18 ธ.ค. 2021 เวลา 07:55 • ความงาม
Burberry Her Blossom
หลังจากที่ My Burberry เป็นน้ำหอมหญิงดาวเด่นมาตั้งแต่ปี 2014 จนปูทางต่อยอดรุ่นลูกหลานออกมาเรื่อยๆ จนมามาถึงปี 2017 ที่ออกมาทั้งแบบสายหลักอย่าง My Burberry Blush และสายย่อยอย่าง My Burberry Black Elixir de Parfum ตอนแรกก็คิดว่าสายนี้น่าจะมีรุ่นที่ออกมาต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แน่ๆ เพราะเป็นที่นิยมระดับ Top ของแบรนด์เลยในการกวาดผู้ใช้งานฝั่งสาวๆ ให้มาสัมผัสสไตล์มีเสน่ห์เย้ายวนแกมความมีระดับของแบรนด์ แต่กลับกลายเป็นว่า
ในปี 2018 แบรนด์เองได้เปิดตัว Collection น้ำหอมหญิงใหม่ขึ้นมาและดันให้เป็นหนึ่งในเรือธงใหม่ที่จะทั้งกวาดผู้ใช้งานเดิมและผู้ใช้งานใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพมากขึ้น พร้อมกับการเปิดตัว Logo ใหม่ของแบรนด์ไปในตัวด้วย ซึ่งนั่นก็คือ Burberry Her ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มาตามสเต็ปคือมีรุ่นต่อยอดออกมาเป็นลูกหลานรวมต้นตระกูลแล้วถึง 4 รุ่น ในปัจจุบัน
แต่ในครั้งนี้เราไม่ได้มาว่ากันที่รุ่นต้นตระกูลเบิกทาง (ไว้มีโอกาสว่ากันภายหลัง) แต่ขอมาเจอกันที่สาย Lighter อย่างรุ่น Her Blossom ที่เป็น Eau de Toilette แทนดีกว่า ว่าจะสร้างสรรค์กลิ่นออกมาอย่างไรบ้าง
กลิ่นเปิดค่อนข้างชัดเจนมากกับเนื้อกลิ่นที่บ่งบอกถึงสีชมพู และกลิ่นมีความกำลังดีกลางๆ สดชื่นแกมหวานเป็นที่ตั้ง ซึ่งที่จับต้องได้เลยคือ เนื้อกลิ่นจะมีความเป็น 4 ลูกผสมที่ค่อนข้างเสริมกันได้ดีและมีความเป็นโทนสว่างที่ชัดเจน เริ่มที่กลิ่นโทนหลักเลยคือโทนดอกไม้สีชมพูที่เป็นกลิ่นอายโทนกุหลาบสดชื่นจากดอกโบตั๋นที่จะมีลูกคู่อย่างโทน Citrus ของส้มที่ให้ความหวานอมเปรี้ยวกำลังดี จับได้ว่ามีกลิ่นออกทางเลมอนหน่อยๆ ที่ให้ความสดชื่นรวมอยู่ด้วย และมีโทนออกทางกึ่งพริกไทยที่มีความแกมหอมปร่าติดฟาดแกมมีลูกเอื้อนคล้ายกุหลาบที่เชื่อมโทนกับความเป็นโบตั๋นได้อย่างลงตัว รวมถึงมีลูกเอื้อนที่เป็นโทนออกทางผลไม้สีแดงใสๆ ติดหอมหวานเนียนๆ เล็กๆ คล้ายโทนเบอร์รี่อยู่ข้างในนั้นด้วย ซึ่งทุกอย่างพอผสมผสานรวมตัวกันออกมาก็จะชูโรงกลิ่นอายดอกไม้สีชมพูหวานซ้อนเปรี้ยวสดชื่นแบบชัดเจน ซึ่งกลิ่นมาสไตล์เข้าถึงได้ง่ายและมีความ Mass เต็มๆ
ในการเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอมจะเริ่มมีความมินิมัลแกมเรียบหรูเข้าถึงง่ายมากขึ้น โดยยังคุมโทนสีชมพูอยู่ไม่มีผิดเพี้ยน เพราะโบตั๋นก็ยังคงให้โทนออกทางกุหลาบสดชื่นสีชมพู แต่เริ่มจะมีโทนที่มีความนวลในเนื้อกลิ่นมากขึ้น รวมถึงมีโทนออกทางผลไม้กึ่งลูกพลัมแกมดอกไม้อ่อนๆ แกมกลิ่นดอกไม้ขาวใสๆ ออกทางมะลิที่เป็นลูกคู่เข้ามาร่วมด้วย แต่จะรองพื้นบางๆ ด้วยกลิ่นออกทางโทนแป้งติดโปร่งหน่อยๆ คล้ายดอกไวโอเล็ตที่มาแบบเบาๆ เลยจะได้ความรู้สึกไล่จากกลิ่นโบตั๋นที่ให้ความเป็นกุหลาบสีชมพูอ่อนสดชื่นแกมหวาน ซ้อนด้วยกลิ่นออกทางผลไม้หน่อยๆ ที่เอื้อให้โบตั๋นชัดขึ้น ก่อนจะมีความเป็นแป้งเบาๆ รองพื้น ซึ่งต้องบอกเลยว่าทุกอย่างยังคุมโทนสีชมพูอ่อน ที่ให้ความหวานระเรื่อแกมสดชื่นปลายกลิ่นหน่อยๆ ชี้ทิศทางกลิ่นเป็นโทนหวานใสๆ มีความอ่อนหวานแกมสไตล์เรียบหรูที่เป็นพื้นฐานของแบรนด์ไม่หลุด Concept แต่อย่างใด
รอยต่อระหว่างช่วงกลางกับท้ายจะเริ่มสัมผัสได้ว่าเนื้อกลิ่นมีโทนนวลมากขึ้นอีกหนึ่งสเต็ปจนรู้สึกได้ชัดเจนถึงโทน Musky ที่มากล่อมให้กลิ่นมีความนวลคลอผิวมากขึ้นจนปูทางเข้าสู่ช่วงท้ายที่จะมีโทนไม้จันทน์หอมที่ให้ความครีมมี่ติดกลิ่นไม้ระเรื่อเข้ามาเสริมให้กลิ่น ซึ่งสอดรับกันได้ดีมากกับโทนโบตั๋นแกมดอกไม้ติดปลายกลิ่นผลไม้ที่ตามมาในช่วงนี้แบบเป็นปลายกลิ่น ซึ่งช่วงท้ายคือความมินิมัลแบบเบาๆ เรื่อๆ ไม่เน้นโฉ่งฉ่าง เพราะเป็นสไตล์คลอผิวแบบกลิ่นนุ่มๆ แกมแป้งเล็กๆ ติดกลิ่นสว่างของไม้ครีมมี่เรื่อๆ แล้วฉาบปลายหวานระเรื่อที่ยังให้อารมณ์โทนสีชมพูอ่อนเช่นเดิม ซึ่งถือเป็นการปิดท้ายที่ยังคงเข้าถึงได้ง่ายมากและมีความเป็นโทนเบาๆ Whispering สไตล์เรียบหรูนั่นเอง
เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียน ม.ปลายก็ใช้ได้แล้ว กลิ่นมาสายสีชมพูอ่อนสว่างๆ สดชื่นแกมหวาน เลยแตะการใช้งานได้แทบจะทั้งหมดในยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป จะมีก็แต่การใส่เพื่อออกกำลังกายก็รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืน ไว้ใส่แบบออกงานหรือทั่วไปจะดีที่สุด เพราะกลิ่นมาสายเบา ยังไงก็สู้สายแน่นๆ ไม่ได้แน่นอน
ความทน - อยู่ที่ราว 6 ชม. เป็นสำคัญ มีบวกลบบ้างตีไปเผื่อๆ ที่ราว 2 ชม. ซึ่งส่วนตัวเจอที่ 8 ชม. แล้วก็จะจางไปตามลำดับ เลยเน้นพกพาไปฉีดเติมระหว่างวันด้วยก็ดี
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลงมาเป็นปานกลางซักราวๆ 2 - 3 ชม. ก่อนจะลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวจนเมื่อผ่านไปซัก 4 ชม. ก็จะเริ่มลงมาเป็น Skin Scent ตามลำดับ
สรุป - เป็นน้ำหอมผู้หญิงแบบเต็มๆ เพราะความ Feminine มาทุกสโตรกเลยกับการให้โทนสีชมพูอ่อนที่เข้าถึงได้ง่าย และใช้ง่ายมาก ไม่ได้หวือหวาหรือจัดจ้านมาจากไหน เน้นว่าถ้าไม่คิดอะไรอยากได้กลิ่นแนวอ่อนหวานแกมสดใสสร้างความหวานแบบสีชมพูอ่อนแกมสดชื่นตัวนี้ถือเป็นตัวเลือกได้ดีเลยทีเดียวกับการใส่แบบสบายๆ สไตล์มินิมัลเรียบหรูแบบที่ยังไงก็รอดทางกลิ่นสูงนั่นเอง
หมายเหตุ:
1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
โฆษณา