุกคนที่สนใจพร้อม ๆ กันในการรับ Bitcoin เมื่อเครือข่ายเปิดตัว ซึ่งอุปทานของเหรียญทั้งหมดจะถูกสร้างขึ้นโดยนักขุด
1
ส่วน Ethereum และ โครงการอื่น ๆ ที่มีการขุดเหรียญของพวกเขา ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเนื่องจากมีการควบคุมอุปทานของสกุลเงินดิจิทัล จากหมู่คนวงใน ซึ่งมันไม่ใช่แนวคิดแบบกระจายอำนาจ คนวงในเหล่านี้สามารถจัดการราคาหรือมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจต่าง ๆ แต่ที่ Ethereum ทำแบบนี้ก็เพื่อให้แนวคิดของพวกเขาสามารถดำเนินการได้ถูกต้องตามกฏหมาย
ในขณะที่คำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ 7 ของการขายต่อสาธารณชน ตรงกับวันอังคารที่ 29 กรกฎาคม Ken ตัดสินใจที่จะกระโดดเข้าร่วมวงด้วย
Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 580 ดอลลาร์ในวันนั้น ทำให้ราคา 1 ether อยู่ที่ประมาณ 0.29 ดอลลาร์ Ken มองว่า Ethereum ยังอยู่ในเฟสเริ่มต้น นั่นหมายความว่า ether มีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก แต่ก็มีโอกาสจะล้มเหลวเช่นเดียวกัน แต่ Ken มองว่า Ethereum มีความสามารถในการสนับสนุนแอปพลิเคชั่นบล็อกเชนทุกประเภท และยังมีศักยภาพที่จะยิ่งใหญ่กว่า Bitcoin ในอนาคต เขาจึงเดิมพันไปเต็ม max สูงสุดที่ซื้อได้ราว ๆ 500,000 bitcoin
4
Ken Seiff ที่เลือกเดิมพันกับ Ethereum (CR:Twitter)
บทสรุปสุดท้ายของการเปิดขายต่อสาธารณชน มีผู้ซื้อ ether ไปราว 60 ล้านเหรียญ ที่ประมาณ 30 เซ็นต์ต่อเหรียญ ระดมทุนได้ทั้งสิ้น 18.3 ล้านเหรียญสหรัฐ มันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ ของ Ethereum ซึ่งกลายเป็นโครงการคราวด์ฟันด์ดิ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์อินเทอร์เน็ต
ทีมงานที่เหลือที่อยู่ที่เมือง Zug ต่างตกแต่งบ้านด้วยแบนเนอร์สีสันสดใส และถือโอกาสเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ มีหน้าจอแสดงจำนวนการ ether และ bitcoin ที่ไหลเข้ามาในระบบ และสัญญาณจะเด้งเตือนมีคำสั่งซื้อใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยVitalik ได้ออกแบบทั้งระบบสำหรับการคำนวณการจัดสรรตามวันที่ที่เหล่าทีมงานเข้ามาร่วมโครงการ และจำนวนชั่วโมงที่พวกเขามีสวนร่วมในโครงการ ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่นักวิจารณ์ในฟอรัม BitcoinTalk และที่อื่น ๆ ไม่ได้ยินดีไปกับความสำเร็จของ Ethereum เนื่องจากมองว่า Ethereum กำลังถูกควบคุมโดยมูลนิธิ และทีมงาน Ethereum มันไม่ใช่ระบบกระจายอำนาจที่แท้จริงเหมือน Bitcoin
4
Preston Byrne ทนายความที่มุ่งเน้นไปที่บริษัทในระยะเริ่มต้นและธุรกิจในสกุลเงินดิจิทัล เผยแพร่บล็อกโพสต์เมื่อเดือนเมษายน ปี 2018 โดยระบุว่า
1
“Ether ส่วนใหญ่ขายในโทเค็นก่อนการขายจริงในปี 2014 เพื่อแลกกับ Bitcoin ซึ่งอาจถูกแจกจ่ายให้กับบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก่อน”
1
เขาได้วิเคราะห์ถึงการเคลื่อนไหวของ bitcoin ที่ไหลผ่านระบบ ที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนถูกออกแบบมาโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ คล้ายลักษณะการทำงานของบอท
2
Preston Byrne ที่ออกมาตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการระดมทุนของ Ethereum (CR:Coindesk)
รายงานจาก Chainanalysis ได้ยืนยันข้อสองสัยโดยพบกว่าการกระจายของ Ether นั้นมีคน 376 คนที่ถือครอง Ether กว่า 33% ของประมาณการไหลเวียนของ Ether ทั้งหมด
รวมถึงนักวิจัยสกุลเงินดิจิทัลนิรนามสคนหนึ่งที่ใช้ชื่อออนไลน์ Hasu ได้ทำการวิเคราะห์การขายเพิ่มเติมจากโพสต์ของ Byrne เขาพบว่าความต้องการที่เพิ่มขึ้นสองครั้งในระหว่างการขาย ครั้งแรกคือตอนเริ่มต้นเปิดขายสู่สาธารณชน และอีกครั้งเมื่อสิ้นสุดระยะเวลา 42 สัปดาห์ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ปรกติ และไม่มีคำอธิบายจากทีมงาน Ethereum
ขณะที่ Vitalik ออกมาปฏิเสธในเรื่องดังกล่าว เขาไม่มีส่วนร่วมในการยักย้ายถ่ายเทใด ๆ และไม่มีส่วนร่วมกับปฏิบัติการใด ๆ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอาจจะมีทีมงานของเขาทำแบบนั้นหรือไม่ เขาแทบไม่มีเงินเพียงพอที่จะลงทุน เนื่องจากเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสร้าง Ethereum
ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องผิดปรกติมาก ๆ ที่กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ไม่มีแผนธุรกิจและแทบจะไม่มีผลิตภัณฑ์ใด ๆ แทบไม่ต้องพูดถึงรายได้ สามารถหาเงินหลายล้านดอลลาร์จากผู้คนหลายพันคนจากทั่วทุกมุมโลก
2
ก่อนหน้านี้ใครก็ตามที่ต้องการซื้อหุ้นในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง Facebook หรือ Google จะต้องมีบัญชีธนาคารในสหรัฐอเมริกา และยิ่งจะซับซ้อนขึ้นไปอีกสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนใน startup ในเฟสแรก ๆ แต่ตอนนี้ใครก็สามารถลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดแห่งหนึ่งได้ แค่มีเพียงอินเทอร์เน็ตและ bitcoin อย่างน้อย 0.01 bitcoin เพียงเท่านั้น
2
อ่านตอนที่ 9 : Stable or Unstable?
ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรก & Credit แหล่งข้อมูลบทความ
ผู้สนับสนุน..
บริษัท ดาวิน เทคโนโลยี (Davin Technology) เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมทางการเกษตร การประมง และปศุสัตว์ ได้จัดตั้งขึ้นมาจากการรวบรวมปัญหาและอุปสรรคในการใช้อุปกรณ์ IoT และ Smart Farm จากสภาพใช้งานจริง
ด้วยการประสานความสามารถของอุปกรณ์ให้ติดตั้งง่ายและยืดหยุ่น ให้ทำงานร่วมกับ Application บน Smart Phone และช่วยบันทึกและจัดเก็บทุกสภาพอากาศและปัจจัยต่างๆ เพื่อพัฒนาและปรับใช้ในการควบคุมและเพิ่มผลผลิตอย่างเหมาะสม ผ่านโครงข่าย 4G/5G
สามารถติดต่อให้ ดาวิน เทคโนโลยี เข้าไปเป็นผู้ช่วยคุณได้ที่ https://www.davin.tech/ อัปเดตกิจกรรมและข่าวสารที่ https://www.facebook.com/davin.technology หรือโทร 080-296-2895
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
อย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันในกลุ่มสำหรับ Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
คลิกเลย --> https://bit.ly/3E2DdM8
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา