#พิมรี่พาย
หลังจากหมอของขวัญเตือนเรื่องการซื้อ filler ผ่านเอเจนซี่ในราคาถูก จึงนำมาสู่การสื่อสารพูดคุยระหว่างหมอ และพิม ซึ่งมี live ที่พูดถึงหมอ เมื่อ live สดที่ผ่านมา
1) เราคิดว่า พิมรี่พายเข้าใจเจตนา #หมอของขวัญ เตือนด้วยความหวังดี ชมหมอน่ารัก จะนัดกินข้าว แต่ระดับภาษา-ถ้อยคำที่เลือกใช้ในการพูดถึง กลับดูไม่ให้เกียรติ ไม่สุภาพใส่หมอ ไม่น่าฟัง
2) คนฟังจะตีความเป็นการประชดราวกับว่า หมอสาระแนมาเตือน ไม่ใช่หน้าที่ตัวเอง ทั้งๆที่เขาเตือนดีๆ จริงๆควรระวังคำพูดในการพูดถึงคนอื่นสักนิด ใส่ใจความรู้สึกสักหน่อย
3) ถ้ามองหมอของขวัญเป็นกัลยาณมิตร ที่เขามาพูดเพื่อแสดงความปรารถนาดีจริง ก็ควรใส่ใจในคำพูด พูดถึงคนที่หวังดีให้มันดีๆ โดยที่ไม่ต้องใส่อารมณ์อื่นใดให้คนมองไม่ดี แค่คำขอบคุณ ซาบซึ้งใจที่เขาหวังดี ทำได้เลย มันไม่ใช่เรื่องยาก
4) เพราะประเด็นดราม่ามีทุกวันให้มี hashtag ของพิมรี่พาย ถ้าไม่อยากมีดราม่าสร้างประเด็นเพิ่ม ใน live สดขายของต้องระมัดระวังการนำเสนอ หรือคำพูดคำจามากขึ้นแล้ว เพราะเลี่ยงให้ตัวเองไม่เป็นประเด็นอีก ที่มันจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ และการเป็นข่าวเสียหายในทางลบ
5) คนเตือน หรือคนที่พูดถึงในกรณีของความผิดพลาด ไม่ได้หมายถึงการเหยียบย่ำคนที่ล้ม หรือผิดพลาดแล้วต้องกระทืบซ้ำเสมอไป คนหวังดีย่อมมีอยู่แล้ว ก็ควรกลั่นกรอง เลือกสรรคนที่ควรฟัง และใช้วิจารณญาณมองด้วยใจที่เปิดกว้าง ว่าใครที่เจตนาดีกับเราจริงๆ ไม่ใช่ทุกคนที่อยากไปซ้ำเติม แต่อยากเห็นการขายของ และการพัฒนาปรับปรุงของพิมรี่พาย เพราะเขาคาดหวังจะเห็นคุณภาพของการทำธุรกิจ
6) คนที่ชอบพิมรี่พาย อาจจะออกโรงปกป้อง หรือมองไปว่าคนอื่นกำลังซ้ำเติมเธอ ส่วนตัวคิดว่า ลัทธิบูชาตัวบุคคลน่ากลัวตรงที่ ความเป็นติ่ง (not all) หลายครั้งขาดสติ บางเรื่องควรอวยเยินยอสรรเสริญ เพราะเขาทำดีนั้นดีแล้ว ให้กำลังใจคนทำดี คนเก่ง แต่ไม่ใช่กับทุกเรื่องเสมอไป ถ้าเราไม่ว่าไปตามเนื้อผ้า ประเทศจะเต็มไปด้วยลัทธิติ่ง สมมติเทพ ที่แตะต้องไม่ได้ อย่าผลิตซ้ำเลย
7) การที่หมอของขวัญเลือก Live สด (เล่าประเด็นนี้ด้วยสื่อสาธารณะ) ไม่ได้ติดต่อไปเตือนพิมรี่พายส่วนตัว เรามองเจตนาส่วนหลักคือการคุยกับผู้บริโภค และการให้ความรู้ทางวิชาชีพแพทย์ด้านเสริมความงาม ให้ระวัง และ #อย่าเห็นแก่ของถูก การมาเตือนที่เกิดขึ้น พุ่งเป้าไปตัวคนซื้อคอร์สเสริมความงาม จึงต้อง live ให้เป็นประเด็น เพื่อเป็นประโยชน์แก่สังคม และความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ จึง live สดออกอากาศในเรื่องการขาย filler ของพิมรี่พายที่มีราคาถูก มิใช่การประจาน หรือชี้ความผิดพลาดให้อับอาย เพราะการขายทุกอย่างต้องระวัง หมอจึงใช้คำว่า 'ขายทุกอย่างไม่ได้'
8 ) คิดว่าหมอของขวัญไม่ได้หิวแสงใดๆ แต่เรื่องที่เป็นประเด็นเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่หมอเองก็มีความรู้ความเชี่ยวชาญโดยตรง จึงเลือกที่จะสื่อสารกับสังคม เพื่อให้ประโยชน์ หมอของขวัญไม่จำเป็นต้องหิวแสงใดๆ เพราะเธอก็อยู่ใน spotlight ที่ไม่จำเป็นต้องหาแสงให้ตัวเอง ในเรื่องที่เธอไม่ได้อิน แต่เรื่องนี้เธออิน เธอเห็นประโยชน์จากการสื่อสารก็มาเล่าให้ประชาชนเกิดความรู้ความเข้าใจ
9) การถูกพูดถึงใน live ถ้าเราเป็นหมอของขวัญ เราคงหน้าชากับบางประโยค และมันก็คงสะท้อนให้เราได้ย้อนคิดว่า เราควรหวังดีกับใคร คนคนไหนที่เราควรสื่อสารด้วยอย่างจริงใจ หรือให้ความช่วยเหลือ เพราะอาจจะไม่ใช่ทุกคนก็ได้ที่เราควรหวังดีด้วย มันฟังแล้วเจ็บจึ้กชอบกล คงต้องรอดูว่าคุณหมอกับพิมรี่พายจะมีนัดกินข้าวอย่างไรกันต่อไปไหม? หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป
คิดว่า ดราม่าคงจะจบด้วยดี แต่การสื่อสารถึงตัวตน และพูดถึงผู้อื่นก็ต้องใช้สติปัญญาเหมือนกัน คิดดีๆก่อนอีกครั้ง เพราะคนฟังไม่ได้รู้สึก happy ก็ควรไปปรับปรุง
#ThinkTalkLoud
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
