"คนบูลลี่...ไม่เคยจำ
แต่คนถูกบูลลี่...ไม่เคยลืม”
เราตกอยู่ในวงการบูลลี่กัน
อาจจะโดยรู้หรือไม่ทันรู้ตัว
ทำให้ในบางครั้ง...
คำพูดของเราบางคนที่พูดออกไป
มันกลับทำร้ายจิตใจคนอื่น
เรื่องบางเรื่อง...
ผู้ถูกกระทำยังคงฝังตราบาปอยู่ในใจ
จดจำมันไปจวบจนวันตายของเขา
ถ้าจะให้พูดถึงการบูลลี่
หลายคนอาจจะเข้าใจว่า
คือการที่ใช้คำพูด
หรือเรียกกันไปในทางที่ไม่ดี
หรือใช้ปมด้อยของคนเหล่านั้น
มาล้อเลียนเพียงแค่นั้น
แต่มันไม่ใช่แค่นั้นครับ
มันยังมีการกระทำ
หรือการแสดงออกอีกหลายอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งกันด้วยคำพูด
หรือแม้แต่การกลั่นแกล้งโดยใช้กำลัง
การเอาปมด้อยของเค้ามาล้อเลียน
หรือแม้แต่การเหยียดทางเพศหรือสีผิว
การเย้ยหยันด้อยค่าทางการศึกษา
ไปถึงกระทั่งฐานะชนชั้นทางสังคม
ล้วนเป็นการบูลลี่ด้วยกันทั้งสิ้น
“ไอ้เป๋”
คำพูดที่ใช้เรียกปมด้อย
ของชายผู้มีขาพิการไม่สมบูรณ์
ที่ถูกคนล้อเลียน
กันอย่างคะนองปากในทุกวันๆ
ทำให้เค้าต้องทนก้มหน้า
รับชะตากรรมนั้นไป
ทั้งที่ใจไม่อาจจะรับไหวก็ตาม
“ไอ้สำลี”หรือ“ไอ้ดาร์กี้”
เสียงหัวเราะครื้นเครงสนุกปาก
เมื่อได้ล้อเลียน เสียดสี
เรียกเพื่อนที่มีสีผิวดำ
แทนชื่อเพราะๆที่พ่อแม่ของเค้า
ตั้งชื่อลูกเค้าด้วยความรัก
ในขณะที่เพื่อนที่ถูกเรียกนั้น
ต้องฝืนแกล้งยิ้มเฝื่อนๆอยู่ทุกวัน
“ไอ้กระเทย,ไอ้ตุ๊ด”
แค่ล้อเลียนเรียกเค้าไปแบบนั้น
ก็ดูท่าจะยังไม่หนำใจ
มือไม้ก็ไปบีบก้น จับนม
กลั่นแกล้งสารพัด
ทั้งที่เค้าไม่สมยอม
แต่เราก็ไปใช้กำลังข่มเหง
เพียงเพื่อความสนุกสะใจ
“ลูกสาว”
ได้ถามเค้าหรือยัง?
ว่าเค้าโอเคหรือสะดวกใจ
ที่จะให้เรียกเค้าแบบนี้
ในที่สาธารณะหรือไม่
คุณแค่สนุกปาก แต่เค้าอาจลำบากใจ
หรือใครๆเค้าก็เรียกกันแบบนี้
ไม่เห็นจะแปลกอะไร
จะถืออะไรกันนักหนา
ก็เรียกตามคนอื่นแค่นั้น
ไม่เห็นน่าอายอะไรตรงไหน
“จะคลอดเมื่อไหร่วะ”
ไม่เป็นคนอ้วน คงไม่มีวันรู้สึก
ว่าคำทักทายนี้
มันเสียดแทงเค้าขนาดไหน
แล้วอีกอย่าง เค้าไปอ้วน
บนหัวของคุณเหรอ
ถึงได้ทุรนทุรายดิ้นรนเดือดร้อน
ทำอย่างกับว่าคนในบ้านคุณ
ผอมเพรียวหุ่นเหมือนนางแบบ
กันทุกคนอย่างนั้นแหละ
ยังมีการกระทำ
และคำพูดอีกมากมาย
ที่มันไปทำร้ายจิตใจ
และหัวใจของใครหลายๆคน
ทั้งที่โดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
ส่งผลต่อผู้ถูกกระทำมากมาย
จนถึงขั้นจบชีวิตตัวเอง
บางคนตั้งใจ
เพราะความสนุกปาก
ลองนึกกลับกันดูว่า
ถ้าเราเป็นคนที่ถูกกระทำ
ถูกล้อเลียนต่างๆนาๆ
เรายังคงจะสนุก
และมีความสุขกันอยู่ไหม?
หรือเอาจริงๆเราชอบที่จะมีความสุข
บนความทุกข์ของคนอื่น
“ใจเค้าใจเรา”
หยุดสักนิดแล้วคิดสักหน่อย
ไม่ใช่ว่าอยากจะพูดอะไร
อยากจะเรียกคนอื่นว่าอย่างไร
ก็พล่ามพ่นออกไป
อย่างคนไม่มีความยั้งคิด
ลองถามใจตัวเองดู
ว่าเรามีความสุขนักใช่ไหม
ที่ได้ทำอะไรแบบนี้
หรือบางคนอาจจะคิดมาดีแล้ว
จึงใช้วิธีการบูลลี่คนอื่น
เพื่อปกปิดปมด้อยตัวเอง
“ไม่สวย,ไม่หล่อ,หน้าเบี้ยว,ขี้เหร่,
หน้าหัก,หน้าปลอม,ผอม,เตี้ย,
สิว,ดำ,ขาหมู,จอแบน,เหยิน,เหม่ง,
ตุ๊ด,สายเหลือง,ขุดทอง,กะเทย,คุณโส,กะหรี่, แมงดา,ชะนี,แรด,หากระโปรงมาใส่,โง่,สลิ่ม, ตลาดล่าง,ปัญญาอ่อน,ต่ำตม,ไดโนเสาร์ ”
นี่คือคำที่คนไทยใช้บูลลี่กันมาก
ได้ถูกรวบรวมโดย
Punch Up x Wisesight
ในปี พ.ศ.2563
เป็นเรื่องน่าภูมิใจ
และน่ายินดีหรือเปล่า⁉️
ที่ประเทศไทยติดอันดับ 2 ในโลก
รองจากประเทศญี่ปุ่น เรื่องการบูลลี่กัน
ด้วยการใช้ตัวอักษรผ่าน Social Media
ในปีเดียวกัน (ที่มา : ไทยรัฐ)
สิ่งที่ผมอยากจะฝากก็คือ...
หากเราบังเอิญพลาดพลั้งเผลอใช้คำ
ที่ดูเหมือนด้อยค่ากับผู้อื่นไปแล้ว
และเราย้อนเวลากลับไปแก้ไขไม่ได้
แต่เมื่อเรารู้ตัวแล้วว่า...
เราพลาดไป เราก็ขอโทษกันได้
ขอโทษกันด้วยความจริงใจ
แล้วอีกฝ่ายก็เลือกที่จะให้อภัย
เพื่อปลดล็อกพันธนาการทุกอย่าง
ที่ทำร้ายกัดกินจิตใจตัวเองด้วย
ลงมือทำเสียก่อนที่อะไรๆจะสายเกินไป
เพราะบางทีเราไม่รู้ตัวหรอกว่า
เราเองก็อาจเผลอสร้างบาดแผล
ในจิตใจให้กับคนอื่นๆไปไม่รู้เท่าไหร่?
เห็นเค้ายิ้มใช่ว่าเค้าจะชอบ
เค้าอาจยิ้มเพื่อกำลังกลบเกลื่อน
น้ำตาที่ตกในอยู่ก็เป็นได้
😀ถ้าดื่มเล่า แล้วเพลินก็กดไลค์
ถ้าดื่มเล่า แล้วใช่ก็กดแชร์ได้นะครับ😀
นายหน้าเข้ม - Nainharkhem
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
