14 ธ.ค. 2021 เวลา 04:26 • หุ้น & เศรษฐกิจ
SCB 10X บุกโลก Metaverse เล็งตั้งสำนักงานใหญ่ใน The Sandbox แพลตฟอร์มเกมชื่อดังภายในปีหน้า
SCB 10X บริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ เตรียมบุกโลก Metaverse ด้วยการเข้าไปเปิดสำนักงานใหญ่ (Headquarter) ในแพลตฟอร์มเกมโลกเสมือนชื่อดังที่พัฒนาบนเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่าง The Sandbox ซึ่งเปิดให้ผู้เล่นสามารถสร้าง เป็นเจ้าของ และสร้างรายได้จากสินทรัพย์ต่างๆ ภายในเกมได้
มุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer ของ SCB 10X เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างออกแบบ คิดธีมและวางคอนเซปต์ของ Headquarter (HQ) ที่จะเข้าไปเปิดใน The Sandbox ซึ่งคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า เนื่องจากขั้นตอนการวางแผนต่างๆ จะใกล้เคียงกับการสร้างตึกจริงๆ ที่ต้องเริ่มตั้งแต่การหาที่ดิน การพูดคุยกันระหว่างสถาปนิกและวิศวกร การตกแต่งภายนอก ภายใน การเลือกวัสดุ เลือกสี ฯลฯ
“ข้อแตกต่างอาจจะอยู่ที่ใน Metaverse เราไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเพราะมันไม่ถล่มอยู่แล้ว ทำให้จินตนาการได้กว้างขึ้น ตอนนี้ทีมของเรามีการประชุมกันเรื่องนี้ทุกสัปดาห์ ซึ่งคอนเซปต์เบื้องต้นเราก็อยากให้มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยอยู่ เป็นศูนย์รวมของ Thai Community ใน The Sandbox” มุขยากล่าว
อย่างไรก็ดี ในแง่ของการถือครองที่ดินในโลกเสมือนนั้น เนื่องจาก SCB 10X อยู่ภายใต้ธนาคาร จึงไม่สามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลได้ เนื่องจากหน่วยงานกำกับยังไม่อนุญาต ทำให้บริษัทอาจต้องหันไปใช้วิธีเช่าที่ดินในโลกเสมือนแทน
มุขยากล่าวว่า เมื่อสร้างเสร็จแล้ว HQ ของบริษัทใน The Sandbox จะถูกนำไปใช้ได้อย่างหลากหลาย เช่น จัดอีเวนต์เกี่ยวกับบล็อกเชน DeFi ซึ่งผู้ที่ต้องการรับชมหรือฟังสามารถสร้าง Avatar ขึ้นมาเพื่อร่วมงานได้ ขณะเดียวกัน ก็สามารถจัดงานแถลงข่าวหรือเปิดให้คนมาพบกับซีอีโอของแบงก์ในโลกเสมือนได้ ซึ่งปัจจุบันทางทีมได้สร้าง Avatar สำหรับบอร์ดบริหารขึ้นมาแล้ว
1
Avatar ของบอร์ดบริหาร SCB บน The Sandbox
นอกจากนี้ ด้วยความเป็นบริษัทลูกของธนาคารก็อาจมีการตั้งสาขาธนาคารในโลกเสมือนขึ้นใน HQ บน The Sandbox เพื่อให้บริการธุรกรรม เช่น Asset Management หรือรับฝากเงินในโลกเสมือนเพื่อแลกกับผลตอบแทนรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง โดยบริษัทในเครือไทยพาณิชย์อื่นๆ ก็สามารถเข้ามาใช้ HQ ของ 10X ได้ เช่น AlphaX อาจนำรถหรูเข้ามาจัดแสดงในโลกเสมือน
“แต่สิ่งหนึ่งที่เราตั้งใจว่าจะทำใน The Sandbox คือ การเปิดแกลเลอรีแสดงผลงาน NFT ของศิลปินไทยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อเผยแพร่ให้โลกรู้ว่าเรามีศิลปินเก่งๆ ด้านนี้เยอะมาก ทำให้ผลงานของคนไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีศิลปินไทยที่ได้รางวัลจากการประกวดออกแบบใน Metaverse หลายคนแล้ว” มุขยากล่าว
สำหรับงบประมาณสำหรับโปรเจกต์การสร้าง HQ ใน The Sandbox มุขยากล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปออกมาเป็นรายละเอียด แต่เบื้องต้นคงจะมีค่าใช้จ่ายจากการเช่าที่ดินในโลกเสมือนและการจ้าง Outsource นักออกแบบคนไทยบางส่วนที่จะเข้ามาช่วยเสริมทีมที่ SCB 10X มีอยู่แล้ว เพราะโปรเจกต์นี้ต้องใช้คนเยอะพอสมควร โดยเฉพาะกราฟิกดีไซเนอร์
“เราเชื่อว่าโลก Metaverse ที่เป็น Web 3.0 ซึ่งเปิดให้คนสามารถสร้าง เป็นเจ้าของและหารายได้จากสินทรัพย์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์มได้แบบ The Sandbox จะเป็นอะไรที่เติบโตได้อย่างมาก และมีโอกาสที่สินทรัพย์ต่างๆ จะโอนข้ามแพลตฟอร์มระหว่างกันได้ด้วย ใน The Sandbox ตอนนี้ก็เริ่มมีศิลปินดังอย่าง Snoop Dogg เข้ามาร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ มีการถือครองที่ดิน และเร็วๆ นี้น่าจะมีการจัดคอนเสิร์ตใน Metaverse ซึ่งจะดึงดูดคนให้เข้ามาสู่โลกใหม่นี้ได้มากขึ้น” มุขยากล่าว
มุขยากล่าวอีกว่า นอกจาก The Sandbox แล้ว ในอนาคต SCB 10X ยังมีแผนจะเข้าไปลงทุนในโลก Metaverse บนแพลตฟอร์มอื่นๆ เนื่องจากบริษัทมีนโยบายให้ความสำคัญกับการลงทุนใน Disruptive Technologies โดยล่าสุด บริษัทยังได้รับงบลงทุนในกลุ่มบล็อกเชนและ DeFi เพิ่มจาก 50 ล้านดอลลาร์ เป็น 110 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี การลงทุนจะโฟกัสไปที่เทคโนโลยีที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก
เรื่อง: ดำรงเกียรติ มาลา
โฆษณา