26 ก.พ. 2023 เวลา 04:35 • ไลฟ์สไตล์
การตั้งคำถามที่ถูกต้อง ส่งผลต่อมิติของการสั่งสมประสบการณ์ การเรียนรู้ และ การแก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตได้อย่างไร
---
วันนี้อยากจะชวนมาถก เรื่องปัญหาเล็กๆน้อยๆ กัน อาจจะยาวสักหน่อย เป็นเสมือนนั่งฟังคนคุยกัน แต่ลองคิดตามว่า การพลิกแพลงคำถาม สามารถเปลี่ยนโฟกัส ที่นำไปสู่การเรียนรู้มุมมองใหม่ได้อย่างไร
สมมุติว่า...ถ้า เราติดซีรียส์มาก จนไม่อยากทำอะไรอื่น.. เราจะตั้งคำถามเพื่อแก้ไขยังไง
ถ้าตั้งมาว่า "จะแก้ไขความขี้เกียจของตัวเองยังไงดี โดยเฉพาะ เมื่อติดซีรียส์ ?"
อ่านประโยคแล้ว มักจะเข้าใจไปว่า ตัวเองเป็นคนขี้เกียจ และขี้เกียจหนักไปอีกเมื่อติดซีรียส์
ด้วยประโยค ตั้งนำมาแบบนี้ สมองเราจะพยายามหาคำตอบว่า ทำยังไงจะเลิกติดซีรียส์ (ทั้งๆที่ตัวเอง "เป็นคนขี้เกียจ")
การจะแก้ไขเรื่องอะไรสักอย่าง ต้องตั้งต้นที่ความคิด "ที่แจ่มชัด" โดยเฉพาะ ให้เห็นแก่นของประเด็นปัญหานั้นๆ
จากประโยคคำถามเดิม ถ้าลองวิเคราะห์พิจารณาตัวประเด็นปัญหานั้นใหม่ ตั้งคำถามใหม่ .. ฉัน..เป็นคนขี้เกียจ จริงอ่ะเหรอ?...ถ้าไม่ใช่..ลองทำคำถามให้ถูกต้องกว่าเดิม
"ความขี้เกียจ(ทำงาน) เกิดขึ้นเพราะอะไร ซีรีย์มาทำอะไรกับพฤติกรรมของเรา" ถามแบบใหม่นี้ มันไม่เกิดการ "แปะป้าย (define)" ไปที่ตัวคุณลักษณะของ ตัวเอง
กล่าวคือ ประโยคคำถามใหม่นี้ จะไม่มีความหมายถึง "ฉัน" เป็นคนขี้เกียจ อยู่เลย แต่จะมี "ความขี้เกียจ" ที่เป็นตัวพฤติกรรม และ "ซีรีย์ส" มาเป็นประเด็นหลักแทน
ประโยคลักษณะนี้ เจาะประเด็นตรงไปในจุดที่ ช่วยให้เข้าใจ "ตัวปัญหา" นั้นแจ่มแจ้ง เมื่อเข้าใจต้นตอปัญหาที่ถูกต้อง, วิธีแก้(ที่ตรงจุด) มันจะหลุดออกมาเอง
---
ถ้าลองขยายคำถาม ให้ตรงจุด ที่พฤติกรรม มากขึ้น เป็น --> "การติดซีรียส์เป็นเพราะเราติดอะไรในนั้น (เราจึงเลือกใช้เวลาอยู่กับมัน มากกว่า การทำงาน)"
ลองโฟกัสที่ตัวประเด็นปัญหาในคำถามนี้ แล้วดูกันว่า เราจะได้อะไรออกมา
ลองขยายความประเด็น คำว่า "ติด" คือยังไงกัน ก่อน?
คน"ติด (addicted to)" อะไรสักอย่าง มีเยอะแยะ ... ติดการใช้มือถือ ติดอ่าน facebook, ติดอ่าน feed ต่างๆ บนมือถือ .. อันนี้ ก็ถือว่าติด แต่จะติดแบบไม่มีโฟกัส ไถๆ อ่านไปเรื่อยๆ
แต่คนติดซีรียส์อยู่ในกรอบของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง.. ความเข้มข้นของการติด มันดูจะรุนแรง (intense) เพราะ ผู้กำกับหนังซีรียส์เค้ารู้ใจคนดู เค้าสร้างกรอบและเส้นทางให้เราตามต่อแบบปล่อยไม่ได้เลยทีเดียว
การติดซีรียส์เป็นเพราะเราติดอะไรในนั้น...คำว่า "อะไร" ในคำถาม ... จะนำสมองไปหาคำตอบ...อาจจะได้คำตอบเป็น..ตัวความรู้สึกลึกๆ ที่ตัวเองขาด (เช่น ความรัก ความผูกพัน ความตลก ในหนัง ที่เราไม่เจอในชีวิตจริง) จึงทำให้หลงใหลในโลกที่ผู้กำกับสร้างขึ้นมาให้
ถามแบบนี้ จะช่วยให้เราเข้าใจตัวตนของเราได้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในชีวิตจริงได้ต่อไป
ในครั้งนี้ พอ เราได้คำตอบของคำถามใหม่ เข้าใจว่าเราติดอะไร ในซีรีย์เรื่องนี้
ืีทีนี้ พอเราจะเริ่มดูซีรีย์เรื่องถัดไป คำถามนี้ผุดขึ้นมา เราอาจจะระวังตัวเอง และจับความรู้สึก" ติด ซีรีย์" ของตัวเองได้ก่อนจะ เข้าไปติด งอมแงม แบบเดิม
--
คำถามที่ทำให้เรา ได้ประโยชน์ในชีวิตอีกอันก็เช่น "ไหนๆก็ ติดซะจน ไม่หลับไม่นอนแล้ว.. .เราจะเอาเวลาที่เรา ติด ดูซีรียส์นั้น ดึงให้มันเกิดประโยชน์กับเราได้ยังไงดี"
เอาจริงๆ ที่ "ติด" ก็เพราะอยากรู้ว่าตอนต่อไปเป็นยังไง มันน่าหาคำตอบในสิ่งที่ค้างคา.. ก็มันอยากรู้ แบบจริงๆจังๆ เลยเลิกไม่ได้... ต้องดูต่อ ๆ จนหายอยากรู้..
ถ้าคนไม่อยากรู้ ไม่จริงจัง ความรู้สึกนี้จะไม่ค่อยมีใช่มั้ย คือ ดู รู้ ก็ผ่านๆ ปล่อยไปก่อน เดี๋ยวค่อยรู้ก็ได้..
แปลว่า คนติดซีรีย์ส์ อันที่จริงเป็นคนช่างสงสัย และจริงจังกับชีวิต...เหมือนกันนะ...
ในเรื่องที่เราติดอยู่ อาจจะมีแนวทางอาชีพเช่น ตำรวจสืบสวน, การทำธุรกิจ ที่เราสนใจอยู่ลึกๆ
อ่ะฮ่า...ถ้าคนที่ติดซีรียส์รู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ใช้ความอยากรู้อยากเห็น ลึกๆ ของตัวเอง ดึงออกมาใช้ในชีวิต มันจะพลิกเกมส์ได้เลย
ประเด็นคือ ต้องหา สิ่งที่ ทำให้เราอยากค้นหาคำตอบ อยากรู้อยากเห็น นั้น ให้เจอ เพราะถ้าเจอแล้ว ก็คงกัดไม่ปล่อย ..ด้วยความที่เป็นคนจริงจัง ไม่หลับไม่นอนได้
ดังนั้นคำถามที่เหมาะสมต่อไปก็คือ--> "เมื่อเรารู้ศักยภาพตัวตนของ เราที่ซ่อนอยู่ คือความเป็นคนช่างสงสัย และจริงจังกับชีวิต, แล้วจะดึงข้อดีตรงนั้นมาใช้ได้อย่างไร "
" ข้อดีของการติดซีรียส์ มีอะไรบ้าง " เป็นอีกมุมของการตั้งคำถาม
ถ้าเราหานั่งคิดหาคำตอบ ลองคิดว่า ซีรียส์เกี่ยวกับทนาย เกี่ยวกับสืบสวน เกี่ยวกับแพทย์ ฯลฯ ทำให้ เรา “เรียนรู้” โลกของสิ่งนั้นได้รวดเร็ว เราจะเข้าใจชีวิตและซึมซับหลักการ วิธีคิด หรือ ความดี ความไม่ดี เรื่องจริงที่ซ่อนอยู่ ฯลฯ ของโลกนั้นๆไปเองแบบไม่ต้องใช้ความพยายาม เพราะความต่อเนื่อง และความซ้ำ หลายตอน ของซีรียส์ ที่ย้ำให้เราเห็นทั้งภาพ และเสียง
ไม่แปลกที่เกาหลี ใช้ ซีรียส์ในการโปรโมท โฆษณา วัฒนธรรมของประเทศตัวเองให้ต่างชาติหลงใหลในเวลาอันรวดเร็ว
ในเมื่อ เราจะเอาเวลาที่เรา ขยัน ดูซีรียส์นั้น ดึงให้มันเกิดประโยชน์กับเรา...ถามต่อว่า คุณภาพของสิ่งที่ส่งผ่านมาให้เราเรียนรู้ ก็คือ คุณภาพ ของหนังซีรียส์ ที่เราดู... ใช่มั้ย?
ดังนั้น เราจะเกิดแนวทางว่า ควรเลือก ซีรียส์ที่ดี มีคุณภาพ สร้างได้ตรงความจริง สอนให้เราเรียนรู้ได้
เช่น ถ้าเราจบวิศวะ ไม่เคยรู้เรื่องทนาย.. พอมาดูซีรียส์ เกี่ยวกับ คดีต่างๆ มีทนายเป็นนางเอก แบบนี้ เราจะซึมซับแนวทางการทำงาน ลักษณะการพูด รึกลเม็ด อุบายในการพิจารณาคดี รู้จัก อัยการ ศาล ทนาย ว่าต่างกันอย่างไร มีหน้าที่ยังไง ได้เอง
ถ้าเอาซีรียส์สอนคุณธรรม มาให้ลูกหลานดู เค้าก็ซึมซับแนวคิดไปเอง อย่างรวดเร็ว เราไม่ต้องเหนื่อยสอน
ที่เราคิดได้ ก็เพราะ เราผ่านประสบการณ์ การติดซีรียส์มาเองแล้วนั่นไง แต่ไม่ได้ติดอย่างเดียวนะ .. เพราะเราตั้งคำถามได้ถูกต้อง ทำให้แทนที่จะเป็นปัญหา อาจจะกลายเป็น ประโยชน์ให้ชีวิต (ตัวเอง รึคนอื่น) ได้เลย
--
สรุปก็คือ
การตั้งคำถาม คือกระดุมเม็ดแรก ในการสั่งสมประสบการณ์
เราจะผ่านประสบการณ์นึงไปอย่างล่องลอย
รึเราจะใช้ทุกประเด็นปัญหา และ
"การตั้งคำถามที่ถูกต้อง"
มาทำให้เราได้ประโยชน์จากทุกๆประสบการณ์ชีวิต
อยู่ที่เรา หยุดคิด พิจารณา หาคำถามที่ถูกต้อง มาตั้งต้น ให้ตัวเองหาคำตอบอยู่เสมอ
คำถามที่คนนึงมองว่าเป็นปัญหา ที่แก้ไม่ได้ แต่พอพลิกประเด็นคำถาม กลับนำไปสู่การมองเห็นแง่คิดใหม่ ที่ไม่โฟกัสไปที่การแก้ปัญหาเดิม แต่มองเห็นประโยชน์บางอย่างที่ซ่อนอยู่แทน
การพลิกมิติของคำถามใหม่ไปเรื่อยๆ นี่แหล่ะ เป็นทักษะสำคัญ ที่อยู่ในทุกองค์ประกอบของความสำเร็จ และการได้มาซึ่งความรู้ที่ลึกซึ้ง ทั้งความรู้สายอาชีพ และความรู้จักตนเอง และผู้อื่น
โฆษณา