Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส้มจี๊ดลอยแก้ว
•
ติดตาม
16 ธ.ค. 2021 เวลา 14:02 • ประวัติศาสตร์
🌺Deva Manor🌺
ค่าเฟ่สุดสวยย่านเทเวศน์ ที่เคยเป็นพระตำหนักใหญ่ของวัง ที่ปากคลองผดุงกรุงเกษม
1
Manor = บ้านขุนนาง
Deva = มาจากนามสกุล อนิรุทธเทวา
เล็งไว้นานแล้ว ด้วยไม่ไกลบ้าน จริงๆ ร้านนี้ เปิดตัวตั้งแต่เดือนตุลา เมื่อปีที่แล้ว อยู่ไม่ไกลท่าเรือเทเวศน์ คือระดับเดิน 20 ก้าวถึง
ไหนๆ จะเยือนหัวลำโพงทั้งที เราก็จอดรถไว้แถบนี้ แล้วนั่งเรือ ไฟฟ้าฟรี ล่องคลองผดุงกรุงเกษม ไปเจอเพื่อนที่นัดกันไปถ่ายรูปอำลาหัวลำโพง แล้วพา 2 คุณนายล่องเรือ ย้อนกลับมาทานข้าวกลางวันที่ร้านนี้ดีกว่า
Deva Manor คือพระตำหนักใหญ่ ของวังปากคลองผดุงกรุงเกษม เคยเป็นที่ประทับของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ
จันทบุรีนฤนาถ ต้นราชสกุลกิติยากร นั่นเอง
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเป็นตำหนักที่ประทับ ตำหนักนี้ สร้างเสร็จเมื่อ ปีพ.ศ. 2439 ก็ตั้ง 125 ปีมาแล้วค่ะ
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ. 2475 ทายาทได้แบ่งขายที่ดินในวังออกเป็น 3 ส่วน
1.บริเวณตำหนักหม่อมเจ้านักขัตรมงคล
ตำหนักนี้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ ในรัชกาลที่9 ได้ประทับตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ปัจจุบันเป็นที่พำนักของทายาทราชสกุล กิติยากร ต่อมาภายหลังคือวังเทเวศน์
2.ตำหนักหม่อมเจ้าขจรจบ กิตติคุณ ปัจจุบันอยู่ในส่วนการดูแลของกรมส่งเสริมสหกรณ์
3.บริเวณพระตำหนักใหญ่ ที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ
ก็ที่กลายมาเป็นร้านนี้แหละค่ะ
เราเดินผ่านพระตำหนัก ทั้ง 3 หลังนี้บ่อยๆ มานานแล้ว เพราะใกล้โรงเรียนลูก ใกล้ตลาดเทเวศน์ เห็นแต่รั้วติดกันยาวๆไป
และถ้านั่งเรือด่วน มองจากแม่น้ำเจ้าพระยา จะเห็นส่วนตำหนักริมน้ำหลังนึง คงจะเคยสวยมาก ยังเห็นร่องรอยความงามแต่ทรุดโทรมเต็มทีไปตามกาลเวลา
Deva Manor เป็นตึก 2ชั้น สีขาวทรงสี่เหลี่ยม ตกแต่งด้านหน้าเป็นซุ้มโค้ง ประดับกระจกเป็นรูปพระอาทิตย์ ผนังเป็นเสาอิง แบบDoric และ Iconic ด้านหน้ามีตุ๊กตาปูนปั้นสีขาวแบบกรีก
ตำหนักนี้ ได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของพระยาอนิรุทธเทวา หรือ มล.ฟื้น พึ่งบุญ ซื้อไว้เป็นที่พำนักส่วนตัว หลังจากขายบ้านนารายณ์บรรทมสินธุ์ให้แก่รัฐบาล บ้านนี้ มีช่วงปิดร้างอยู่หลายปี
ปัจจุบัน ทายาทคือ พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ได้ทำการบูรณะยาวๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 และ เปิดเป็นคาเฟ่เมื่อตุลาปีก่อนที่เล่าค่ะ
จานที่พวกเราชอบ คือ ข้าวผัดพระตำหนัก เป็นเมนูเก่าแก่ประจำบ้าน คือพอมาถึง เราสนใจเมนูประจำตระกูลก่อนเลย อาหาร มีให้เลือกไม่มากนักตามภาพค่ะ แต่รสชาติก็อร่อยดี
เฟอร์นิเจอร์เก่า แทบไม่มีเหลืออยู่แล้ว เราเลือกนั่งรับประทานกันที่ห้องโถงใหญ่ด้านล่าง
ส่วนชั้น2 เคยเห็นในรูป สวยงามดี แต่ถ้าต้องการขึ้นไปชม ต้องติดต่อมาล่วงหน้าเป็นการส่วนตัวค่ะ
ข้อมูลเหล่านี้ ได้จากการยืนอ่านข้อมูลที่แสดงไว้ที่ด้านในตำหนักนี้ค่ะ
บันทึก
4
2
2
4
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย