🔥สถานการณ์ที่ “Snowdrop” กำลังเผชิญ🔥
Snowdrop กำลังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มากมาย กับประเด็นบิดเบือนประวัติศาสตร์สร้างชาติของชาวเกาหลี
🔆สปอนเซอร์กำลังคิดหนัก
ล่าสุดมีการแชร์รายชื่อสินค้าที่เป็นสปอนเซอร์ให้กับSnowdropผ่านทางสื่อออนไลน์ ชาวเน็ตต่างออกมาแสดงความคิดเห็นว่าจะไม่สนับสนุนสินค้าเหล่านั้น
สินค้าบางแบรนด์เริ่มตัดสินใจออกตัวหันหลังให้กับละครเรื่องนี้
Dyson Korea เพิ่งออกประกาศว่าจะระงับแผนโฆษณาSnowdropทั้งหมดหลังประเมินมูลค่าความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
1 ใน 3 ของสปอนเซอร์ใหญ่หลักอย่าง P&J Group ได้ออกมาประกาศยกเลิกการสนับสนุนเช่นกัน โดยทางตัวแทนได้ออกมากล่าวว่า พวกเขาลงทุนโดยไม่รู้รายละเอียดโครงสร้างเรื่อง และไม่ได้ตรวจสอบอีกครั้งหลังจากทีมงานยืนยันว่าได้แก้ไขฉากที่มีปัญหาแล้ว (ตอนที่มีข้อถกเถียงครั้งแรก) ดังนั้นเมื่อได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหา พวกเขาจึงขอยกเลิกการเป็นสปอนเซอร์และเอาชื่อสินค้าออกจากละครตั้งแต่ตอนที่ 3 เป็นต้นไป
🔆Disney+ถูกวิพากษ์วิจารณ์
ในส่วนของDisney+ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งออนไลน์ก็ถูกรุมกระหน่ำไปด้วยคำร้องเรียนหลังจากเป็นช่องทางที่ใช้ในการออนแอร์Snowdropเช่นกัน
🔆”ยูฮยอนมี” คนเขียนบทถูกตั้งคำถามที่มาของคาแรกเตอร์ในละคร
เธอเคยกล่าวว่านักแสดงนำในเรื่องไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งนั้น
แต่ชาวเนตคิดว่าเธอกำลังบิดเบือนเรื่องราวประวัติศาสตร์ เริ่มจาก…
📍ชื่อเดิมของนางเอกคือ “ยองโช” ซึ่งตามประวัติศาสตร์ “ยองโช” เป็นชื่อที่มีอยู่จริง เธอเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในยุคนั้น สามีของเธอก็เข้าร่วมด้วยเช่นกันและถูกจับไปทรมานจนถึงแก่ความตายด้วยข้อหาการเป็นสายลับ ซึ่งภายหลังคนเขียนบทแก้ชื่อของนางเอกเป็น “ยองโร”แทน
หลังจากออนแอร์ตอนที่ 2 ชาวเน็ตพบว่ามีบางส่วนในละครที่ได้รับแรงบัลดาลใจมาจากบุคคลและสถานที่ทางประวัติศาสตร์อีก 2 อย่าง
📍นั่นก็คือ “พ่อของพระเอก” ผู้เป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงในเบอร์ลินและได้รับรางวัลทรงคุณค่า แต่ไม่สามารถกลับมาเกาหลีใต้ได้ พระเอกจึงต้องใช้ชีวิตเติบโตที่เยอรมัน และกลับมาเกาหลีใต้ด้วยตัวเอง และเขาก็เป็นสายลับ
ซึ่งชีวิตของ ”พ่อพระเอก” บังเอิญมีคล้ายคลึงกับชีวิตของ “Yun Isang“ บุคคลในประวัติศาสตร์ผู้เป็นนักดนตรีที่เบอร์ลิน แต่ไม่สามารถกลับเกาหลีใต้ได้ ในช่วงนั้นนักเรียนเกาหลี-เยอรมันมากมายถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับ
Yun Isang ถึงจะใช้ชีวิตที่เยอรมันกับครอบครัว แต่สุดท้ายในปี 1967 เขาถูกลักพาตัวกลับมาทรมานเพื่อบังคับให้สารภาพและจบลงที่การคุมขัง ยุคนั้นศิลปินหลายคนลงนามเรียกร้องทั่วโลกเพื่อให้ปล่อยตัวเขา
ในปี 1973 เขาเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่เข้าร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยให้กับเกาหลี
ชาวเน็ตคิดว่าคนเขียนบทไม่ควรนำเรื่องราวชีวิตของคนสำคัญที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์มาบิดเบือนว่าเกี่ยวข้องกับการเป็นสายลับเช่นนี้
📍ทั้งๆที่คนเขียนบทจบมาจากมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาและดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ใน “กวางจู” จึงเป็นเรื่องน่าผิดหวังมากเพราะเป็นที่รู้กันว่ามหาวิทยาลัยอีฮวาเป็นสถานที่ที่เหล่านักศึกษาจำนวนมากเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย และเป็นมหาวิทยาลัยสตรีเพียงแห่งเดียวในสมัยนั้น
ชาวเกาหลีใต้หลายคนพูดถึงความคล้ายคลึงกันระหว่าง Hosu Women's University ในละครกับมหาวิทยาลัยอีฮวาที่เป็นแรงบันดาลใจ
“กวางจู”เป็นสถานที่ที่เกิดการสังหารหมู่ที่น่าสยดสยองที่สุดครั้งหนึ่งกับผู้สนับสนุนขบวนการประชาธิปไตย การเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองสถานที่นั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเพราะไม่มีทางที่คนเขียนบทจะไม่รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างลึกซึ้ง
ไม่ได้มีเพียงแค่ส่วนของงานผลิตที่ถูกกระแสต่อต้านอย่างหนัก ทางด้านนักแสดงนำก็กำลังถูกโจมตี..
🔆จีซู (นางเอก)
ชาวเน็ตบางส่วนออกมาคอมเม้นการแสดงของจีซูแบลคพิ้งค์ว่าไม่กลมกลืนไปกับตัวละครอื่นๆ เธอมีคาแรกเตอร์โดดเด่นออกมาแบบแปลกๆ เมื่อแสดงคู่กับจองแฮอิน(พระเอก) และเพื่อนๆรูมเมทของเธอ
🔆จองแฮอิน (พระเอก)
เคยให้สัมภาษณ์กับ Harper’s Bazaar ก่อนหน้านี้ นักแสดงหนุ่มกล่าวว่าสาเหตุหลักที่เขาตั้งใจเลือกเล่นเรื่องนี้เพราะ ”บท” เขารู้สึกมีส่วนร่วมไปกับเรื่องราว และรู้สึกศรัทธามากๆกับคนเขียนบทและผู้กำกับ แม้ตัวเขาเองเกิดในปี 1988 และไม่มีประสบการณ์ในช่วงปี 1987 การได้อ่านบททำให้เขาจินตนาการถึงชีวิตในยุคนั้น
และบทสัมภาษณ์นี้เอง กลายเป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก ว่าจองแฮอินไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ชาติมาก่อนเลยหรือ??
🔆ช่องJTBC
ปิดการแสดงความคิดเห็นออนไลน์บนofficial website
ปัจจุบันยังไม่มีการตอบโต้ใดๆจากทีมผู้สร้าง
~กรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ~
สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
- 16
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
