@@@ เทวรูปท้าวมหาพรหม "รุ่นมหาเทพสำเร็จทุกสรรพสิ่ง" No.43 @@@
วัดแก้วแจ่มฟ้า สี่พระยา กทม. ปี 2542 ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว เนื้อโลหะผสมรมน้ำตาลเข้มสีเม็ดมะขาม
วัดแก้วแจ่มฟ้ามีการจัดสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ เมื่อปี 2540 แทนหลังเดิมที่ชำรุดทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลา ซึ่งต้องใช้ปัจจัยในการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก วัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นเพื่อหาปัจจัยร่วมสมทบในครั้งนั้นประกอบด้วยหลากหลายชนิด อาทิเช่น..พระผง , รูปหล่อ , เหรียญ , เทวรูปพระพิฆเนศ รวมถึง "เทวรูปท้าวมหาพรหม รุ่นมหาเทพสำเร็จทุกสรรพสิ่ง"
เทหล่อด้วยเนื้อโลหะผสมรมดำ มีขนาดใหญ่มาก หน้าตัก 9 นิ้ว ฐานกว้าง 9.5 นิ้ว ลึก 8 นิ้ว สูง 19 นิ้ว สลัก " ห ม า ย เ ล ข ๔ ๓ " ประจำองค์เทวรูป (ตัวเลขสลักมีสองตัว คาดว่าน่าจะสร้างไม่เกิน 99 องค์)
ตอกโค้ด “ พ ” ไว้ที่มุมบนของฐานด้านหน้าทางขวามือ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง
ใต้ฐานองค์เทวรูปบรรจุพระผงท้าวมหาพรหมทรงกลม ฝังตะกรุดตอกโค้ด ผนึกจีวร รวมทั้งโรยผงตะไบพระกริ่งไว้
ท้าวมหาพรหมเป็นเทพผู้ให้กำเนิด รวมถึงเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของคนในโลก ดังวลียอดฮิตที่ว่า "พรหมลิขิต"
ต้องยอมรับว่าในอดีตที่ผ่านมาศาสนาพุทธกับศาสนาพราหมณ์และฮินดูมีความสนิทชิดเชื้อ แทบจะรวมเป็นหนึ่งเดียว ทั้งในแง่ศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี พิธีการ ความเชื่อ รวมถึงคำที่ไทยเรานำมาใช้ในปัจจุบัน นั้นเป็นตัวอย่างอันดีในการถ่ายทอดวัฒนธรรมสู่กัน
ดังกรณีเช่นเทวรูปบูชาพระพิฆเนศ พระวิษณุ หรือพระพรหม ซึ่งเป็นรูปเคารพอันศักดิ์สิทธิ์ และด้วยแรงความศรัทธา จึงมีการนำมาสักการะบูชาในบ้านเรือนมาตั้งแต่ในอดีตกาล
โดยเฉพาะในส่วนของพระพรหมนั้นเกือบทั้งหมดไม่ทราบแหล่งที่มา หรือสังกัด โดยไม่รู้วัด หรือหน่วยงานที่จัดสร้าง ทำให้เกิดความสับสน เคลือบแคลงใจในการที่จะนำไปสักการะบูชา
ฉะนั้นการได้มาซึ่งเทวรูปบูชาท้าวมหาพรหมที่มีแหล่งกำเนิดที่แน่นอน ปีสร้างที่ชัดเจน ยิ่งมีการตอกโค้ด และสลักหมายเลขกำกับองค์ รวมถึงจัดพิธีเทวาภิเษกที่ศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งมีขนาดใหญ่โตอลังกาล รวมถึงศิลปะเชิงช่างที่เอกอุชั้นครู ย่อมแจ่มแจ้งที่เป็นหลักประกันความศรัทธาในมงคลบารมีที่ได้รับ นำมาซึ่งความสนิทใจในการสักการะบูชาได้เป็นอย่างดี
เป็นอีกหนึ่งองค์หรืออีกหนึ่งรุ่นที่มีรายละเอียดทั่วทั้งองค์แบบ "คมชัดลึก" เป็นที่สุด มิได้ถอดพิมพ์มาจากองค์อื่นอย่างแน่นอน แต่เป็นการสร้างพิมพ์ หรือปั้นหุ่นเทวรูปขึ้นมาใหม่ มีอัตลักษณ์หรือเอกลักษณ์ในตัวเอง ต้องยกเครดิตของช่างผู้ปั้นหุ่น และช่างผู้เทหล่อ รวมถึงช่างตกแต่งองค์เทวรูปก่อนนำเข้าพิธี
เรียกได้ว่าต้องยกนิ้วให้ในความเอกอุของศิลปะเชิงช่าง เพราะสามารถถ่ายทอดผลงานอันทรงคุณค่า คละเคล้าความวิจิตรบรรจง เจือปนความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง ผ่านออกมาทางเทวรูปพระพรหมรุ่นนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกประการ ยากที่จะบรรยายได้ครบถ้วน
เป็นรุ่นเดียวที่มีพุทธา-เทวาภิเษก ถึง 2 ครั้ง ใน 2 ประเทศ
ครั้งที่ 1 ณ ประเทศอินเดีย วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2541
ครั้งที่ 2 ณ อุโบสถวัดแก้วแจ่มฟ้า สี่พระยากรุงเทพ วันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2541
■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■■
Cr..,ข้อมูลจากร้าน ภาพเก่า
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
