20 ธ.ค. 2021 เวลา 15:52 • ท่องเที่ยว
Scandinavia in Summer
EP.1: Copenhagen เมืองแห่งเทพนิยาย
Copenhagen เมืองแห่งเทพนิยาย
เริ่มต้นทริปใหม่กันครับ เป็นการท่องเที่ยวยุโรปเหนือหรือ Scandinavia
จริงๆชื่อนี้เรียกตามภูมิศาสตร์และระบบการปกครอง มี 3 ประเทศคือ Denmark,Sweden,Norway ถ้ารวม Finland กับ Iceland ไปด้วยเรียกกลุ่ม Nordic
3
โดยทริปนี้ไปช่วงฤดูร้อนของยุโรปในเดือน กรกฎาคม โดยเริ่มต้นนั่งเครื่องลงประเทศแรกที่ Denmark
Copenhagen เมืองแห่งเทพนิยาย
1
ถ้าพูดถึงประเทศเดนมาร์ก ในความคิดของคนไทยน่าจะคิดถึงเรื่องการปศุสัตว์หรือฟาร์มโคนม ตามชื่อสหกรณ์โคนม ไทย-เดนมาร์ก นั่นเอง ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง 2 ประเทศครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยคือ ขนมการกิน เพราะที่เดนมาร์กเป็นต้นกำเนิดของ Danish Pastry พวกขนมพายมีไส้ตรงกลางแบบต่างๆ หรือคุกกี้เดนิช จากการผลิตเนย นม จากฟาร์มโคนม
3
Denmark ยังได้รับสมญานามอีกชื่อว่า "ดินแดนแห่งเทพนิยาย" เพราะเป็นบ้านเกิดของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน (Hans Christian Andersen) นักแต่งนิทานและนักเล่านิทานผู้มีชื่อเสียงระดับโลก
3
Hans Christian Andersen เครดิตภาพ: https://disney.fandom.com/wiki/Hans_Christian_Andersen
โดยเฉพาะเรื่องเงือกน้อย (The Little Mermaid) หรือลูกเป็ดขี้เหร่ (The Ugly Duckling) ซึ่งเราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก จริงๆเค้ายังแต่งเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่อง นอกเหนือจากนิยายที่เป็นเรื่องเล่าแล้ว สภาพบ้านเรือนรวมถึงสถาปัตยกรรมอาคารสำคัญต่างๆ อย่างพระราชวัง ยังชวนให้เรานึกถึงเรื่องเล่าในเทพนิยายอีกด้วยครับ
3
มาเริ่มการเดินทางตามรอยกันได้เลยครับ
โคเปนเฮเกน เมืองหลวงที่ดูไม่พลุกพล่าน ผู้คนใช้จักรยานเดินทางกันเยอะ
สภาพบ้านเรือนอาคาร ถ่ายไว้ระหว่างนั่งเดินทางบนรถ
The Little Mermaid
Den Lille Havfrue
The Little Mermaid หรือชื่อในภาษาท้องถิ่นคือ Den Lille Havfrue สร้างขึ้นอ้างอิงจากตำนานที่เหล่ากะลาสีเรือเชื่อว่ามีวังนางเงือกที่อาศัยอยู่รวมกันใต้ทะเล Øresund ที่กั้นระหว่างเมืองโคเปนเฮเกนกับคาบสมุทรส่วนที่เป็นประเทศสวีเดน ตามตำนานนางเงือกมีอายุขัย 300 ปี ก่อนจะสูญสลายเป็นฟองอากาศหายไปในทะเล
3
เว็บไซท์ City Guide ของเมืองนี้ https://www.copenhagen.com ได้จัดรูปปั้นนางเงือกนี้อยู่ในอันดับ 3 ของ 10 Must-See ของเมืองนี้ครับ ตั้งอยู่บริเวณที่เป็นแหลมทางเดินริมทะเลของท่าเรือโคเปนเฮเกน นักท่องเที่ยวมามุงถ่ายรูปเยอะมากครับ
ประวัติการสร้างรูปปั้นนี้คือ สร้างเมื่อปี ค.ศ.1913 ตามความต้องการของ Carl Jacobsen เจ้าของผู้ผลิตเบียร์ชื่อดัง Carlsberg (ชื่อคุ้นๆไหม) ชาวเดนนิช
3
ซึ่งเกิดความประทับใจหลังจากชมการแสดงบัลเล่ต์ของนิทานเรื่อง The Little Mermaid ผลงานของ Hans Christian Andersen จึงได้ว่าจ้าง Edward Eriksen ศิลปินท้องถิ่นให้สร้างประติมากรรมจากสำริดนี้ขึ้นมาบริเวณก้อนหินแถวท่าเรือ โดยส่วนตัวได้รับแบบมาจากภรรยาของศิลปินเค้าเองชื่อ Eline ส่วนหัวได้แบบมาจากนักบัลเล่ต์หญิงชื่อดัง Ellen Price
3
นักบัลเล่ต์หญิงชื่อดัง Ellen Price ต้นแบบของ Den Lille Havfrue เครดิตภาพ: Pinterest by Anna Kopaczewska de Almeida
รูปปั้นมีขนาดความสูง 1.25 เมตร
รูปปั้นนี้เป็นแลนมาร์คของเมืองนี้คล้ายๆกับรูปปั้นนางเงือกที่หาดสมิหลาบ้านเราเลย แต่คนละเวอร์ชั่นกัน ที่นี่เป็นแบบฝรั่งและสร้างขึ้นมานานกว่าร่วมมากกว่า 100 ปีแล้ว
2
หลังจากเยี่ยมชมจุดไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดที่แรกของเมืองแล้ว เดินต่อลงมาอีกไม่ไกลก็ถึงจุดหมายต่อไปครับ
Gefion Fountain
1
เดินตามถนนเลียบทะเล Øresund ลงมาก็จะพบกับลานน้ำพุที่ชื่อ Gefion Fountain หรือชื่อในภาษาท้องถิ่นคือ Gefionspringvandet เป็นอีกสถานที่หนึ่งซึ่งนักท่องเที่ยวจะมาถ่ายรูปกันครับ เพราะบริเวณรอบๆท่าเรือริมทะเลแถวนี้มีพวกงานประติมากรรมรูปปั้นต่างๆหลายจุดอยู่ครับ
1
Gefion Fountain ฉากหลังเป็น St.Alban's Church
น้ำพุนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908 “Gefion” คือชื่อเทพีในตำนานของชาวสแกนดิเนเวียน ตามตำนานเล่าว่ากษัตริย์ Gylfi ผู้ปกครองดินแดนซึ่งในปัจจุบันคือประเทศสวีเดน ได้กล่าวกับกลุ่มสตรีที่รักสนุกว่า หากอยากมีงานรื่นเริงต่อไปให้ทำการขุดไถแผ่นดินในอาณาจักรให้ได้มากที่สุด โดยให้ใช้วัว 4 ตัว
3
ขณะนั้นมีสตรีชื่อ Gefion อาสาที่จะทำการนั้นเอง โดยเสกลูกชายที่เกิดกับยักษ์ให้กลายเป็นวัวสี่ตัวตามที่ผู้ปกครองให้กฎไว้ และได้ขุดไถเอาดินแดนลากมาทิ้งกองไว้ที่ทะเลตรงที่ได้ชื่อว่า Zealand ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงโคเปนเฮเกนในปัจจุบัน รูปปั้นนี้จึงบ่งบอกถึงตำนานเรื่องเล่าการกำเนิดเมืองนี้ครับ
3
Gefion เทพีในตำนานของชาวสแกนดิเนเวียน เสกลูกชายทั้ง 4 ให้กลายเป็นวัว ขุดไถดินสร้างแผ่นดินกลางทะเล ตำนานการสร้างเมือง Copenhagen
ติดๆกันด้านหลังของลานน้ำพุจะมีโบสถ์แบบโกธิคที่ชื่อว่า St Alban’s Church หรือคนท้องถิ่นบางทีเรียกว่า English Church ก็เป็นจุดถ่ายรูปและฉากหลังของน้ำพุนี้ได้สวยดีทีเดียวครับ
Monument of King Frederik IX | The King of Denmark | 1947 – 1972
รูปปั้นกษัตริย์ Frederik ที่ 9 บริเวณใกล้ๆกับน้ำพุเกฟิออน
อนุสาวรีย์ของกษัตริย์ Frederix ที่ 9 แห่งเดนมาร์ค ครองราชย์ช่วง ค.ศ. 1947 ถึง 1972 ช่วงฟื้นฟูประเทศหลังจากสงครามนาซีที่ยกทัพเข้ายึด เป็นรูปปั้นในชุดพลเรือเอกมือถือหมวก ขนาดสูงกว่าคนจริงๆประมาณ 2 เท่า หันหน้าออกทะเล Øresund อยู่บริเวณลานด้านหน้าของน้ำพุเกฟิออน เดินข้ามสะพานมาก็เจอ
กษัตริย์ Frederik ได้รับการยกย่องว่าได้ทำให้ประเทศเดนมาร์คเจริญขึ้นและฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม โดยใช้หลักการปกครองที่ชื่อ Welfare State หรือรัฐสวัสดิการ
1
หลักการประมาณว่าทุกคนชนชั้นมีสิทธิเท่าเทียมกัน เก็บภาษีจากคนรวยสูงมากเพื่อไปช่วยเหลือคนรายได้น้อย ให้ผู้หญิงได้เข้ามีส่วนในสังคมแรงงาน ลดช่องว่างทางสังคม
ประเทศในแถบนี้หรือเรียกว่านอร์ดิกใช้หลักการรัฐสวัสดิการสมัยใหม่คล้ายๆกัน ค่าครองชีพสูงมาก (เก็บภาษีสูงอันดับต้นๆ) แต่พวกสวัสดิการต่างๆก็ดีมากด้วยเช่นกัน
1
จบตอน
ติดตามอ่านได้ในบทความต่อไปในซี่รี่ย์เดียวกันนี้...
ปล: ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นของผู้เขียน ยกเว้นบางภาพที่เกี่ยวกับบุคคลที่กล่าวอ้างถึง ทางผู้เขียนได้ยกเครดิตกำกับไว้แล้วด้วย
ปล 2: ผู้เขียนเคยเขียนบทความทริปการท่องเที่ยวไว้ที่ platform แห่งหนึ่งของไทย ดังนั้นข้อความต่างๆในบทความนี้จึงมีรูปแบบและเนื้อหาการเขียนเหมือนกันซึ่งเป็นผลงานของผู้เขียนเช่นกัน
โฆษณา