มีเป้าหมาย แต่ทำยังไงก็ไม่สำเร็จซักที!!
เพราะ 'นิสัยไม่ดี' ที่ยังแก้ไม่หาย อยากแก้แต่ไม่รู้จะแก้ยังไงดี?
5 กลยุทธ์เพื่อกำจัด ‘นิสัยไม่ดี’ ที่ขัดขวางความสำเร็จของคุณ
หนังสือ 'The Compound Effect' | สำนักพิมพ์ บิงโก
1. จดบันทึกนิสัยไม่ดีของตัวเอง
ค้นหานิสัยที่ไม่ดีของตัวเอง แล้วหาว่าอะไรคือตัวกระตุ้น
ที่ทำให้เกิดนิสัยเหล่านั้น ด้วยหลักการ 4 ข้อ
“ใคร” “อะไร” “ที่ไหน” “ตอนไหน” เช่น
📝 ในแต่ละวัน มีช่วงเวลาหนึ่งที่คุณรู้สึกว่า
จะต้องกินกาแฟใช่ไหม? เช่น
✅ ฉันอยากกินกาแฟช่วงบ่ายของทุกวัน
📝 อารมณ์ด้านใดที่ปลุกให้ 'นิสัยไม่ดี'
ในตัวคุณปะทุขึ้นมา? เช่น
✅ ความเครียด ทำให้อยากสูบบุหรี่
✅ ความเหนื่อยล้า ทำให้อยากกินกาแฟ น้ำอัดลม
📝 คุณมีอารมณ์เหล่านั้นตอนไหน? อยู่กับใคร?
อยู่ที่ไหน? กำลังทำอะไรอยู่? เช่น
✅ ฉันอยากกินกาแฟตอนบ่ายเวลาอยู่ออฟฟิศ
📝 สถานการณ์ใดที่ปลุกให้นิสัยไม่ดีในตัวคุณปะทุขึ้น? เช่น
✅ อยากกินสูบบุหรี่ทุกทีเวลาจะประชุม
✅ อยากกินกาแฟช่วงกำหนดส่งงาน
2. ปิดทุกช่องโหว่ของตัวเอง
🔍 อยากเลิกกินกาแฟในออฟฟิศตอนบ่าย
วิธีแก้:
💡 เลิกเดินเข้าไปในห้องอาหารของออฟฟิศ
ในเวลาเดิมที่คุณมักจะเข้าไปชงกาแฟ
🔍 อยากควบคุมรายจ่าย
วิธีแก้:
💡ปิดการแจ้งเตือนร้านค้าในโซเชียล
ที่คอยจะโพสต์แต่สินค้าลดราคาให้หมด
โปรเด็ดแค่ไหนก็ทำอะไรคุณไม่ได้!!
🔍 อยากกินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น
วิธีแก้:
💡 นำอาหารที่ไม่มีประโยชน์ออกจากตู้กับข้าวให้หมด
3. เปลี่ยนนิสัย
ลองดูรายการ 'นิสัยไม่ดี' ที่คุณจดบันทึกไว้อีกครั้ง
แล้วถามตัวเองว่า...
1️⃣ ฉันจะปรับเปลี่ยนเพื่อไม่ให้มันเป็นอันตรายต่อตัวเองได้ไหม?
2️⃣ ฉันจะแทนที่มันด้วยนิสัยที่มีประโยชน์ต่อตัวเองได้ไหม?
3️⃣ ฉันจะกำจัดมันทิ้งไปถาวรเลยได้ไหม?
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีนิสัยชอบกินขนมกรอบๆ
ตอนดูโทรทัศน์ ให้ลองแทนนิสัยไม่ดีนี้ด้วยการเคี้ยว
“ความกรอบ” ของแครอท หรือขนมเพื่อสุขภาพที่มี
“ความกรอบ” แทน
นอกจากคุณก็ยังจะได้เลิกนิสัยไม่ดีแล้ว
ยังได้ประโยชน์เพิ่มด้วย
(แม้ว่ามันอาจจะทดกันไม่ได้ในเรื่องของรสชาติ
แต่ก็ยังดีกว่าการไม่ปรับเปลี่ยนอะไรเลย)
4. เปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป
ถ้าคุณอยากเลิกดื่มกาแฟ
ลองปรับเปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไปดู
วิธีแก้:
💡 ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน 50%
และไม่มีคาเฟอีน 50% ใน 1 สัปดาห์
💡 ดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีน 100%
ในสัปดาห์ถัดไป
💡 ดื่มเครื่องดื่มชาที่ไม่มีคาเฟอีน เช่น ชาสมุนไพร ชาคาโมมายล์
เพื่อทดแทนความกระหายในสัปดาห์ถัดๆ ไป
และอย่าลืมว่าต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป
เพื่อที่จะไม่ต้องรู้สึกทรมานที่ต้องเลิกดื่ม
หรือมีอาการปวดหัว ง่วง สมองล้าต่างๆ แทน
5. หักดิบไปเลย
กลยุทธ์แบบ “ค่อยเป็นค่อยไป” อาจจะไม่เวิร์กสำหรับทุกคน
คนบางกลุ่มอาจจะเหมาะกับการหักดิบไปเลยมากกว่า
คุณอาจจะต้องเจ็บปวดในช่วงแรก
แต่ความเจ็บปวดนั้นจะสลายไปในเวลาอันสั้น
การยอมรับความไม่สะดวกสบายเพียงชั่วคราว
จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ซึ่งวิธีนี้ใช้ได้บางกรณีเท่านั้น
คุณอาจจะก็ต้องคิดเองแล้วว่ามันเหมาะกับคุณไหม
📖 ข้อคิดดีๆ จากหนังสือ: ‘The Compound Effect’ (พิมพ์ครั้งที่ 2)
🛒 ช่องทางสั่งซื้อออนไลน์: https://shp.ee/4e5z6nb
📚 ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
#สำนักพิมพ์บิงโก | สำนักพิมพ์ที่นำความรู้เกี่ยวกับธุรกิจและพัฒนาตัวเองจากต่างประเทศส่งตรงถึงมือคุณ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
